Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 ธันวาคม 2547
L.P.N.ซื้อที่ดินใหม่2แปลง174ล้านประเดิมปี48บุกทำเลใหม่ปิ่นเกล้าผุดคอนโดฯ500ยูนิต             
 


   
www resources

โฮมเพจ แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์

   
search resources

แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.
Real Estate




แอล.พี.เอ็น.ซื้อที่ดินเปล่า 2 แปลง มูลค่ารวม 174 ล้านบาท พร้อมบุกทำเลใหม่ย่านปิ่นเกล้า ผุดคอนโดฯสูง 21 ชั้น 500 ยูนิต เชื่อความต้องการสูง คู่แข่งน้อย อีกแปลงย่านเดิมแฮปปี้แลนด์ ทำคอนโดฯ 500 ยูนิต ทั้ง 2 โครงการเปิดขายไตรมาส 1 ปีหน้า

นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทแจ้งต่อกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรณีซื้อที่ดินเปล่า 2 แปลง เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยมีรายละเอียดดังนี้ คือ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อที่ดินเปล่าเพื่อพัฒนาโครงการปิ่นเกล้า จากนางนฤมล แสงไชยวุฒิกุล โฉนดที่ดิน เลขที่ 1001 เนื้อที่รวม 1,233 ตารางวา ที่ตั้ง ตำบลบางบำหรุ อำเภอบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ใกล้สี่แยกจรัญสนิทวงศ์ ในราคา 127 ล้านบาท โดยกำหนดชำระเงินสดทั้งหมดในวันโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งมีแหล่งเงินทุนจากผลกำไรจากการดำเนินงาน และจากสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ โครงการ ปิ่นเกล้า บริษัทมีแผนพัฒนาเป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย สูง 21 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จำนวนยูนิตประมาณ 500 ยูนิต คาด รายได้ของโครงการ ประมาณ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 18 เดือน คือตั้งแต่เดือนมกราคม 2548 - มิถุนายน 2549 ระยะเวลาการขาย ภายใน 3 เดือน เริ่มในเดือนมกราคม-มีนาคม 2548 สามารถเริ่มโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2549 ผลตอบแทนเบื้องต้น ประมาณ 30% และผลตอบแทนสุทธิประมาณ 20%

อย่างไรก็ดี การเข้าไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในย่านดังกล่าว ถือเป็นทำเลใหม่ของบริษัท ซึ่งเมื่อต้นปี 2547 บริษัทได้มีแผนขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มลูกค้าระดับกลางและครอบครัวใหม่ โดยพัฒนาทำเลใหม่เขตชุมชนหนาแน่นรอบนอก CBD เพื่อกระจายพื้นที่พัฒนาโครงการครอบคลุมทั้ง 4 มุมเมืองของกทม. เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังคงมีต่อเนื่อง จากเดิมที่เน้นพัฒนาโครงการในย่าน CBD

"ทำเลปิ่นเกล้าถือเป็นทำเลใหม่ของบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่ดีมาก เนื่องจากนับตั้งแต่หลังวิกฤตปี 2540 เป็นต้นมา ในย่านนี้แถบจะไม่มีโครงการคอนโดฯใหม่เกิดขึ้นเลย ทำให้เชื่อว่าจะมีความต้องการสูงมาก" นายทิฆัมพรกล่าว

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2547 บริษัทได้ซื้อที่ดินเปล่าโฉนดที่ดิน เลขที่ 245083 เนื้อที่รวม 3 ไร่ 75 ตารางวา ที่ตำบลคลองจั่น อ.บางกะปิ กรุงเทพมหานคร จากธนาคารไทยธนาคาร และ กองทุนรวม วี. แคปปิตอล ราคา 47.25 ล้านบาท

ทั้งนี้ แอล.พี.เอ็น.กำหนดชำระค่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นเงินสดทั้งหมดในวันโอนกรรมสิทธิ์ โดยมีแหล่งเงินทุนจากผลกำไรจากการดำเนินงานและจากสถาบันการเงิน ซึ่งที่ดินแปลงนี้แอล.พี.เอ็น.จะนำไปพัฒนาโครงการแฮปปี้แลนด์ เป็นอาคารชุดพักอาศัย สูง 9 ชั้น จำนวน 3 อาคาร จำนวนยูนิตประมาณ 500 ยูนิต

อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้ารายได้ของโครงการประมาณ 450 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 1 ปี คือระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2548 โดยบริษัทเตรียมเปิดขายโครงการในไตรมาส 1 ปี 2548 เริ่มโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2549 ผลตอบแทนเบื้องต้น ประมาณ 30% และผลตอบแทนสุทธิประมาณ 20%

นายทิฆัมพร กล่าวว่า การที่บริษัทซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว เนื่องจากการที่ได้เข้าไปทำตลาดในย่านนั้นมาตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งแม้ว่าในย่านดังกล่าวจะมีโครงการของบริษัทจำนวน 2 โครงการ คือ โครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ แฮปปี้แลนด์ จำนวน 16 อาคาร 1,530 ยูนิต และโครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ ลาดพร้าว จำนวน 7 อาคาร 856 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 โครงการได้ปิดการขายไปแล้ว และลูกค้าเริ่มทยอยเข้าอยู่อาศัยบางส่วน ซึ่งแม้ว่าบริษัทจะพัฒนามาจำนวนมากแล้ว แต่จากการสำรวจพบว่า ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยระดับกลางอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น บริษัทจึงได้ตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการในย่านแฮปปี้แลนด์ - ลาดพร้าวเพิ่ม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us