AMC เล็งร่วมทุนกับพันธมิตรผลิตสินค้า down stream ต่อเนื่องกับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 48 โตอีก 20% หลัง เอส ที ซี สตีล ผลิตท่อเหล็กมาร์จิ้นสูง จะทำเงินให้กับบริษัทแม่เต็มปี เตรียมส่งเหล็กรีดร้อนเหล็กเคลือบผิวออกสู่ตลาดทำเงินเพิ่ม

นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย เมทัล จำกัด (มหาชน) (AMC) เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีนี้อีกไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งคาดว่าการดำเนินงานจะโตต่อเนื่องจากปีนี้ เนื่องจากปีนี้เพราะธุรกิจการก่อสร้างยังมีอยู่ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีการก่อสร้างตลอดเวลาอันเป็นผลจากการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

สำหรับงวดไตรมาส 4 ปีนี้ที่กำลังจะปิดงบการเงินลงนั้น พบว่าออกมาดี ซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของผู้ประกอบการเหล็ก ที่ราคาเหล็กได้ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างมีกำไรจากการดำเนินงานถ้วนหน้า รวมทั้ง AMC ด้วย แม้ว่าธุรกิจหลักของ AMC จะเป็นผู้ผลิตเหล็กปลายน้ำ แต่ก็ได้รับผลดีเช่นกัน

นายชูศักดิ์กล่าวว่า การเพิ่มกำลังการผลิตท่อเหล็กที่เริ่มผลิตได้ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการเพิ่มกำลังผลิตครั้งนี้ จะทำให้ผลิตท่อเหล็กได้มากถึง 6 หมื่นตัน จะส่งผลให้ปี 48 ท่อเหล็กจะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 100% จากปีนี้ผลจากการผลิตที่เพิ่มขึ้น

การเพิ่มกำลังผลิตท่อเหล็กนั้น จะดำเนินการโดย เอส ที ซี สตีล ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ซึ่งถือว่ายังมีส่วนแบ่งตลาดเหล็ก ชนิดนี้น้อย ขณะที่มาร์จิ้นท่อเหล็กมีสูงกว่า 7% ซึ่งปีหน้าจากการเพิ่มผลิตรวมของบริษัท จะมีถึง 120,000 ตัน ขณะที่การผลิตเต็มกำลังอยู่ที่ 220,000 ตัน และคาดว่าปี47 จะ มีรายได้รวมไม่ต่ำประมาณ 2,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้ AMC คาดว่าในปี 48 จะยังไม่มีแผนการลงทุนเพิ่ม เพราะเป็นปีที่เก็บเกี่ยวผลจากการลงทุนในปีนี้ แต่ผู้บริหารก็ยังเล็งที่จะลงทุนเพิ่มในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตเหล็ก แต่คาดว่าจะเป็นการผลิตที่เป็น down stream โดยปีหน้าจะส่ง เหล็กรีดร้อน เหล็กเคลือบผิว ออกสู่ตลาดด้วย

"เราคงจะไม่ลงทุนในเหล็กที่เป็นต้นน้ำ เราจะไม่คิดอะไรเกินตัว เพราะบริษัทที่เรา มีคอนเนกชันกันอยู่เขาก็มีความสามารถ ในการผลิตเหล็กต้นน้ำอยู่แล้ว เราจะไม่แข่งกับบริษัทที่ทำธุรกิจอยู่ก่อน ซึ่งเราเชื่อว่าความชำนาญของผู้ผลิตต้นน้ำของไทยเราก็มีความสามารถทุกบริษัท ที่สำคัญการผลิตเหล็กต้นน้ำต้องใช้เงินลงทุนสูงมากด้วย"

ดังนั้น โครงการที่จะลงทุนต่อไปในอนาคต จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหารของ AMC ต้องศึกษาให้ดีก่อนเพราะการลงทุนทำธุรกิจ หากมีพันธมิตรในการลงทุนย่อมดีกว่าการที่จะลงทุนเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งจะทำให้ลดความเสี่ยงได้ทางหนึ่งด้วย โดยคาดว่าการลงทุนจะเป็นขนาดใหญ่หรือกลาง แต่ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ในขณะนี้ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูล อย่างไรก็ตาม ในระยะอันใกล้นี้ AMC จะหาวิธีเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าที่ผลิตด้วย เพื่อทำให้ราคาขายสูงขึ้นกว่าปกติด้วย

ปัจจุบัน AMC ขายเหล็กในประเทศทั้งหมด ไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ แต่ผู้บริหารก็ยืนยันว่า แม้จะขายในประเทศ แต่ราคาขายก็สูงกว่าส่งออกขายในต่างประเทศ เพราะไม่ต้องแบกรับค่าขนส่งในระยะทางไกล ซึ่งต้นทุนค่าขนส่งถือว่าสำคัญ ต่อการดำเนินงาน บวกกับราคาน้ำมันที่ยังคงยืนอยู่ในระดับที่สูง แม้ว่าจะเริ่มปรับลดลงมาบ้างแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม AMC ยังเล็งที่จะส่งเหล็กไปจำหน่ายในจีนด้วยในอนาคต คาดว่าจะส่งออกได้ในปี 49

เนื่องจากจีนยังคงต้องการพัฒนาประเทศตามการเติบโตของเศรษฐกิจ เพราะ AMC ยังอยู่ในระหว่างการยื่นเรื่องเพื่อขอมาตรฐานอุตสาหกรรมต่าง ๆ และหลังจากรัฐบาลจีนประกาศขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ถูกมองว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ผลิตเหล็กปิดตัวลงมากกว่า 30 บริษัท ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ผู้ประกอบการเหล็กในต่างประเทศส่งออกเหล็กไปจำหน่าย ได้ เพราะเชื่อว่าการลงทุนในการก่อสร้างสาธารณูปโภคจะมีอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของบริษัทที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขาย และการให้บริการเพิ่มขึ้น 397.14 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกัน ซึ่งเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากทั้งศูนย์บริการและการจำหน่ายเหล็กรูปพรรณ เพราะได้รับอานิสงส์จากความต้องการเหล็กในตลาดโลก ขณะที่ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มเล็กน้อยจากการควบคุมค่าใช้จ่าย และบริษัทมีกำไร 33.97 ล้านบาทและมีกำไรต่อหุ้น 21 สตางค์

สำหรับ AMC ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมเหล็กขั้นปลาย เพื่อเป็นวัตถุดิบให้แก่อุตสาหกรรมต่อเนื่อง คือ 1) ศูนย์บริการเหล็ก โดยเป็นผู้จัดจำหน่ายเหล็กม้วน ทั้งชนิดรีดร้อนและรีดเย็น และรับตัดจำหน่ายเหล็กแผ่น เหล็กม้วน ตามขนาดที่ลูกค้ากำหนด 2) ผลิตและจำหน่ายเหล็กรูปพรรณ เช่น ท่อเหล็ก และเหล็กโครงสร้าง รูปตัวซี ให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น AMC มีบริษัทย่อยคือ บริษัท เอส ที ซี สตีล จำกัด ประกอบ ธุรกิจผลิตท่อเหล็กทั้งชนิดกลมและเหลี่ยม ซึ่งผลิตได้ในปลายปี 47