|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ขุนคลัง" ย้ำแนวทางจัดสรรหุ้นทีพีไออย่างเป็นธรรม เผยส่งหนังสือขอซื้อหุ้นของประชัยให้ผู้บริหารช่วยดูแล้ว เชื่อได้คำตอบในไม่ช้า ขณะที่ปลัดคลังชี้ การจัดสรรหุ้นยึดตามแผนฟื้นฟูฯ เป็นหลัก ด้านสหภาพฯ ตบเท้าพบ "สมคิด" วอนคลังส่งกองทุนรัฐถือหุ้นใหญ่ในทีพีไอ เพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างเจ้าหนี้-ลูกหนี้ หวั่นการเคลื่อนไหวของประชัยอาจสร้างความขัดแย้งรอบใหม่
วานนี้ (29 พ.ย.) ตัวแทนสหภาพแรงงานเครือบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อติดตามความคืบหน้าการพิจารณาสรรหาผู้ร่วมทุนทีพีไอรายใหม่
นายสมคิด กล่าวภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนสหภาพฯ ว่า ตัวแทนสหภาพฯ ได้ย้ำถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาทีพีไอ โดยต้องการให้การดำเนินการทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาทีพีไอ และคำนึงถึงการเติบโตในอนาคตของบริษัทเป็นสำคัญรวมทั้งต้องการให้กระทรวงการคลังเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อให้มีเสียงข้างมาก และการหาพันธมิตรร่วมทุนใหม่จะต้องเข้ามาช่วยทำให้ทีพีไอเดินหน้าต่อไปได้
"ผมได้ตอบไปว่า ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนข้อเสนอของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีพีไอ ที่ต้องการซื้อหุ้นคืนนั้น ได้ส่งต่อให้ผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ แล้ว เพราะเขาดูแลเรื่องนี้อยู่ โดยยึดหลักความเป็นธรรม ซึ่งคิดว่าผู้บริหารแผนฯ คงให้คำตอบได้ในไม่นานนี้"
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะทำงานจัดผู้ร่วมลงทุนและการจัดสรรการขายส่วนทุนและหุ้นบริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอพีแอล ตามแผนฟื้นฟูกิจการ (ฉบับแก้ไข) ของทีพีไอ กล่าวว่า ในแผนฟื้นฟูฯ ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ร่วมทุนใหม่ไว้แล้ว เช่น จะต้องเป็นนิติบุคคล มีความเชี่ยวชาญธุรกิจปิโตรเคมี และให้มีจัดสรรหุ้นให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยความเป็นธรรม
สำหรับกรณีการยื่นข้อเสนอซื้อหุ้นทีพีไอ และทีพีไอพีแอลคืนทั้งหมดของนายประชัยนั้น ผู้บริหารแผนฯ จะเป็นผู้พิจารณา โดยยึดตามแผนฟื้นฟูฯ ส่วนคณะกรรมการที่ตนป็นประธาน จะมีการประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์นี้
นายวิชิต นิตยานนท์ ประธานสหภาพแรงงานฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่ศาลล้มละลายกลางอนุมัติแผน ฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขของทีพีไอ โดยกำหนดให้ขายหุ้นสามัญให้พันธมิตรจำนวน 11,651 ล้านหุ้น หรือประมาณ 90% ของหุ้นทั้งหมด เพื่อนำเงินไปชำระคืน ให้เจ้าหนี้นั้น ทางสหภาพฯ ได้มีข้อเสนอผู้ร่วมทุนราย ใหม่ควรเป็นกองทุนรัฐบาล และถือหุ้นในสัดส่วนเสียงข้างมาก เพื่อเข้ามาเป็นตัวกลางในการยุติความขัดแย้ง ระหว่างเจ้าหนี้และผู้บริหารลูกหนี้ที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน
"สหภาพฯ กังวลกับเรื่องที่นายประชัย จะเข้ามาซื้อหุ้นคืน เพราะหลังจากที่มีข่าวออกไปทำให้ฝ่าย เจ้าหนี้ ไม่พอใจ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป อาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ ดังนั้นจึงต้องการให้มีกองทุนภาครัฐเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อยุติปัญหาที่อาจเกิดขึ้น"
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า รมว.คลัง ชี้แจงถึงความคืบหน้าในการหาพันธมิตรร่วมทุนรายใหม่ว่า ขณะนี้มี 2 ราย คือ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) แต่ในรายละเอียดยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ยืนยันว่าการสรรหาผู้ร่วมทุนรายใหม่จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2547 นี้อย่างแน่นอน
ส่วนในเรื่องความขัดแย้งของพนักงานที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มนั้น ในส่วนของพนักงานทีพีไอในจังหวัดระยอง ประมาณ 90% สนับสนุนแผนการฟื้นฟูฯ ฉบับแก้ไขของผู้บริหารแผนฯ และการทำงาน ของกระทรวงการคลังมาโดยตลอด
แหล่งข่าวจากคณะผู้บริหารแผนฯทีพีไอ กล่าวว่า ข้อเสนอซื้อหุ้นทีพีไอและทีพีไอโพลีนของนาย ประชัยที่ยื่นต่อรมว.คลังนั้น การตัดสินใจชี้ขาดอยู่ที่กระทรวงการคลัง แต่ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่าแหล่งเงินที่ซื้อ หุ้นดังกล่าวจะมาจากการขายหุ้นให้พันธมิตรร่วมทุน ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผิดเงื่อนไขแผนฟื้นฟูฯฉบับแก้ไข ที่ระบุว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้นิติบุคคลที่มีสัญาติไทย โดยนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องมีความรู้ความสามารถในธุรกิจปิโตรเคมีด้วยดังนั้น หากมีการขายหุ้นทั้งหมดให้กลุ่มนายประชัยก็ จะขัดกับแผนฟื้นฟูฯฉบับแก้ไขที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหนี้และศาลล้มละลายกลางมาก่อนหน้านี้
|
|
|
|
|