เสียงจากรายย่อยกรณีหุ้น IPO เรียงแถว "หลุดจอง"

หลายเดือนมานี้ "รายย่อย" จำนวนมากในตลาดหลักทรัพย์ไทยพบกับการขาดทุนจาก "หุ้นจอง" คือหุ้นที่เสนอขายให้สาธารณชนเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering หรือ IPO) เพราะราคาหุ้นเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะต่ำกว่าราคาจองตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้ซื้อขายได้ นั่นหมายถึงผู้ที่จองซื้อไว้จะขาดทุนทันที

สื่อมวลชนสายตลาดทุนหลายแห่งได้สัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องและวิเคราะห์สาเหตุหลักๆ ของปัญหานี้ไว้ สามารถสรุป แยกแยะได้ดังนี้

- ช่วงกำหนดราคาจองกับวันที่เปิดให้ซื้อขายนั้นห่างกันนานเกินไป สภาวะตลาดทั้งสองช่วงอาจจะต่างกันมาก เช่นช่วงกำหนดราคาจองนั้นตลาดกำลัง "ดี" ทั้งทิศทางดัชนีบวกต่อเนื่องและปริมาณการ ซื้อขายคึกคัก แต่ในช่วงเข้าซื้อขายวันแรก ตลาด "ไม่ดี" คือดัชนีลบต่อเนื่อง และปริมาณการซื้อขายต่ำ ซึ่งสภาพนี้จะเกิดขึ้น กับตลาดขาลงและตลาดที่ผันผวนอย่างตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี ทางแก้ปัญหาคือหลังจากกำหนดราคาจองแล้วต้องให้หุ้นใหม่ตัวนั้นเข้าซื้อขายให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่ว่าหากสถานการณ์ตลาดเปลี่ยนไป ผู้ที่จองไว้จะได้มีโอกาสที่จะตัด สินใจขายได้ ไม่ใช่เพียงแต่ถือหุ้นรอวันเข้าตลาดจนสภาวะตลาดเปลี่ยนไปมากแล้ว

- ขาดขั้นตอนสำรวจความต้องการจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้พร้อมทางด้านข้อมูลข่าวสารและความรู้กว่ารายย่อย และมีอำนาจต่อรองสูงเพราะมีทุนมาก หากหุ้นตัวใดมีนักลงทุนเหล่านี้มาซื้อและร่วมกำหนดราคามากๆ น่าจะทำให้ได้ราคาที่สมเหตุสมผลกว่าหุ้นตัวที่มุ่งขายให้ลูกค้ารายย่อยเป็นหลักโดยการให้เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เก็ตติ้งหุ้น) กระจายกันโทรหาลูกค้าของตนชักชวนให้จองซื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ ลูกค้ารายย่อยเหล่านั้นก็จะตัดสินใจซื้อจากแรงเชียร์ของเจ้าหน้าที่การตลาดและภาพลักษณ์ของบริษัทที่ออกมาทางสื่อ (ซึ่งมาจากฝ่ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบริษัทนั้นๆ เอง) และที่พบมากที่สุดคือจากความ คาดหวังในการเก็งกำไรระยะสั้น

- กำหนดราคาโดยอิงจากหุ้นตัวอื่นๆ ที่ซื้อขายอยู่แล้วในกระดาน โดยไม่คำนึงว่าแต่ละบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันนั้นมีส่วนแบ่งตลาด, ประสบการณ์, และความสามารถของผู้บริหารไม่เท่ากัน เช่นตั้งราคาโดยอิงกับ P/E ratio ของหุ้นในกลุ่มเดียวกันที่ปริมาณการซื้อขายสูงๆ หรืออิงกับ P/E เฉลี่ยของกลุ่มโดยไม่ดูศักยภาพและอนาคตของบริษัทตัวเอง

ทั้งสามสาเหตุนี้เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งบริษัทที่ออกหุ้นนั้นเอง, บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้จัดสรร (underwriter), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.), และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ทุกฝ่ายนี้มีแรงจูงใจและเป้าหมายที่แตกต่างกันไปดังนี้

บริษัทที่ออกหุ้น :

มีแรงจูงใจคือต้องการเงินทุนเพิ่มไปขยายธุรกิจ, ใช้หนี้ ฯลฯ และผู้ถือหุ้นต้องการเพิ่มความมั่งคั่งให้ตัวเอง เนื่องจากหุ้นที่มีอยู่จะมีค่าเพิ่มขึ้นและสามารถขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นเงินกลับมาได้ง่าย

เป้าหมายคือ ให้ราคาจองสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็น underwriter

มีแรงจูงใจต้องการรายได้ค่าธรรมเนียม, สิทธิในการซื้อหุ้นที่ราคาต่ำกว่าจอง, นำหุ้นไปจัดสรรขายให้ลูกค้านักลงทุนเพื่อตอบแทนลูกค้าเก่าและดึงดูดลูกค้าใหม่

เป้าหมายคือ ให้มีบริษัทมาทำ IPO กับตนมากๆ ซึ่งนอกจากจะได้รายได้โดยตรงมากแล้ว ยังจะมีหุ้นใหม่ไปจัดสรรให้ลูกค้านักลงทุนได้มากด้วย

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

หลายปีมานี้ เป้าหมายในการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ คือ เพิ่ม "สินค้า" คือ เพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนในตลาดและเพิ่มมูลค่าตลาดรวม (market cap.)

ก.ล.ต.ออกกฎเกณฑ์, ตรวจสอบ, และประสานงานกับทุกฝ่าย

เราได้เลือกสรร 11 กระทู้จากกระทู้เรื่องนี้จำนวนนับร้อย มาเป็นตัวแทนเสียงบ่นและข้อเสนอแนะจากรายย่อยในเว็บบอร์ดด้านหุ้นที่มีผู้ใช้มากที่สุด คือ Greenbull.net ซึ่งประกอบไปด้วยกระทู้ที่บ่นถึงปัญหานี้โดยไม่เจาะจงตัวหุ้น และกระทู้ที่เจาะจงตัวหุ้น เช่น PONG, SNC, PPM, KH และหลักทรัพย์ ที่ยังไม่เข้าตลาดแต่ถูกคาดหมายในทางลบจากรายย่อยอย่าง THAINOX

กระทู้ที่ 1 "ความล้มเหลวของหุ้น IPO กับ Under Writer และเจ้าของ"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=70636

ความเห็นที่น่าสนใจ
Reply #2 เมื่อ 07/11/2004, 13:09:07 ?

ผมว่าการที่ราคาหุ้นจอง ออกมาเป็นแบบนี้ก็เหมาะสมดีแล้วสูงกว่าจองมั่ง ต่ำกว่าจองมั่ง ทำให้คนที่จะรับหรือไม่รับหุ้นจองได้ใช้ความคิดในแง่การลงทุนบ้าง เพราะนั่นคือจุดประสงค์ที่แท้จริงอย่างหนึ่งของ การมีตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ้าสูงกว่าจองอย่างเดียวคนที่รับหุ้นจองจะใช้สมองไปคิดอะไรอีก วันๆ รับหุ้นจองแล้วรอรับตังวันเข้าเทรดเหรอ

ถ้าคุณจะอ้างว่าไม่รับหุ้นจองเน่าๆ ก็จะไม่ได้ตัวดีๆ คุณลองถามตัวเองกันดูหน่อยว่า หุ้นจองมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของทางเลือกในการลงทุนใช่หรือไม่ คุณไม่เอาเลยสักตัวก็ได้ใช่หรือไม่

หุ้นในตลาดมีเยอะแยะ ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์การลงทุนที่ผ่านมาของคุณ และพยายามหาความรู้เพิ่มเติมบวกกับข้อมูลข่าวสาร หรือว่าที่ผ่านมาคุณเล่นหุ้นกันแบบการพนัน 100% เลยไม่มีเกร็ดอะไรให้เรียนรู้เลย

Reply #5 เมื่อ 07/11/2004, 15:18:40

ต้องบอกว่า ทุกคนโวยได้ และก็ไม่ผิดที่จะโทษได้ทั้งนั้น แม้แต่ตัวเราเอง เพราะตลาดเราไม่มีมาตรการป้องกันการค้ากำไรเกินควรและเอาเปรียบกัน มันจึงออกมาในรูปแบบนี้ คนมีข้อมูล มีความรู้ มือเก่า เขาไม่ตกหลุมพรางหุ้นเน่าๆ กันง่ายๆ หรอก สงสารก็แต่พวกบรรดามือใหม่ พวกนักเสี่ยงโชคเล่นแบบแทงเสียไม่เคยอยากรู้ข้อมูล ฟังแต่เขาบอก พวกเหล่านี้เป็นเหยื่อของระบบที่ไร้ประสิทธิภาพและขาดซึ่งธรรมาภิบาลของทุกฝ่ายที่เอาหุ้นเข้ามานำเสนอในตลาด ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ ก็ตัวใครตัวเผือกแล้วกัน ดูกันเองให้ดี ถ้าไม่มีข้อมูลความรู้ ก็อยู่เฉยๆ ดีกว่า ปฏิเสธมาร์ไปเลย ไม่ต้องเกรงใจ เพราะเวลาเสีย มาร์ไม่ใช่เมีย ด่าก็ไม่ได้ จะทำอะไรก็ไม่ได้ ตลาดนี้มันจึงเหมือนโรงขายกระดาษของบรรดาเจ้าของบริษัทที่กำลังจะแย่เข้ามากอบโกยเงินก้อนใหญ่ โดยอาศัยความอ่อนแอของระบบและไร้ประสิทธิภาพของบุคลากรที่ควบคุมระบบ อย่างที่บอกไว้หลายครั้ง เขาเอาปริมาณเหนือคุณภาพ ทนๆ กันหน่อย เดี๋ยวชินเอง ถึงที่สุด ก็ SP ไปอยู่ REHABCO เป็นขยะอย่างที่เห็นกันมานานแสนนาน

Reply #6 เมื่อ 07/11/2004, 16:13:02

ผมขอนำความเห็นของคุณ IH ที่ตอบปัญหาของ SNC ซึ่ง IPO ได้ไม่นาน น่าอ่านครับ

ผมยังไม่มีโอกาสได้คุยกับผู้บริหารนะครับ แต่ผมสงสัยว่าทำไมราคาเปิดตอนเข้าตลาดวันแรกถึงได้ต่ำกว่าจองทันที และหลังจากนั้นก็ถูกแรงขายมาตลอดจนโงหัวไม่ขึ้น เหมือนหนีตายอะไรซักอย่าง หรือไม่ก็คนขายมีต้นทุนต่ำกว่า IPO มากๆ จนขายได้ทุกราคาอย่างนั้นเชียวหรือ เป็นสิ่งที่แปลกใจมากทีเดียวครับ

ผมคิดว่ารอดูผลประกอบการเข้าอีกสัก 1-2 ไตรมาสก่อนแล้วกันครับ

จริงๆ แล้วหุ้น IPO ช่วงหลังผมคิดว่าการตั้งราคาไม่ถูกเลยครับและหลายตัวก็มีแรงขายรอตั้งแต่วันแรกๆ และการลงทุนในหุ้น IPO ก็เสี่ยงไม่น้อย เพราะเราไม่รู้เลยว่าผู้บริหารเป็นยังไง และงบที่เห็นมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ถ้าไม่ใช่หุ้นที่มีธุรกิจดีมากๆ จริงๆ ผมคิดว่าช่วงนี้หุ้น IPO ไม่น่าลงทุนครับ

Reply #7 เมื่อ 07/11/2004, 19:21:21

บอกเเล้วว่า ถ้าขืนยังเอาหุ้นเข้าตลาดกันสัปดาห์ละตัวสองตัวสักวันหนึ่ง ตลาดจะพัง หุ้น IPO คุณจะร้องไปไม่มีประโยชน์มันกลายเป็นคุณลงทุนค้าขาย เวลากำไรเงียบขาดทุนเเล้วโวยวาย ถ้าตัดสินใจซื้อเเล้วก็ต้องยอมรับความจริงก่อนตัดสินใจซื้อคุณมีเวลามากพอที่จะตรวจสอบข้อมูลกับกระเเสอยู่เเล้ว ความจริงคุณเองควรฉงนอยู่เเล้วถ้ามาร์มาขู่เเบบนี้เเสดงว่าสินค้าห่วยเเตกโบรกมีอยู่เยอะเเยะไม่รู้กลัวอะไร หรือในใจคุณก็โลภด้วย

กระทู้ที่ 2 "IPO ต่ำจองหลายตัว ก.ล.ต. ควรจะสกรีนให้นักลงทุนขั้นต้น"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=70522

ความเห็นที่น่าสนใจ
Reply #1 เมื่อ 05/11/2004, 16:36:18

ควรทำมานานแล้ว ก.ล.ต. ใช้วิธีป้องกันดีกว่าแก้ไข.......ส่วนโบรก เจ้าของก็ควรประกันสัก 1 เดือนอย่างน้อยสำหรับหุ้นเข้าใหม่ ผมโดน de 4 บาทกว่าตอนนี้ 2 บาทกว่า ขนาดซื้อต่ำกว่าจองนะครับ

กระทู้ที่ 3 "ใครเจ็บตัวกับตัวไหนมั่งครับ ยกมือขึ้น"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=69472

ความเห็นที่น่าสนใจ
Reply #1 เมื่อ 28/10/2004, 21:45:30 ?
Grand PICO ICT SNC
ไม่ได้จอง แต่เข้าไปรับบางจังหวะ แล้วก็เละ

Reply #3 เมื่อ 28/10/2004, 23:34:36 ?
หุ้นใหม่ๆ หลายบริษัท ผมว่ามันเล็กเกินไปที่จะเอาเงินไปเสี่ยงครับ ธุรกิจไม่ได้เป็นผู้นำตลาด บางบริษัทเป็นรองๆ ด้วยซ้ำในราคาเท่าๆ กันบางตัว เอาเงินไปซื้อหุ้นเก่าๆ ในตลาดฯ ดีกว่าครับ อย่างน้อยก็ผ่านร้อนผ่านหนาวเป็นสิบๆ ปี

กระทู้ที่ 4 "นักลงทุนทุกท่านควรต่อต้านหุ้นจองที่เอาเปรียบรายย่อย อย่าจอง!!!!!"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=70426

ความเห็นที่น่าสนใจ
Reply #4 เมื่อ 05/11/2004, 13:15:23 ?
ช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าจะมีหุ้นจองเข้าตลาดอีกมาก ของดีก็มีของเน่าก็เยอะ ทางที่ดีอย่าไปเอามันเลยครับ ดัดหลังโบรกเกอร์บ้าง

กระทู้ที่ 5 "ถึงผู้ที่ได้ MANG PONG IPO"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=70470

ความเห็นที่น่าสนใจ
Reply #2 เมื่อ 05/11/2004, 14:16:17

มีมาร์บอกผมว่าคุณจะเอามั้ยเท่าไรก็ได้ ผมออกอาการงงๆ เพราะปกติผมเองก็ไม่ใช่ขาใหญ่อะไรมากนัก ตอนแรกความละโมบเข้าสิงกะจะเอาหมดเงินที่มีประมาณสามแสนหุ้น แต่สักพักเขาโทรมาบอกว่า คนที่ให้ขอ 10 เปอร์เซ็นต์ของกำไรที่เปิด ทำให้รู้สึกว่ามันมีค่าว่างั้นเถอะ แต่มันทำให้ผมรู้สึกรำคาญ ผมเลยตัดสินใจไม่เอา เล่าให้ฟังเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนบางท่าน ผมรอดตายหวุดหวิด

Reply #3 เมื่อ 05/11/2004, 14:17:41

และขอเพิ่มความเห็นส่วนตัวอีกสักนิดนึง

เราว่า พวกขาใหญ่เขาคงไม่ซื้อ IPO MANG PONG แน่นอน โบรกที่อันเดอร์ไรต์ ถึงได้เอามาให้รายย่อยซื้อกันอย่างเยอะ ได้ยินมาว่า รายย่อยบางคนได้ตั้ง 50,000 แน่ะ

Reply #5 เมื่อ 05/11/2004, 14:38:56
ก่อนที่จะซื้อ IPO ทุกคนต้องมีวิจารณญาณที่ดี ต้องคิดว่าตัวเรานั้น เป็นแค่รายย่อย ไม่มีทางที่เขาจะให้หุ้นดีๆ แน่ ดังนั้นพวกคุณต้องศึกษาผลกำไรขาดทุน p/e หรืออื่นๆ มากกว่านี้ ไม่งั้น คุณก็ตกเป็นเหยื่อนั่นเอง

กระทู้ที่ 6 "กรณี PONG ลองมาอ่าน แล้วช่วยตัดสินใจหน่อย"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=70567

ความเห็นที่น่าสนใจ
Reply #10 เมื่อ 05/11/2004, 23:57:03

ไปร้องเรียนผู้ใหญ่ของบริษัทนี้ แล้วดูว่าจะมีแอคชั่นอย่างไร ดูว่ามันเป็นทั้งบริษัทหรืออาจเป็นมาร์คนเดียวที่ได้โควตามาต้องปล่อยให้หมดเลยขู่คุณ ว่าไม่เอาตัวนี้ตัวอื่นจะไม่ได้อีก

Reply #14 เมื่อ 06/11/2004, 01:46:45

หุ้น IPO มันก็แบบนี้ล่ะครับ ตัวไหนที่มันดี ไม่ตกถึงท้องคุณแน่ๆ ผมเล่นมาสิบกว่าปีจนเบื่อห้องค้า สังคมมันก็เหมือนกันทุกๆ ที่ มาร์ก็น่าเห็นใจ ถ้าเขาปล่อยไม่หมด ก็โดนผู้ใหญ่เล่นงาน ผมเดาว่าคุณคงเป็นรายย่อยแบบย่อยจริงๆ มาร์ คุณนี่ใช้ไม่ได้ ถ้าผมเป็นคุณ จะต่อว่ามาร์อย่างหนักนะครับ เอาหุ้นพวกนี้มาหลอกขาย

Reply #23 เมื่อ 07/11/2004, 15:26:31

เป็นธรรมดาครับ ส่วนที่มาร์พูดนั้น ผมคิดว่ามาร์พูดเกินเลยไปครับ เพราะใช้คำว่าแบลคลิสต์พร่ำเพรื่อ เขาแค่จะบอกคุณว่า ถ้าคุณไม่เอาคุณจะอยู่ในบัญชีที่ให้หุ้นจองแล้วไม่เอาเท่านั้นครับ ผมก็เป็นครับ โบรกเกอร์ให้หุ้น AREEYA มาในช่วงที่กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กำลังอยู่ในช่วงขาลง อีกทั้งเราก็สงสัยว่าหุ้นอะไรหว่าตั้งราคา PAR 2 บาทเกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ก็เลยตอบปฏิเสธไป คุณคิดดูตั้งแต่นั้นมา ไม่เคยมีหุ้นจองให้ผมอีกเลยครับ แม้แต่หุ้น TOP เขาก็ยังไม่ให้ผมด้วยเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เขาเป็นแกนนำด้วยซ้ำ น้องคิดเอาเองแล้วกัน (สักวันหนึ่งผมจะเล่นมันให้เจ็บเช่นกัน) ล่าสุดจะให้หุ้นไทยคอปเปอร์ บริษัทในเครือของ TFI ที่เจ้าพ่อกาแฟเป็นเจ้าของ ผมก็ปฏิเสธเช่นกัน เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เชื่อเถอะว่าครั้งหน้ามีตัวดีๆ อีก เขาก็ไม่ให้ผมอีกเช่นกัน มันก็ต้องอย่างนั้นครับ

กระทู้ที่ 7 "PONG ถามหาความรับผิดชอบจากธนชาติ"
[เนื้อหาเรื่องเดียวกับกระทู้ที่ 6]
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=70478

กระทู้ที่ 8 "snc จอง 3.80 เหลือ 3 KH จอง 3.80 มาทายว่าวันนี้จะเหลือเท่าไร ทั้งสอง 2 ตัวนําเสนอโดย ASP"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=71061

กระทู้ที่ 9 "วันพรุ่งนี้ หุ้น IPO พรพรหมเมททอลจะหลุดจอง เหมือน 3 ตัวก่อนหน้านี้ไหม เสียวจริงๆ"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=71200

ความเห็นที่น่าสนใจ
Reply #2 เมื่อ 10/11/2004 , 19:12:23 ?
อารมณ์ตลาดแบบนี้รอดยาก

Reply #3 เมื่อ 10/11/2004 , 19:48:52 ?
ไม่ใช่เพราะอารมณ์ตลาดครับ มันเพราะว่าพวกหุ้นตัวเล็กชอบหลอกตีหัวตะหากครับ

Reply #9 เมื่อ 11/11/2004 , 19:31:09 ?
เป็นไปตามคาดครับ PPM หลอกรับทานรายย่อยไปอีกตัว

กระทู้ที่ 10 "อยู่ ๆ มาร์ ก็โทรมาหา" ("มาร์" ในที่นี้คือมาร์เก็ตติ้งหุ้น เจ้าหน้าที่ช่วยส่งคำสั่งซื้อขายและให้คำแนะนำแก่นักลงทุนนั่นเอง)
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=70491

ความเห็นที่น่าสนใจ
Reply #3 เมื่อ 05/11/2004, 15:11:07

(ความเห็นนี้เป็นของ "ปีเตอร์ ชาง" เจ้าของเว็บบอร์ด Greenbull.net หรือกระทิงเขียวแห่งนี้)

พฤติกรรมของโบรกเกอร์จะมีสองพวก คือพวกที่ไม่ค่อยดี กับพวกที่ดี

พวกที่ไม่ค่อยดีคือ การจัดสรรหุ้นจองจะไม่ค่อยเป็นธรรม สำหรับหุ้นดีๆ พวกรายใหญ่จะได้เยอะมาก ส่วนรายย่อยๆ จะไม่เคยได้เลยแม้แต่หุ้นเดียว หรือไม่ก็เก็บไว้เองจำนวนมาก

ส่วนหุ้นไม่ดี รายใหญ่จะไม่เอา ก็จะเอามาให้รายย่อย อาจจะโทรบอกว่า สุ่มรายชื่อลูกค้ามาได้ หรืออื่นๆ

ส่วนพวกโบรกเกอร์ที่ดี พวกนี้จะจัดสรรค่อนข้างเป็นธรรมคือ trade มากให้มา trade น้อยให้น้อย รายย่อยบางรายได้หุ้นจองบ่อยๆ ถึงแม้จะไม่กี่หุ้น ก็เรียกว่าจัดสรรตามวอลุ่มจริงๆ ครับ

ผมเองไม่ค่อยได้ trade บ่อยๆ บางโบรกที่เปิดไม่ได้ trade เป็นปี แล้วมาร์ก็โทรมาจะให้หุ้นจอง ตอนนั้นคือ BT กับ THAI ซึ่งผมไม่เอาครับ ตามสัญชาตญาณว่า ของดีคงมาไม่ถึงเรา เราไม่ได้ trade มาสุ่มอะไรเจอเรานะ ซึ่งก็ไม่ได้คาดผิด เพราะเน่าทั้งคู่

ผมแนะนำว่า ถ้าคุณมองสภาพการณ์แล้ว เป็นแบบแรก คือโบรกไม่ดี หุ้นไม่ดี ก็ควรปฏิเสธไปครับ (แต่อันนี้คุณไปตัดสินใจเอาเองนะครับ) ไม่ต้องกลัวว่าต่อไปหุ้นดีๆ เขาจะไม่ให้ เพราะเขาไม่ให้อยู่แล้ว ถ้ามันมีรายใหญ่จะเอา

กระทู้ที่ 11 "ไทยน๊อคซ์ฯ เขี่ยทิสโก้ ไม่ให้เป็นอันเดอร์ไรต์ ชี้ IPO ที่ 2.10 บ. ต่ำไป-รับขายหุ้นไม่ทันปีนี้"
www.bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board=2&id=72612

ความเห็นที่น่าสนใจ
(เจ้าของกระทู้)

คงโมโหน่าดู ได้ราคาต่ำอย่างนี้ จะมีเงินไปแจกลูกพรรคหาเสียงได้ไง ซึ่งสาเหตุของการได้ราคาต่ำแสดงว่าสถาบันสนใจน้อย หรือไม่ก็ราคาที่เหมาะสม มันถูก จำกันไว้ให้ดีนะครับ 2.10 ถูกไป เขาต้องการสูงกว่านี้ นั่นหมายความว่า ใครที่จะไปจองหากจองสูงกว่านี้ upside ของราคาหุ้นที่จะขึ้นก็น้อย เพราะสถาบันหรือ demand ที่ต้องการจริง อยู่ที่บริเวณ 2.10

Reply #4 เมื่อ 18/11/2004, 13:07:26

"บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปในครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 3,400,000,000 หุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมจำนวนไม่เกิน 3,070,411,666 หุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 329,588,334 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท อย่างไรก็ดี เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท"

จะเห็นว่าตามข้อมูลเดิม...

1. กระจายทั้งสิ้น 3,400 ล้านหุ้น

2. เป็นหุ้นสามัญเดิม (หรือก็คือเจ้าของเอามาขายนั่นแหละ) 3,070 ล้านหุ้น

3. หุ้นเพิ่มทุนจริงๆ มีเพียง 330 ล้านหุ้น หากขายได้ = 330 ลบ. x 2.80 บาท/หุ้น = จะได้เงินเข้าบริษัทแค่ 924 ล้านบาทเท่านั้น

หรือพูดง่ายๆ ก็คืออยากได้เงินเข้าบริษัทเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนไม่ถึง 1,000 ล้านบาทด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่บริษัทก็มีกำไรทั้งปี 3,000 กว่าล้านบาท...

ที่บอกว่าอยากเอาเงินเพิ่มทุนครั้งนี้มาหมุนเวียนน่ะ ตัดทิ้งไปได้เลย ..ลองใช้ตรรกง่ายๆ ก็รู้

ผมรายย่อยคนหนึ่ง เห็นอะไรแปลกๆ ก็มาเล่าสู่กันฟัง ซะมากกว่า ก็คงต้องตามเกมนี้ต่อไปครับ เดี๋ยวนี้รายย่อยฉลาด

กระทู้ทั้งหมดนี้เราได้ก๊อบปี้หน้าจอและข้อความมาตามความเป็นจริง โดยมิได้เพิ่มเติมแต่อย่างใด คุณสามารถดูกราฟบันทึกความเคลื่อนไหวของราคาพร้อมด้วยตัวชี้วัดและเครื่องมือทางเทคนิคอลต่างๆ ของหุ้นแต่ละตัวที่ถูกพูดถึงในกระทู้เหล่านี้ได้ที่ https://trading.kimeng.co.th/ms4j.asp?t=KE% Graph