Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 ธันวาคม 2547
ขุนคลังมั่นใจแผนกู้ซากทีพีไอพันธมิตรใหม่พร้อมร่วมลงขัน             
 


   
www resources

โฮมเพจ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) - ทีพีไอ

   
search resources

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย, บมจ.
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
Energy




"สมคิด"มั่นใจแผนฟื้นฟู "ทีพีไอ" ดึง 3 พันธมิตรหลัก "กบข.-ปตท.-ออมสิน" ทำข้อตกลงเบื้องต้นในการเข้ามาถือหุ้น คาดไม่มีปัญหา ขณะที่ผู้บริหารแผนทีพีไอแจงคลังมีสิทธิเด็ดขาดในการหาผู้ร่วมทุน และการขายหุ้นทีพีไอโพลีน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดหาพันธมิตรร่วมทุน บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI) ว่า ขอให้คณะกรรมการคณะทำงานจัดหาผู้ร่วมลงทุนและการจัดสรรส่วนทุนและการขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL) ตามแผนฟื้นฟูกิจการของทีพีไอ เสนอเรื่องถึงตนเองเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นให้มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) กับทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และธนาคารออมสินไว้ก่อน ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

สำหรับเรื่องการยกระดับฐานะบริษัทเงินทุน (บง.) และ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ (บค.) เป็นธนาคารพาณิชย์นั้น ณ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเซ็นอนุมัติให้แห่งใดทั้งนั้น

ขณะที่นายสุวิช นิวาตวงศ์ ในฐานะตัวแทนคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (TPI) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯสรุปสาระสำคัญของแผนฟื้นฟูกิจการ TPI ว่า ในส่วนของการปรับโครงสร้างหนี้ภาระหนี้เงินกู้ยืมประมาณ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นดังนี้คือ Tranche A : ภาระหนี้จำนวนเทียบเท่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่อนชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยภายใน 5 ปี โดยมีดอกเบี้ยในอัตรา ดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) -1% สำหรับหนี้สกุลบาท, LIBOR +1% สำหรับหนี้สกุลดอลลาร์สหรัฐและหนี้สกุลเยน และ EURIBOR +1% สำหรับหนี้สกุลยูโร

สำหรับหนี้ในกลุ่ม Tranche B : ภาระหนี้จำนวนเทียบเท่า 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่อนชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยภายใน 10 ปี โดยเริ่มชำระคืนเงินต้นงวดแรกหลังจากชำระหนี้ Tranche A ข้างต้นเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีดอกเบี้ยในอัตรา MLR สำหรับหนี้สกุลบาท, LIBOR+2% สำหรับหนี้สกุลเหรียญสหรัฐ และหนี้สกุลเยน และ EURI BOR+2% สำหรับหนี้สกุลยูโร

ส่วนกลุ่ม Tranche C : ภาระหนี้จำนวนเทียบเท่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ชำระคืนเงินต้นทั้งจำนวนเมื่อสิ้นปีที่ 10 โดยมีดอกเบี้ยในปีที่ 1=1%, ปีที่ 2=2%, ปีที่ 3=3% และตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป =4% และกลุ่มTranche D : ภาระหนี้จำนวนเทียบเท่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ชำระคืนเงินต้นทั้งจำนวนเมื่อสิ้นปีที่ 12 โดยมีดอกเบี้ยในปีที่ 1=1%, ปีที่ 2=2%, ปีที่ 3 =3% และตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป =4% หนี้ที่มีวิธีการชำระพิเศษ : ภาระหนี้จำนวนเทียบเท่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ จะดำเนินการชำระและปลดหนี้ด้วยเงินที่ได้จากการขายส่วนทุนตามแผน และการขายหุ้นทีพีไอโพลีน (รายละเอียดอยู่ในส่วนของการปรับโครงสร้างทุน) ภาระหนี้ดอกเบี้ยค้างจ่ายประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะดำเนินการปลดหนี้ (write off) ดอกเบี้ยค้างจ่ายทั้งหมด

การปรับโครงสร้างทุนลดทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วลงในอัตรา 90% โดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท มูลค่าทุนที่ลดลงดังกล่าวจะนำไปลดผลขาดทุนสะสมของทีพีไอ ซึ่งภายหลังจากการลดทุน จะมีผลทำให้ทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วเดิม 78,489.11 ล้านบาท ลดลงเหลือ 7,848.91 ล้านบาท ทั้งนี้จำนวนหุ้น จะยังคงมีจำนวนเท่าเดิม คือ 7,848.91 ล้านหุ้น ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อขายให้กับผู้ร่วมลงทุนให้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนไว้เพื่อรองรับการออกหลักทรัพย์ให้แก่พนักงานในประมาณ 5% ของ ทุนจดทะเบียน กระทรวงการคลังมีสิทธิโดยเด็ดขาดในการจัดหาผู้ร่วมลงทุน และการขายหุ้นทีพีไอโพลีน

ทั้งนี้ ผู้ร่วมลงทุนจะต้องเป็นนิติบุคคลไทยซึ่งเป็นกองทุนหรือนิติบุคคลที่มีความชำนาญในการประกอบธุรกิจปิโตรเคมี หรือปิโตรเลียม หรือกระทรวงการคลัง โดยอาจเป็นนิติบุคคลเพียงรายเดียวหรือนิติบุคคลหลายรายก็ได้หุ้นที่จะจัดสรรให้แก่ผู้ร่วมลงทุนประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมที่เจ้าหนี้ถืออยู่และหุ้นสามัญเพิ่มทุนรวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดเป็นผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมของทีพีไอจะมีสัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือประมาณ 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

สำหรับผลของการปรับโครงสร้างหนี้และปรับโครงสร้างทุนภาระหนี้เงินกู้ยืมและดอกเบี้ยค้างจ่ายประมาณ 2,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คงเหลือเป็นภาระหนี้ภายหลังการปรับโครงสร้างประมาณ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลขาดทุนสะสมของทีพีไอจะหมดไป ซึ่งหากทีพีไอมีผลกำไรสุทธิ ก็สามารถ พิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เมื่อได้มีการชำระหนี้ก่อนกำหนดหรือมีการลดหนี้เป็นจำนวน ไม่น้อยกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนระยะเวลาดำเนินการตามแผนให้ขยายระยะเวลาดำเนินการตามแผนออกไปอีก 1 ปี โดยให้ครบระยะเวลาดำเนินการตามแผนในวันที่ 31 ธันวาคม 2548   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us