บีโอไอลงนามบันทึกความเข้าใจกับธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ 1 ใน 4 ธนาคารยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น
เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมสนับสนุนนักลงทุนญี่ปุ่นให้ลงทุนในไทย หวังใช้เป็นเครือข่ายดึงดูดลูกค้าทุกระดับ
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าวันนี้
(12 มีนาคม) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมเป็นประธานและสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ
(Memorandum of Understanding) ความร่วมมือส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นสู่ไทย
ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ (The
Bank of Tokyo-Mitsubishi, Ltd.)
การลงนามความเข้าใจครั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักเพื่อประสานความร่วมมือระหว่างบีโอไอกับกลุ่มธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ
จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นให้เข้าไทยมากขึ้น อาทิ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกัน
แนะนำลูกค้าธนาคารผู้สนใจลงทุนกับบีโอไอ ร่วมจัดรับคณะนักลงทุนจากญี่ปุ่น
และจัดสัมมนาการลงทุนรายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์
อาหาร ฯลฯ โดยจะจัดเมืองเศรษฐกิจใหญ่ๆ ทั่วญี่ปุ่น อาทิ โตเกียว โอซาก้า
นาโงย่า เป็นต้น
ที่ผ่านมาธนาคารโตเกียวและธนาคารมิตซูบิชิจัดสัมมนาเพื่อชักจูงการลงทุนจากญี่ปุ่นมาไทยต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ตั้งแต่ธนาคารโตเกียวและธนาคารมิตซูบิชิยังแยกกัน ธนาคารทั้งสองแห่งร่วมกับบีโอไอจัดสัมมนาชักจูงการลงทุนที่ญี่ปุ่นมาตลอด
จนกระทั่งปี 2539 ธนาคารทั้งสองแห่งควบรวมเป็นธนาคารโตเกียว- มิตซูบิชิ และเห็นว่าไทยมีศักยภาพรองรับการลงทุนอย่างดี
จึงตัดสินใจร่วมมือกับบีโอไอ เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างจริงจังมากขึ้น
นายสมพงษ์กล่าวด้วยว่าการจะชักจูงการลงทุนจากญี่ปุ่น จำเป็นต้องลดปัญหา
และอุปสรรคการลงทุน รวมทั้งสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี การลงนามความเข้าใจกับกลุ่มธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิครั้งนี้
จะช่วยส่งเสริมเครือข่ายทำการตลาดเชิงรุกในญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศเป้าหมายชักจูงการลงทุนปีนี้
14 พฤจิกายน 2544 บีโอไอลงนามความเข้าใจกับกลุ่มธนาคาร UFJ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารที่เกิดจากการรวมตัวของธนาคารซันวาและธนาคารโตโก
เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างบีโอไอ ชักจูงนักลงทุนญี่ปุ่นที่เป็นลูกค้าธนาคารให้ลงทุนในไทยมากขึ้น
อนาคตอันใกล้ บีโอไอจะร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับกลุ่มธนาคารใหญ่ญี่ปุ่นอีก
2 กลุ่ม เพื่อสนับสนุนการลงทุนจากญี่ปุ่นมาไทย
ธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิเป็น 1 ใน 4 ธนาคารญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ทั้งด้านสินทรัพย์
และผลประกอบการ สินทรัพย์ทั้งสิ้น 76.38 ล้านล้านเยน มูลค่าหุ้นธนาคารในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
ณ กันยายน 2544 ที่ 5 ล้านล้านเยน เป็นธนาคารเดียวที่ไม่พึ่งการอัดฉีดเงินทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น
รวมเครือข่ายต่างประเทศแข่งแกร่ง
สำนักงานต่างประเทศทั้งสิ้น 205 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก สำนักงาน
49 แห่ง จากทั้งหมด ตั้งอยู่ในเอเซีย จำนวนนี้ 6 แห่งตั้งในไทย กระจายจังหวัดหลักๆ
ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พระนครอยุธยา และชลบุรี
ปัจจุบันธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิมีลูกค้า ซึ่งเป็นบริษัทญี่ปุ่นในไทยทั้งสิ้นประมาณ
1,500 บริษัท ลูกค้ารายใหญ่ๆ ของธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ ได้แก่ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์
เช่น บริษัท ฮอนด้า มิตซูบิชิ อีซูซุ และผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนให้บริษัทรถยนต์เหล่านี้
นอกจากนี้กลุ่มค้าหลักธนาคารยังมีกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ อุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป
และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์