Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 ธันวาคม 2547
แมงป่องปันผล40สต.ต่อหุ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท แมงป่อง จำกัด

   
search resources

แมงป่อง, บมจ.
Entertainment and Leisure




"แมงป่อง" ประกาศปันผลหุ้นละ 40 สตางค์ เอาใจผู้ถือหุ้น โบรกฯแนะเก็บเข้าพอร์ต หลังประเมินแนวโน้มรายได้ปีหน้าคาดว่าจะพุ่งกระฉูดหลังขยายสาขาเพิ่ม คาดราคาเหมาะสมปี'48 อยู่ที่ 6.60 บาท ขณะที่ราคาหุ้นดิ่งสวนกระแสปิดที่ 4.28 บาท ลดลง 0.04 บาท

นางสาวรชยาทิพย์ กลิ่นขจรมนัส กรรมการ บริษัท แมงป่อง จำกัด (มหาชน)(PONG) เปิดเผยว่า ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2547 ซึ่งประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 9 ธันวาคม 2547 ได้มีมติคือ พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงาน ปี 2546 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2547 ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 ธันวาคม 2547

นอกจากนี้ ยังแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล ได้มีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการของบริษัท แมงป่อง จำกัด (มหาชน) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไป

บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ ได้ออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นบริษัท แมงป่อง โดยยังคงแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อหุ้นแมงป่อง โดยประเมินราคาเหมาะสมในสิ้นปี 2548 ที่ 6.60 บาทต่อหุ้น แม้ว่าในไตรมาส 3 ของปีนี้ บริษัทจะมีรายได้จากการขาย 406 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวมีสาขาเพิ่มขึ้น ซึ่งมีส่วนทำให้ยอดขาย VCD และ DVD มีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยสินค้าลิขสิทธิ์แมงป่องที่ทำรายได้ดีในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ เช่น ปักษาวายุ,รักใสๆ หัวใจมหัศจรรย์และอัลบั้มเพลงป่วน เมืองของน้องมายด์

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายสาขาที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่ได้เปลี่ยนนโยบาย ในการตัดค่าลิขสิทธิ์เป็นค่าใช้จ่ายในอัตราที่สูงขึ้นจากเดิมที่ตัดจ่ายภายใน 5 ปี ในอัตรา 20% ทุกปี เป็นตัดจ่ายภายใน 3 ปี ในอัตรา 55%, 33% และ 12% ในปีที่ 1,2 และ 3 ตามลำดับ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้นถึง 38% ส่งผลทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้มีกำไรสุทธิ 35 ล้านบาท ลดลง 69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถ้าเทียบกับไตรมาส 2 บริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 15%

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปี 2548 บริษัทหลักทรัพย์ฟาร์อีสท์ประเมินว่า บริษัทแมงป่องน่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ เนื่องจากจำนวนผู้ที่ใช้เครื่องเล่น VCD และ DVD มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเครื่องเล่นรวมทั้งแผ่นภาพยนตร์ VCD และ DVD มีราคาถูกลง ขณะที่จำนวนสาขาของบริษัทที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 218 สาขาทั่วประเทศ จะทำให้มีช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น และการกลับมาร่วมมือกับสหมงคลฟิล์มอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีทั้งลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทย และต่างประเทศเพื่อนำมาผลิตเป็นแผ่น VCD และ DVD เพิ่มขึ้นโดยในปี 2548 จะมีภาพยนตร์ไทยจากสหมงคลฟิล์ม 13 เรื่อง และภาพยนตร์ต่างประเทศประมาณ 120 เรื่อง เช่น ต้มยำกุ้ง, คนเห็นผี 10, Blade3, Son of the Mask

นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับผู้ผลิตภาพยนตร์ชั้นนำรายอื่นๆ เช่น Five Star, CM Film, RS Promotion และ Matching ซึ่งลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยที่บริษัทได้มา เช่น อุกกาบาต, กั๊กกับกาวน์, หมานคร

สำหรับธุรกิจผลิตภาพยนตร์จะมีการผลิตภาพยนตร์ "บุปผา ราตรี 2" หลังจากนั้นจะยุติธุรกิจการผลิตภาพยนตร์ลง

ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัท แมงป่อง เมื่อวานนี้ (13 ธันวาคม) เปิดตลาดที่ 4.30 บาท จากนั้นได้ปรับตัวสูงสุดแตะ 4.32 บาท ก่อนที่จะมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น และปิดตลาดที่ 4.28 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือ 0.93% มูลค่าการซื้อขาย 1.71 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us