Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 ธันวาคม 2547
"ประชัย"ร้องศาลขอสิทธิ์หลังถูกเมินซื้อหุ้นทีพีไอ             
 


   
www resources

โฮมเพจ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) - ทีพีไอ
โฮมเพจ ทีพีไอโพลีน

   
search resources

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย, บมจ.
ทีพีไอ โพลีน, บมจ.
ประชัย เลี่ยวไพรัตน์
Energy




"ประชัย" ร้องศาลฯทวงสิทธิ์ซื้อหุ้นทีพีไอก่อน หลัง "คลัง" เมินตอบรับหนังสือที่ส่งไปก่อนหน้า ด้านทีมคณะผู้บริหารแผนฯโต้คลังทำหนังสือชี้แจงไปแล้ว โดยระบุว่าต้องปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูฯอย่างเคร่งครัด โดยแผนไม่ได้ห้ามมิให้ขายหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิม แต่ก็ไม่ได้ให้สิทธิ์ให้นายประชัยหรือนิติบุคคลที่ผู้บริหารลูกหนี้จัดหามามีสิทธิ์ซื้อหุ้นก่อน

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI) เปิดเผยว่า นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้บริหารลูกหนี้ หรือนิติบุคคลที่ผู้บริหารลูกหนี้จัดหามามีสิทธิ์ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่และหุ้นเดิมของทีพีไอก่อน และขอซื้อหุ้นบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) ที่ทีพีไอเป็นเจ้าของจำนวน 249 ล้านหุ้น เพื่อแลกกับโรงผลิตเม็ดพลาสติกแอลดีพีอี ที่บริษัท ทีพีไอ โพลีน เป็นเจ้าของ หลังจากก่อนหน้านี้ นายประชัยได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอซื้อหุ้นทีพีไอเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่กระทรวงการคลัง ผู้บริหารแผนฯไม่ได้มีหนังสือตอบกลับ

สาเหตุที่นายประชัยตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เนื่องจากตามแผนฟื้นฟูกิจการของทีพีไอที่ได้แก้ไขได้กำหนดให้มีการออกหุ้นเพิ่มทุนของทีพีไอส่วนทุนใหม่จำนวน 11,651 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้กับผู้ร่วมลงทุน และก่อนสิ้นระยะเวลาตามแผนให้เจ้าหนี้ขายหุ้นของทีพีไอส่วนผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 5,898 ล้านหุ้น ให้กับผู้ร่วมลงทุนที่กระทรวงการคลังเป็นผู้สรรหา ซึ่งตามแผนที่ได้แก้ไข และตามคำสั่งศาลที่เห็นชอบด้วยข้อเสนอแก้ไขแผนฯ ไม่ได้ห้ามผู้ถือหุ้นเดิมเข้าร่วมลงทุนทั้งในส่วนของทุนใหม่และส่วนของทุนเดิม

โดยหนังสือที่นายประชัยได้ยื่นถึงกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ระบุว่าขอใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนทุนใหม่ และส่วนทุนเดิมทั้งหมดก่อนที่จะเสนอขายให้กับผู้ร่วมทุนอื่น ทั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติกฎหมายล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 90/74 ,90/75 และคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลาง รวมถึงข้อตกลงที่ตัวแทนกระทรวงการคลัง ผู้บริหารแผนทำไว้กับลูกหนี้ ในคดีไกล่เกลี่ย หมายเลขดำที่ 1/2546 ณ ศาลล้มละลายกลาง โดยหนังสือดังกล่าวระบุให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้ผู้บริหารลูกหนี้มีสิทธิซื้อหุ้นทีพีไอหรือจัดหานิติบุคคล เข้ามาซื้อหุ้นใหม่และส่วนทุนเดิมก่อน โดยขอให้คลังแจ้งผลอนุมัติว่าให้ผู้บริหารลูกหนี้ทราบภายใน 15 วันนับแต่วันที่ยื่นหนังสือ

ในการซื้อหุ้นคืนของนายประชัยให้เหตุผลว่า ผู้บริหารของลูกหนี้เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นผู้ค้ำประกันภาระหนี้ให้กับกลุ่มบริษัททีพีไอทั้งหมด แต่ประสบปัญหาทางการเงินเนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาด ดังนั้นผู้บริหารลูกหนี้จึงควรมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนก่อน ทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ เต็มจำนวนตามแผนฟื้นฟูกิจการ โดยผู้บริหารแผนและเจ้าหนี้ไม่ควรที่จะเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ และผู้ถือหุ้นเดิมเกินควร ในการจัดทำแผนที่มีการแปลงหนี้เป็นทุนในราคาต่ำ และนำไปจัดสรรให้กับผู้ร่วมทุน หรือเจ้าหนี้ทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เต็มแล้วยังเอาธุรกิจของลูกหนี้ไปด้วย โดยการเข้าถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 90%

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารแผนบริษัท ทีพีไอโพลีน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อซื้อหุ้นทีพีไอ โพลีน ที่ทีพีไอถืออยู่ก่อนเพื่อแลกกับโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกแอลดีพีอี ที่บริษัททีพีไอโพลีนเป็นเจ้าของ โดยระบุว่าการขายหรือโอนหุ้นบริษัททีพีไอ โพลีน ให้กับผู้ร่วมลงทุนอื่นจะก่อให้เกิดปัญหาในด้านการบริหารงานไม่สอดคล้องกับผู้บริหารแผนของบริษัท ทีพีไอโพลีน หรือขายให้กับผู้ร่วมลงทุนที่เป็น คู่แข่งทางการค้า หรือตีโอนชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ที่มีความขัดแย้งกับผู้บริหารแผนก็จะทำให้การบริหารกิจการของทีพีไอโพลีน อาจประสบปัญหาได้

ทั้งนี้ ตามแผนฟื้นฟูกิจการของทีพีไอที่ได้แก้ไข ได้กำหนดให้มีการชำระหนี้โดยวิธีการชำระพิเศษส่วนที่ 1 จำนวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ชำระภายใน 1 ปี ด้วยการขายหรือโอนหุ้นบริษัททีพีไอโพลีน ที่เป็นของทีพีไอจำนวน 249 ล้านหุ้น เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายมาชำระหนี้ หรือโอนหุ้นตีใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้

รายงานข่าวระบุว่า คณะกรรมาธิการการปกครองวุฒิสภา ได้เชิญผู้บริหารของบริษัท ปตท. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ธนาคารออมสิน และกองทุนวายุภักษ์ เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ เกี่ยวกับกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่าจะเข้ามาถือหุ้นในทีพีไอ ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ ว่ามีนโยบายอย่างไร เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นเดิมอย่างไร หลังจากได้รับการร้องเรียนจากผู้ถือหุ้น เดิมทีพีไอไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่ของทีพีไอ ซึ่งผู้บริหารแผนฯได้ชี้แจงยืนยันว่า การจัดสรรหุ้นใหม่ของทีพีไอจะยึดคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง ที่ไม่ได้ห้ามให้ผู้ถือหุ้นเดิมของทีพีไอเข้าไปลงทุน

แหล่งข่าวจากคณะผู้บริหารแผนทีพีไอกล่าวว่า ทางกระทรวงการคลังได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังนายประชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า กระทรวงการคลังต้องปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูฯอย่างเคร่งครัด ซึ่งแผนฯไม่ได้ให้สิทธิ์ที่จะต้องขายหุ้นให้นายประชัยก่อนคนอื่น หรือสิทธิผู้บริหารลูกหนี้สรรหานิติบุคคลอื่นเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนทีพีไอ เท่ากับนายประชัยเป็นนายหน้า ดังนั้น คลังไม่สามารถทำได้ตามที่นายประชัยร้องขอ แต่ยืนยันว่าแผนฟื้นฟูฯไม่ได้ห้ามมิให้ขายหุ้นเพิ่มทุนกับผู้ถือหุ้นเดิม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us