|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
"วิชัย ทองแตง" เตรียมหารือ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" หาทางออกปมปัญหาเพิ่มทุนปุ๋ยเอ็นเอฟซี ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ หลังผู้ถือหุ้นรายย่อยขวางแผนเพิ่มทุน เผยเตรียมเสนอทางออก 2 ทาง คือ ยันตามมติเดิมหรืออาจจะมีการกำหนดวันปิดทะเบียนโอนหุ้นใหม่ เพื่อเปิดทางให้สามารถนำหุ้นที่จะจัดสรรให้แก่ IFCT, บสท. และปตท. มาเจียดให้แก่รายย่อยเพิ่ม "วิชัย" ยันที่ผ่านมาให้ความยุติธรรมกับรายย่อยเต็มที่ แถมผู้ถือหุ้นรายใหม่ยังยอมเฉือนเนื้อด้วยการแจกวอร์แรนต์ฟรี
นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ บริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) (NFC) เปิดเผยว่าคณะกรรมการบริษัทเตรียมเข้าหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการลดทุนในครั้งแรกหลังจากที่การประชุมวิสามัญ ผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ถือหุ้นรายย่อยวอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุมเนื่องจากไม่พอใจการจัดสรร วอร์แรนต์ของคณะกรรมการ ส่งผลให้การประชุมต้องปิดลงส่งผลกระทบ ต่อแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท
"เราจะเข้าไปหารือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการจัดสรรวอร์แรนต์ให้แก่นักลงทุนรายย่อยก่อนที่จะมีการประชุม คณะกรรมการบริษัทในวันเดียวกันซึ่งทางเลือกน่าจะมี 2 แนวทางคือ 1. คณะกรรมการยืนยันตามมติเดิมและ 2. จะมีการศึกษาในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไรที่จะจัดสรรหุ้นให้แก่นักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้นตามที่เสนอก่อนหน้าที่ให้มีการจัดสรรหุ้นในส่วนของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ซึ่งในการนี้อาจ ต้องมีการปรับวันปิดทะเบียนโอนหุ้นใหม่แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะถือว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากต่างก็เป็นผู้ถือหุ้นเช่นเดียวกัน"
สำหรับทางเลือกแรกที่เสนอให้มีการยืนยันตามมติเดิมของบอร์ดคือจัดสรรวอร์แรนต์ให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มทุน ในครั้งแรกโดยให้อ้างอิงตามราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (PO) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการบรรเทาความเสียหายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยที่ผู้ถือหุ้นเดิมจะมีมูลค่าหลักทรัพย์รวมไม่น้อยกว่า223.66 ล้านบาท
ทั้งนี้ กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะขายให้คือผู้ถือหุ้นเดิมตามรายชื่อที่ปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันลดทุนของบริษัท คือ วันที่ 19 พฤษภาคม 2547 โดยแจกให้ฟรีราคาใช้สิทธิ 1 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะมีการ จัดสรรหุ้นสามัญไว้รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 250 ล้านหุ้น
"สาเหตุที่บอร์ดยืนตามมติเดิม เนื่องจากได้มีการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีผ่านคณะทำงานที่มีการศึกษาผลกระทบอย่างละเอียดและที่สำคัญผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เข้ามาลงทุนต่างยอมเฉือนเนื้อของตัวเอง ซึ่งจุดนี้นักลงทุนรายย่อยน่าจะเห็นใจและอยากให้มองอนาคตของบริษัทมากกว่าที่จะเรียกร้องวอร์แรนต์เพิ่ม"
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนราย ย่อยไม่โหวตวาระการจัดสรรวอร์แรนต์ ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งที่ ผ่านมา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผน เพิ่มทุนของปุ๋ยเอ็นเอฟซี เนื่องจากเป็นวาระที่ต่อเนื่อง โดยปุ๋ยเอ็นเอฟซีเตรียมเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 2,486.61 ล้านบาท เป็น 4,000 ล้านบาทมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้ จะมีการจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 250 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ ซึ่งเสนอขายให้แก่นักลงทุนรายย่อยส่วนที่สองจัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 500 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่บุคคลใบวงจำกัด และให้จัดสรรหุ้นสามัญใหม่จำนวน 763.38 ล้านหุ้น เพื่อเสนอให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป (PO)
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา "กลุ่มคนรักปุ๋ย" ได้เรียกร้องให้เพิ่มสัดส่วนการจัดสรรวอร์แรนต์ให้แก่นักลงทุนรายย่อยใหม่ โดยอ้างว่าได้รับผลกระทบจากการลดทุนโดยเสนอ ข้อเรียกร้องให้จัดสรรวอร์แรนต์ที่จะจัดสรรให้แก่ IFCT, บสท. และปตท. นำมาให้แก่รายย่อย หรือเมื่อแตกพาร์ จาก 10 บาท เป็น 1 บาท 1 หุ้นสามัญ เดิมจะกลายเป็น 10 หุ้นสามัญใหม่คูณ ด้วย 20 วอร์แรนต์ ซึ่งหมายความว่าต้องจัดสรรวอร์แรนต์จำนวน 200 วอร์แรนต์ให้แก่นักลงทุนรายย่อย
|
|
 |
|
|