|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ธันวาคม 2547
|
|
การรุกเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธุรกิจฟิตเนสของ MAJOR ดูผิวเผินอาจมองได้ว่าไม่ค่อยเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจดั้งเดิมสักเท่าไร แต่ในโมเดลที่กลุ่มนี้คิดขึ้นมาใหม่ ธุรกิจทั้ง 2 ดูจะมี synergy กันได้อย่างดีทีเดียว
ประมาณวันที่ 7-8 ธันวาคมที่จะถึงนี้ หุ้นของบริษัทแคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์ พีเรียน (California WOW Xperience : CAWOW) จะได้ฤกษ์เปิดขายให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นขั้นตอนเกือบจะสุดท้าย ก่อนที่หุ้นตัวนี้จะได้เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดกันไว้ว่าเป็นประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนนี้
CAWOW ตั้งใจจะระดมเงินทุนประมาณ 700-800 ล้านบาท ส่วนหนึ่งประมาณ 30% เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน แต่ส่วนใหญ่ประมาณ 70% จะนำไปใช้ในการขยายสาขา ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2548 จะเปิดสาขาอีก 3 แห่ง
CAWOW ประกอบธุรกิจหลักเป็นผู้ให้บริการศูนย์ออกกำลังกาย (fitness center) ครบวงจร ซึ่งเป็นธุรกิจที่เพิ่งได้รับ ความนิยมอย่างมากจากคนไทย ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ
ปัจจุบันกลุ่มผู้ถือหุ้นหลักของ CAWOW คือ Eric Levine และกลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป (MAJOR) ในสัดส่วน 38 : 49% ตามลำดับ
"เรามองว่าอนาคตของธุรกิจฟิตเนส จะเป็น extertainment ซึ่งจะตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของคนที่ต้องการจะมีสุขภาพ แข็งแรง" วิชา พูลวรลักษณ์ ประธาน กรรมการบริหาร MAJOR ในฐานะกรรมการ ของ CAWOW บอก
MAJOR ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่สามารถ ฉีกรูปแบบธุรกิจโรงภาพยนตร์แบบดั้งเดิม ให้กลายเป็นธุรกิจบันเทิงเต็มรูปแบบได้อย่างครบวงจร ด้วยการเพิ่มความสนุกสนานให้กับโรงภาพยนตร์ที่อยู่ในเครือ ในทุกทำเลที่ตั้ง อาทิ การผสมผสานธุรกิจโบว์ลิ่ง และ คาราโอเกะเข้าไปกับโรงภาพยนตร์ ตลอดจนการสร้างโรงภาพยนตร์ให้กลายเป็น complex ขนาดใหญ่
การเข้ามาร่วมทุนใน CAWOW นั้น นอกจาก MAJOR จะมีความเชื่อมั่นในประสบการณ์และความสามารถของ Eric Levine แล้ว MAJOR ยังมองว่าธุรกิจโรงภาพยนตร์กับสถานออกกำลังกาย เป็น 2 ธุรกิจที่สามารถจะ synergy กันได้อย่างดี ทีเดียวในอนาคต
"สมัยก่อนเรามีโรงหนังอย่างเดียว แล้วก็เพิ่มเป็นโบว์ลิ่ง คนก็เริ่มติดกับรูปแบบ นี้ ไปดูหนังที่ไหนที่ไม่มีโบว์ลิ่ง ก็ต้องถามว่า ทำไมถึงไม่มี พอเราเริ่มเพิ่มห้องคาราโอเกะ เข้าไป คนก็ยิ่งชอบ แล้วไปที่โรงภาพยนตร์ ไหนที่ไม่มีห้องคาราโอเกะก็ต้องถามอีกว่าทำไมที่นี่ถึงไม่มี ต่อไปในอนาคตคนอาจจะ ต้องถามอีกว่าทำไมที่โรงภาพยนตร์นี้ไม่มีแคลิฟอร์เนีย ว้าว หรือในทางกลับกัน คนที่จะมาออกกำลังกายที่แคลิฟอร์เนีย อาจจะต้องถามว่า ทำไมสาขานี้ถึงไม่มีโรงหนัง เมเจอร์" วิชายกตัวอย่างถึง synergy ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ส่วน Eric เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มากว่า 20 ปี เริ่มจากการร่วมก่อตั้งแฟมิลี่ ฟิตเนส เพื่อเข้าไปบุกเบิกธุรกิจ ฟิตเนสในฮ่องกงเมื่อปี 1996 ก่อนที่จะนำ ธุรกิจนี้เข้ามาสู่ประเทศไทย เมื่อกลางปี 2543
เขามองว่าจากจำนวนประชากรของ ประเทศที่มีอยู่กว่า 60 ล้านคน ที่เป็นสมาชิกของฟิตเนสมีสัดส่วนเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเมืองใหญ่ๆ ของโลก สัดส่วนดังกล่าวมีสูงกว่ามาก ดังนั้นจึงเป็น ดัชนีสำคัญที่ชี้ได้ว่าธุรกิจนี้จะต้องมีการเติบโตต่อไปได้มากในอนาคต
ปัจจุบัน CAWOW มีสาขาที่อาคาร ลิเบอร์ตี้ สีลม ซึ่งเป็นสาขาแรกที่เปิดตั้งแต่ปี 2543 และสาขาสุขุมวิท 23 ที่เพิ่งเปิดให้ บริการไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ตามโครง การ CAWOW จะเปิดสาขาที่ 3 ที่ปิ่นเกล้า ในไตรมาสแรกของปีหน้า และยังมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาที่แจ้งวัฒนะ และโครงการสยามพารากอน ภายในปี 2548
จำนวนสมาชิกของ CAWOW ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 30,000 คน แต่ในสายตาของวิชาแล้ว เขามองว่าด้วยการ synergy กันระหว่าง MAJOR กับ CAWOW ยอดสมาชิกของ CAWOW ในปีหน้า สามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 1 แสนคนโดยไม่ยาก
คงต้องรอดูว่าหลัง CAWOW ได้เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปลายเดือนนี้จะสามารถสร้างสีสันให้กับหุ้นกลุ่มบันเทิงและสันทนาการ ที่ปัจจุบันยังไม่มีธุรกิจนี้จดทะเบียนอยู่เลยได้มากน้อยเพียงใด
|
|
|
|
|