|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
CENTEL ฟุ้งปี'47 รายได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์มีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท สวนกระแสหวัดนก-น้ำมันพุ่ง ขณะที่ในปี'48 เล็งเปิดออฟฟิศในฮ่องกง-เซี่ยงไฮ้หวังเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนผลักดันยอดเข้าจองโรงแรมเพิ่มขึ้น คาดรายได้ปี 2551 จากธุรกิจอาหารและ โรงแรมรวม 8 พันล้านบาท
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) เปิดเผยว่าแนวโน้มผลประกอบการในปี47 ของบริษัทคาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,517 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มในปี 2551 บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจอาหารและโรงแรมรวมจะอยู่ที่ 8 พันล้านบาท
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้รายได้รวมทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรมและกลุ่มธุรกิจอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการเพิ่มช่องทางจำหน่ายหรือจองตั๋วโรงแรมผ่านอินเทอร์เน็ตโดยในปีนี้มีการจองซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตประมาณ 10% ของยอดขายรวม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดจองห้องพักผ่านโรงแรมผ่านอินเทอร์เน็ตเพียง 5% ของยอดจองรวม
นอกจากนี้ โรงแรมในเครือเซ็นทรัลยังปรับตัวด้วยการใช้กลยุทธ์ในการขายตรงกับกลุ่มลูกค้าซึ่งทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันหรือภาวะแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นและที่สำคัญกลยุทธ์การขายตรงให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดีย ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลและทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าจองพักในโรงแรมในเครือเซ็นทรัลมากขึ้น
ส่วนแผนในปี 2548 ในส่วนของธุรกิจโรงแรมเพื่อให้การขยายตัวเป็นไปตามเป้าหมาย บริษัทเตรียมเปิดสำนักงานขายในประเทศจีน 2 แห่งคือที่เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้จองที่พักโรงแรม ส่วนการเจาะตลาดใน อินเดียจะใช้กลยุทธ์ขายตรงมากขึ้นเพื่อดึงลูกค้า เนื่องจากทั้งสองประเทศมีประชากรเป็นจำนวนมากทำให้สามารถเพิ่มฐานลูกค้าไดโดยคาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะเพิ่มประมาณ 8-10%เมื่อเทียบกับปีนี้
โดยสัดส่วนรายได้ระหว่างโรงแรมกับกลุ่มธุรกิจอาหารจะอยู่ในระดับ 50:50 สำหรับธุรกิจโรงแรมในขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการ 4 โครงการ ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว มูลค่าการลงทุน 8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นแผนลงทุนระยะ 3-5 ปี ระหว่างปี 2548-2551 คือ โรงแรมเซ็นทรัลกระบี่เบย์รีสอร์ทซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดได้ภายในปี 2548 โรงแรมและศูนย์ประชุม เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เปิดในปี2551 โรงแรมเซ็นทรัลวงศ์อมาตย์ บีชรีสอร์ท พัทยาเปิดในปี 2551 และโรงแรมเซ็นทรัลภูเก็ต บีชรีสอร์ทภูเก็ต เปิดในปี 2552
นายรณชิต กล่าวว่าในส่วนของเงินลงทุนโครงการในอนาคตที่มีมูลค่ารวมกว่า 8 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งจะมาจากกระแสเงินสดที่เฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้เงินกู้ที่เตรียมกู้จะอยู่ในวงเงิน 5-6 พันล้านบาทเท่านั้น ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสัดส่วนหนี้สินต่อทุนปรับตัวสูงมากนักโดยบริษัทมีนโยบายรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้อยู่ในระดับ 1-1.5 เท่า
สำหรับธุรกิจในกลุ่มอาหารกลยุทธ์หลักยังคงให้ความสำคัญกับการขยายสาขา และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบสนองลูกค้าและเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มธุรกิจของบริษัท
นายคริส เบลีย์ รองประธานบริหาร CENTEL กล่าวว่าภาพรวมธุรกิจโรงแรมในปี 2548 คาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นซึ่งจากตัวเลขประมาณการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ประเมินว่า ในช่วงปี 2548-2551 จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 13-20 ล้านคนต่อปีหรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12-15% ต่อปี ส่งผลให้บริษัทมีความมั่นใจว่าตลาดมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้นและที่สำคัญบริษัทจะหันมาให้ความสำคัญกับการรับจ้างบริหารโรงแรมมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท โดยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีการลงนามสัญญารับจ้างบริหารโรงแรมเซ็นทรัล ดวงตะวัน ที่จังหวัดเชียงใหม่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 1 แห่ง
|
|
|
|
|