Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2543
กานต์ ตระกูลฮุน นักบริหารุ่นใหม่ขององค์กรเก่า             

 

   
related stories

50 ผู้จัดการ (2543)

   
search resources

กานต์ ตระกูลฮุน




เขาเป็นตัวอย่างของการสร้างคนขององค์กรเก่าแก่ของไทย แต่ปรับตัวอยู่เสมอ กว่าจะก้าวขึ้นมาดูแลกิจการเซรามิก ที่มีสินทรัพย์หลายพันล้านบาท ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย และการสร้างผู้บริหาร ที่สามารถกล้าคิดออกจากกรอบ และสามารถสร้างโมเดลใหม่ให้กับธุรกิจ ที่องค์กรเก่าแก่ไม่มีมาก่อนได้ด้วย

เขาเรียกว่า Fashion Business ให้ความสำคัญในเรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในเชิงศิลปะมากขึ้น สำหรับอุตสาหกรรมเซรามิก ซึ่งเชื่อว่าตอบสนองธุรกิจ สร้างมูลค่า เพิ่มมากขึ้น เข้ามาแทน ที่สงครามราคาของสินค้าพื้นฐาน ที่เคยเป็นมา โดยพิจารณาจาก ฐานความสามารถในการผลิต และเครื่องจักรโรงงานไม่แตกต่างกัน

แนวคิดนี้ค่อนข้างขัดแย้งกับยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเน้นประสิทธิภาพการผลิตอย่างมาก อย่างเครือซิเมนต์ไทย มันจึงเป็นสิ่งท้าทายอย่างมาก สำหรับเขาในการสร้างธุรกิจโมเดลใหม่ ที่มีมูลค่าเพิ่มจากการดีไซน์ ขณะเดียวกันก็ต้องการ Economics of Scale ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในโลกธุรกิจก็ว่าได้

กานต์ ตระกูลฮุน มาจากครอบครัวเชื้อสายจีน ที่ค้าขายในย่านใกล้สำนักงานใหญ่เครือซิเมนต์ไทย เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในช่วงเดียวกับ ที่ธุรกิจของครอบครัวล้มละลาย เลยต้องมุทำงาน ทั้งๆ ที่จบปริญญาตรีวิศวกรรมไฟฟ้า เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากจุฬาฯ ที่ไปสมัครงานบางบริษัทไม่รับเพราะเกรงว่าจะไปศึกษาต่อ

เครือซิเมนต์ไทย รับเขาเข้าทำงานโดยส่งไปเป็นนายช่างประจำโรงงาน ที่ทุ่งสง ทางภาคใต้ "ถ้ามันจะออก ก็ให้มันออกไปเลย หากมันอยู่ทุ่งสงได้ ก็คงไม่ไปไหนอีกแล้ว เพราะ ที่นั่นมันไกลสุด และเป็นแดนสีชมพู" เขาเล่าให้ฟังถึงแนวคิดการบริหารบุคคลของเครือซิเมนต์ไทยในตอนนั้น

กานต์ ตระกูลฮุน เดินทางเช่นเดียว กับนายช่างพื้นฐานของเครือซิเมนต์ไทย ที่ต้องประจำโรงงานในต่างจังหวัดยาวนานช่วงหนึ่ง กว่าจะไต่เต้าในหน้าที่การงาน ที่สูงขึ้น แต่เขาโชคดีตรง ที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างโรงงานใหม่ๆ เสมอ การก่อ สร้างโรงงานใหม่ ทำให้เขามีความรู้ด้านการบริหารในภาพกว้าง ไม่เพียงเฉพาะเทคโน โลยีต่างๆ อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะในยุคของเขา โรงงานปูนซีเมนต์พัฒนาไปมาก ด้วยเครื่องจักรสมัยใหม่ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์จากบริษัทชั้นนำของโลก

เขาใช้เวลาคลุกคลีในโรงงานในช่วงของการขยายการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลาจากทุ่งสงทางภาคใต้ ขึ้นมาแก่งคอย ฐานการผลิตปูนซีเมนต์ใหญ่ของเครือ ซิเมนต์ไทย จนล่วง 6 ปีเต็ม จึงมีโอกาสได้ทุนบริษัทไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปีสามารถจบปริญญาสองสาขาทั้งด้าน Ceramic Technology และ Management จาก The Georgia Institute of Technology

เขากลับมาในช่วงเดียวกับ ที่เครือ ซิเมนต์ไทยกำลังขยายกิจการต่างๆ อย่างมากมาย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากนั้น มาประมาณ 13-14 ปี กานต์ ตระกูลฮุน ก็ใช้เวลานั้น พัฒนาความรู้ ความสามารถจากประสบการณ์ ที่ท้าทายมากขึ้น และดูเหมือนเขาจะมีโอกาสมากคนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เวลาในการสะสมประสบการณ์ของเขา ในฐานะผู้บริหารคนหนึ่งของเครือซิเมนต์ไทยก็ใช้เวลามากทีเดียว ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันคนรุ่นเดียวกับเขาในวงการธุรกิจการเงิน และสื่อสารดูเหมือนเติบโตในตำแหน่งการงาน และผลตอบแทนกันมากมาย

เนื่องจากเขาเป็นคนเรียนรู้เร็ว ประกอบกับการทำงานในลักษณะโครงการครบวงจร เป็นงานใหม่อยู่เสมอ ถือเป็นประสบการณ์สำคัญในมิติแรก ในการเข้าไปบุกเบิกงานใหม่อยู่เสมอในเวลาต่อมา รวมทั้งเข้าไปแก้ปัญหากิจการที่มีผู้บริหารระดับสูงหลายคนตบเท้าลาออกไป ในธุรกิจอิฐทนไฟ การเรียนรู้อย่างรวดเร็ว และสามารถ จัดการกับปัญหาอย่างรวดเร็วนี่เอง ทำให้เขามีโอกาสมากขึ้น เมื่อมีงานใหญ่ขึ้นเขาก็ต้องเกี่ยวข้องกับมิติของการจัดการมากกว่าการผลิต การบริหารคน และเทคโนโลยีไปสู่การจัดการการเงิน โดยเฉพาะการตัดสินใจเลือกผู้รับเหมาโครงการต่างๆ ซึ่งระยะหลังเขามีมากขึ้น ซึ่งเป็นกิจการระดับโลก ที่ไม่เพียงมีเทคโนโลยีใหม่เท่านั้น ยังมีระบบบริหารมากับเครื่องจักรด้วย

จากนั้น ก็ก้าวขึ้นสู่ผู้บริหารโรงงานทั้งบริษัท จนถึงการร่วมทุนตั้งกิจการใหม่กับผู้ร่วมทุนต่างประเทศ จนถึงการริ่เริ่มโครงการปิโตรเคมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค ที่อินโดนีเซีย ด้วยการร่วมทุนกับท้องถิ่น เป็นโครงการที่ใหญ่มาก แต่ไม่ทันได้ดำเนินการ วิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจก็เกิดขึ้นเสียก่อน โครงการนี้จึงต้องชะลอไป

การเรียนรู้เร็ว เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ในประสบการณ์บุกเบิกธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะปิโตรเคมี ซึ่งเขาไม่มีความรู้มาก่อน เป็นส่วนสร้างให้คนคนหนึ่งมีความคิดสร้างสรรค์ และ สามารถแหวกกรอบความคิดเดิมได้ แม้เครือซิเมนต์ไทยจะเป็นองค์กรเก่าก็ตาม

กานต์ ตระกูลฮุน ถูกคัดเลือกเป็นหนึ่งในทีมงาน ที่ทำงานร่วมกับทีมงานบริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company ในแผนการปรับโครงสร้างเครือซิเมนต์ไทยครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี เนื่องจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเงินบาท เมื่อปลายปี 2541 เขามาใน ฐานะตัวแทนธุรกิจปิโตรเคมี เนื่องจากเวลาน้อย แต่ตัวแทนแต่ละธุรกิจ จะต้องจัดหาข้อมูลของแต่ละบริษัทในกลุ่มธุรกิจตาม ที่กำหนด ซึ่งเป็นเรื่องไม่สามารถทำได้โดยง่าย

เขาตัดสินใจเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน ด้วยถือเป็นเรื่องใหญ่ขององค์กร โดยรวม โดยไม่ทราบว่าในเวลาเดียวกันเป็นการประชุมกับผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจปิโตร เคมี ทำให้ผู้บริหารระดับสูงกว่าต่อว่าต่อขาน อย่างไรก็ตาม วิธีการของเขาก็ได้รับการยอมรับ ในยามวิกฤติการณ์ ซึ่งจะต้องคิดออกจากกรอบได้ จากนั้น กานต์ ตระกูลฮุน ก็ได้รับคัดเลือกเป็นหัวหน้าทีมในการทำงานครั้งสำคัญนี้ ซึ่งทำให้เขาเข้าใจภาพทั้งหมด เรียนรู้การเจรจา ประนีประนอมในการปรับโครงสร้าง ซึ่งเป็นการเจรจาต่อรอง ที่หนักมาก และการตัดสินใจครั้งสำคัญ ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ใกล้ชิดกับ ชุมพล ณ ลำเลียง ผู้จัดการใหญ่ เครือ ซิเมนต์ไทย

เมื่อโครงสร้างใหม่จัดขึ้นเขาก็ถูกวางตัวเป็นกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจเซรามิก กลุ่ม ที่ยังมีปัญหา ซึ่งต้องพัฒนาอีกมาก อาจจะสามารถเป็นธุรกิจแกนของกลุ่มได้ กลุ่มนี้มีเครือข่ายอยู่ในหลายประเทศในย่านนี้

กานต์ ตระกูลฮุน ใช้เวลา 22 ปีในการสะสมประสบการณ์ให้มากขึ้น สู่ตำแหน่ง ผู้บริหารกิจการอย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังถูกท้าทายให้ดูแลกิจการที่ต้องการการพัฒนาอย่างเข้มข้น ภายใต้สถานการณ์ ที่เลวร้ายช่วงหนึ่ง

หากเขาผ่านไปได้ โอกาสของคนธรรมดาคนหนึ่งย่อมมีมากกว่าแน่นอน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us