ตลท.เผยปีนี้หุ้นจองระดมทุน 7.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่บจ.แห่ระดมทุน 6-7 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 16% เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ คาดในปีหน้าจะระดมทุนเพิ่มขึ้น

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายในปี 2547 มีบริษัทใหม่ที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และได้มีการระดมทุนเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ทั้งสิ้นประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท ส่วนบริษัทจดทะเบียนเดิมมีการระดมทุน (PO) ประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่ามีการระดมทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 16% นับเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของไทยมีทิศทางที่ดีจึงทำให้บริษัทมีการระดมทุนเพื่อขยายกิจการเพิ่มขึ้น

"ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจประเทศไทยยังมีการขยายตัวที่ดี ประกอบกับมีบริษัทเข้ามาระดมทุนมาก ขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้บางช่วงจะมีความผันผวนบ้างก็ไม่ส่งผลกระทบมากนัก ซึ่งหากเศรษฐกิจในปีหน้ายังคงขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี มั่นใจว่าจะมีบริษัทเข้ามาระดมทุนมากขึ้น" นางสาวโสภาวดีกล่าว

สำหรับในปี 2548 คาดว่าบริษัทจดทะเบียนเดิมเฉพาะที่เป็นบริษัทเอกชนคงจะมีการระดมทุนไม่น้อยกว่า ในปีนี้คือไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท

จากการรวบรวมข้อมูลของผู้จัดการรายวัน ปรากฏว่านับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันนี้มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) จำนวนทั้งสิ้น 49 บริษัทโดยแบ่งเป็นเข้าจดทะเบียนใน SET จำนวน 36 บริษัทและเข้าจดทะเบียนใน MAI จำนวน 13 บริษัท

สำหรับบริษัทที่มีขนาดใหญ่ และมีมูลค่าระดมทุนประมาณ 1 พันล้านบาทขึ้น ที่เข้ามาจดทะเบียนในปีนี้มีเพียง 5 บริษัทเท่านั้น ประกอบด้วยบริษัทไทยออยล์ (TOP) มูลค่าระดมทุน 26,280.32 ล้านบาท รองลงมาได้แก่บริษัทท่าอากาศยานไทย (AOT) ระดมทุน 15,069.60 ล้านบาท, บริษัทไทยน็อคซ์ สเตนเลส ระดมทุนจำนวน 5,250 ล้านบาท, อสมท ระดมทุน 3,434.20 ล้านบาท และบริษัทโพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) ระดมทุน 1,656 ล้านบาท

ส่วนในปีหน้า คาดว่าจะมีบริษัทขนาดใหญ่ที่จะเข้าระดมทุนประกอบด้วยบริษัทไทย เบฟเวอร์เรจหรือเบียร์ช้าง บริษัทอิมแพค เอ็กซิบิชั่น ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทบางกอกแลนด์ นอกจากนี้ยังมีรัฐวิสาหกิจที่จะเข้ามาระดมทุน ประกอบด้วยบริษัททศท คอร์ปอเรชัน,บริษัท กสท และการท่าเรือแห่งประเทศไทย

นายบุญชัย ศรีปรัชญาอนันต์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด กล่าวว่า เงินระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้ถือว่าไม่สูงมากนัก เพราะยังไม่ถึง 2% เมื่อเทียบกับมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ระดับประมาณ 4-5 ล้านล้านบาท

สำหรับเม็ดเงินระดมทุนปี 2548 จะมีการขยายตัวมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆว่าจะมีผลต่อภาวะตลาดุ้นโดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง เช่นปัจจัยราคาน้ำมัน ว่าจะมีผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ และการบริโภคของประชาชนอย่างไรบ้าง รวมถึงปัจจัยเกี่ยวกับความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทที่จะเข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ควรเป็นบริษัทที่มีคุณภาพและมีขนาดที่ใหญ่ ซึ่งการที่มีบริษัทขนาดเล็กเข้ามาจดทะเบียนจำนวนมากนั้นอาจจะไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุน นอกจากนี้ยังจะมีบริษัทจดทะเบียนแห่งอื่นๆ อีก ซึ่งจะระดมทุนในปี 2548 คาดว่า จะมีจำนวนเงินระดมทุนประมาณ 7-8 พัน ล้านบาท

นายวรุตฆ์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่าคาดว่าเงินระดมทุนในตลาดหุ้นไทยปีหน้า มีโอกาสขยายตัวหากหุ้นรัฐวิสาหกิจเช่น ทศท คอร์ปอเรชัน การสื่อสารแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) รวมถึง บริษัทเบียร์ช้างเป็นไปตามแผนว่าจะกระจาย หุ้นได้ในปีหน้าซึ่งทั้งหมดจะช่วยให้ตลาดหุ้น มีมูลค่ามาร์เกตแคปใหญ่ขึ้น