Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน30 พฤศจิกายน 2547
KTBปรับเกณฑ์ปล่อยกู้เสนอบอร์ดอนุมัติใช้ปี48             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงไทย

   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
Banking




"แบงก์กรุงไทย" ปรับอำนาจปล่อยสินเชื่อใหม่ "อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์" โชว์ฝีมือชงโครงสร้างอนุมัติสินเชื่อใหม่ให้บอร์ดเดือนหน้า หวังเร่งใช้โครงสร้างใหม่ทันภายในปีหน้า โดยแยกเป็น 6 ระดับ มีคณะกรรมการกลั่นกรองเป็นผู้พิจารณาก่อนถึงมือบอร์ด แยกอำนาจอนุมัติวงเงินและประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อถ่วงอำนาจการตัดสินใจ พร้อมปรับชั้นลูกหนี้ 14 โครงการดึงสำรองออกเป็นลูกหนี้ปกติ เผยวางแผนปรับโครงสร้างองค์กรกลางปีหน้า รื้อระบบ 8 สายงานสอดคล้องกับธุรกิจปัจจุบัน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารมีนโยบายที่จะปรับอำนาจการอนุมัติสินเชื่อใหม่ทั้งหมด โดยเบื้องต้นจะแบ่งวงเงินการกระจายอำนาจการพิจาณาอนุมัติสินเชื่อออกเป็นกลุ่มรวมทั้งหมด 6 ระดับ เพื่อให้เกิดความสะดวกกระชับในการทำงาน และเป็นการดูแลสินเชื่อให้มีคุณภาพมากขึ้น ทั้งนี้จะนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาในเดือนธันวาคมนี้ รวมทั้งจะมีคณะกรรมการกลั่นกรองที่มีตนจะเป็นประธาน เพื่อให้การบริหารความเสี่ยงเป็นไปอย่างถูกต้อง

สำหรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ได้เปลี่ยนจากเดิมการอนุมัติสินเชื่อจะผูกติดกับวงเงินและคุณภาพหลักทรัพย์ค้ำประกัน ขณะที่โครงสร้างใหม่แยกส่วนต่างหากระหว่างวงเงินกับคุณภาพหลักทรัพย์ค้ำประกัน และพิจารณาจากกระแสเงินสดเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เกิดการประเมินหลักทรัพย์ที่ผิดจากความเป็นจริง รวมทั้งวงเงินในการอนุมัติก็จะกำหนดอย่างชัดเจนว่าระดับใดบ้างที่จะอนุมัติได้

"เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องเร่งด่วน หลังจากที่คณะกรรมการอนุมัติแล้ว ธนาคารก็จะดำเนินการทันที เพื่อให้ทันในปีหน้าตามแผนของธนาคาร"

เตรียมปรับลูกหนี้กลับชั้นปกติ

สำหรับกรณีของลูกหนี้ 14 โครงการ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สั่งให้ตรวจสอบนั้น ธนาคารได้ส่งเรื่องไปยังธปท.แล้ว และได้รับคำตอบเรียบร้อย ซึ่งในเดือนหน้าจะมีการปรับชั้นลูกหนี้ 14 โครงการ ให้ตรงกับที่ธปท.ได้สรุปออกมา โดยจำนวน 14 โครงการจะมีบางโครงการจะต้องออกจากการสำรอง ที่เข้มงวดของธปท.เพื่อเข้าสู่ชั้นลูกหนี้ปกติ จะส่งผลให้มีเงินส่วนสำรองจากที่ธนาคารกันไว้แล้ว ซึ่งธนาคารจะยังคงให้เป็นเงินสำรองส่วนเกินไว้ก่อน

ส่วนลูกหนี้รายอื่นธนาคารได้ทำการทบทวนตัวเลขเอ็นพีแอล เพื่อให้การพิจารณาจัดทำแผนในปีหน้าต่อไปเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีตัวเลขเปลี่ยนแปลงบ้างเนื่องจากธนาคารมีการปรับโครงสร้างหนี้ได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้มีการดูแล ในเรื่องของคุณภาพสินเชื่อที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าในปีหน้าสินเชื่อคงจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง อาจจะไม่ขยายตัวเท่ากับปีนี้ แต่จะอยู่ในระดับจีดีพี ซึ่งตามปกติแล้วธนาคารพาณิชย์จะมีการเติบโตของสินเชื่อประมาณ 1.5 เท่าของจีดีพี ธนาคารกรุงไทยก็คงจะอยู่ในระดับนี้

ปรับโครงสร้างองค์กรรื้อระบบ 8 สายงาน

นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ธนาคารมีแผนที่ปรับโครงสร้างองค์กรโดยการเพิ่มระบบให้มีความเหมาะกับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันให้มากขึ้น โดยจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากการปรับโครงสร้างแต่ละครั้งจะกระทบกับธุรกิจลูกค้า ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องดูแลอย่างรอบคอบ

"ที่ผ่านมาธนาคารกรุงไทยจะเร่งในการปล่อยสินเชื่อเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการแบ่งสายงานออกเป็น 8 สายงานที่ทำงานอย่างแข่งขันกัน แต่ขณะนี้การดำเนินธุรกิจไม่จำเป็นต้องเร่งให้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอีกแล้ว แต่ต้องเน้นการดูแลลูกค้า รวมทั้งคุณภาพสินเชื่อ จึงจะจัดโครงสร้างองค์กรให้อำนวยความสะดวกกับลูกค้ามากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันเอเอ็มซีโน" ของกรุงไทยได้โอนกลับเข้ามาเป็นสินเชื่อหมดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเร่งเพิ่มสินทรัพย์ ขณะเดียวกันโครงสร้างใหม่จะเน้นดูแลรักษาสินทรัพย์ ขนาด และคุณภาพของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง" เตรียมแยกบัญชีธุรกิจภาครัฐและเอกชน

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะแยกบัญชีระหว่างการทำธุรกิจระหว่างภาครัฐกับเอกชน โดยธนาคารต้องการที่นำส่วนของผลประโยชน์หรือกำไรที่ได้จากธุรกิจที่ธนาคารสนับสนุน หรือทำประโยชน์ร่วมกับภาครัฐในการพัฒนาประเทศนั้น กลับไปสนับสนุนโครงการรัฐต่อไป ขณะที่อีกบัญชีจะเป็นบัญชีของภาคเอกชน

ซึ่งก็จะมีการดำเนินการตามแบบของธนาคารพาณิชย์ทั่วไปซึ่งการแยกดังกล่าวจะเป็นการแยกทั้งในส่วนของเงินฝากและสินเชื่อด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us