Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 ธันวาคม 2547
เก็งปันผลดีTHAIพุ่งสวนตลาดโบรกแนะเกาะติดโอเปก10ธ.ค.             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

การบินไทย, บมจ.
Aviation




หุ้น THAI พุ่งสวนตลาดฯ เก็งกำไรราคาน้ำมันเริ่มอ่อนตัวลงตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน นักวิเคราะห์มองไปได้ไม่ไกล แนะนักลงทุนติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดย เฉพาะหลังการประชุมโอเปกในวันที่ 10 ธ.ค. นี้ คาดมีมติลดกำลังการผลิตปีหน้าลงเพราะอุปทานเริ่มมากเกินไป รวมทั้งการก่อการร้ายในซาอุฯ อาจทำให้ราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นอีกรอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) มีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่น โดยในช่วงเช้าของการซื้อขายราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและมีมูลค่าการซื้อขาย ติดอันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 10 อันดับแรก โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 49.50 บาท ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 49 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท คิดเป็น 1.03% มูลค่าการซื้อขาย 333.35 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น THAI ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน จากราคาปิด 47 บาท เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. มาอยู่ที่ 49 บาทในปัจจุบัน หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.25%

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ราคาหุ้น THAI ดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาหุ้นไม่น่าจะไปได้ไกลนัก เพราะโดยพื้นฐานแล้วบริษัทยังได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินบาท รวมทั้งราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง

"คิดว่าหุ้นไม่น่าจะผ่านแนวต้าน 50.50 บาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ได้ เพราะที่ผ่านมาขึ้นไปทดสอบมา 2 ครั้งแล้ว แต่ถือว่าเป็นแนวต้านที่แข็งพอสมควร" นายวีระชัยกล่าว

ด้านนายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บล. เอเพ็กซ์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันไนเมกซ์ (วานนี้) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากเกิดการก่อการร้ายในประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่ในช่วงสัปดาห์ก่อนราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมากถึง 7 เหรียญหรือ 14% ภายในระยะเวลา 2 วัน หลังจาก ที่อเมริกาประกาศสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และฤดูหนาวไม่หนาวมากอย่างที่คาดไว้จึงเกิดแรงขาย ทำกำไรน้ำมันออกมา

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องติดตามและจับตาในเรื่องของอุปทานน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยโอเปกจะมีการประชุมในวันที่ 10 ธ.ค. นี้และมีการคาดการณ์ว่า จะประกาศลดกำลังการผลิตในปีหน้า รวมทั้งเรื่องความไม่สงบในซาอุดีอาระเบีย ทำให้ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง

บทวิเคราะห์ บล.ซีมิโก้ ระบุว่า เชื่อว่าความสามารถในการทำกำไรของ THAI มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอันเป็นผลจากราคาเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเนื่องมายังการขยายตัวของผลการดำเนินงานปี 48 เรายังคงคำแนะนำซื้อ THAI โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมในปีการ เงิน 2548 ที่ 64 บาท (3.5X PCF) นอกจากนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงทำให้อัตราผลตอบแทนเงิน ปันผลของหุ้นนี้ที่ 6-7% มีความน่าสนใจมากขึ้น

เราประเมินว่าราคาเชื้อเพลิงที่มีแนวโน้มลดลงในช่วง 12 เดือนข้างหน้า (สมมติฐานราคาน้ำมันดิบ Brent จะลดลงจากค่าเฉลี่ย US$37/bbl ในปี 47 เป็น US$30-31/bbl ในปี 48) รวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยให้ THAI ยังคงมีผลการดำเนินงานในปีการเงิน 2548 ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า หลังจากที่ THAI ประกาศผลประกอบการออกมาลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการผลประกอบการและราคาที่เหมาะสมปีหน้าลดลงจาก 72 บาท เหลือ 67 บาท จากเดิมที่เราคาดว่าบริษัทน่าจะมีกำไรสุทธิในผลประกอบการปี 2004/05 อยู่ที่ 13,634 ล้านบาท ลดลงเหลือ 11,691 ล้านบาท

จากการปรับประมาณการลดลงเรามองว่าปัจจัยในเรื่องของราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง และเรื่องของค่าเงินบาท ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อผลประกอบการ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าในปีหน้าบริษัทน่าจะมีการจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำที่ 3 บาท/หุ้น นอกจากนี้ เราปรับประมาณราคาที่เหมาะสมในปีหน้าลดลงจาก 72 บาท เป็น 67 บาท/หุ้น โดยคิดจาก DCF แต่อย่างไรก็ตาม จากการปรับกลยุทธ์ในการบินในปีหน้าเรามองว่าบริษัทยังคงมีความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับสูงอยู่ เรายังคงแนะนำ "ซื้อลงทุน"

ก่อนหน้านี้บริษัท การบินไทย รายงานผลการดำเนินงาน งวด 1 ปี สิ้นสุด 30 กันยายน 47 มีกำไรสุทธิ 10,076.83 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 12,079.39 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นลดลง 8.63 บาท เหลือ 6.14 บาทต่อหุ้นหรือลดลง 17% โดยให้เหตุผลว่า เนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ประกาศว่าจะจ่ายปันผลระหว่างกาล ในผลงานการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง ของปีงบประมาณ 46/47 สิ้นสุด ก.ย.47 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันศุกร์ที่ 14 ม.ค.48   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us