โทรศัพท์มือถือ 2 ระบบภายใต้เครือข่าย 3G และจีเอสเอ็ม กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่โอเปอเรเตอร์รายเดียวที่ให้บริการระบบ 3G ในจีนขณะนี้ นำมาใช้จูงใจลูกค้าหน้าใหม่ เดินตามรอยโอเปอเรเตอร์ในสหรัฐฯ ที่นำหน้าไปแล้วแค่ไม่กี่ก้าว

ด้วยเพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนมาใช้ระบบ 3G ทำให้ไชน่า ยูนิคอม ค่ายโอเปอเรเตอร์รายเดียวของจีน ในขณะนี้ที่ตัดสินใจลงทุนเปลี่ยนระบบการให้บริการจากจีเอสเอ็มมาเป็นซีดีเอ็มเอ 2000 1x ต้องเร่งหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อจูงใจ ให้ผู้บริโภคในประเทศหันมาใช้ระบบใหม่แทนของเก่าอย่างจีเอสเอ็มกันยกใหญ่ และ กลายเป็นที่มาของบทเรียนที่น่าสนใจสำหรับ ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนระบบ หรือประเทศที่กำลังคิดที่จะเปลี่ยนระบบในเร็ววันนี้

จีนไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่า มีประชากรมากที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นประเทศที่มีประชากรจักรยานมากที่สุดในโลก มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก และกลายเป็นประเทศที่มีคนใช้โทรศัพท์มือถือมากที่สุดในโลกไปแล้ว จากการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ โดยประชากร ราวๆ 1,300 ล้านคนของจีน ใช้โทรศัพท์มากถึง 315 ล้านเครื่อง ตัวเลขล่าสุดแบ่งการใช้งานโทรศัพท์มือถือออกเป็น 2 ระบบ คือจีเอสเอ็ม ระบบโทรศัพท์มือถือเก่าแก่ที่ใช้ในจีนมานานกว่า 14 ปี ที่จากการสำรวจ พบว่ามีประชากรใช้งานมากกว่า 272 ล้าน คน และระบบซีดีเอ็มเอ 2000 1x ระบบโทรศัพท์มือถือ 3G ที่ไชน่า ยูนิคอมเพิ่ง จะเปิดให้บริการไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ตัวเลขของคนใช้งาน ก็ทะลุไป 26 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แม้จะเป็นตัวเลขไม่กี่สิบล้านคน แต่ แฟรงค์ เมิ่ง ประธานบริษัทควอลคอมม์ ประเทศจีน เจ้าของเทคโนโลยีซีดีเอ็มเอ 2000 1x พันธมิตรรายใหญ่ที่เข้ามารับหน้าที่ในการช่วยเปลี่ยนการให้บริการระบบให้กับไชน่า ยูนิคอม ก็ระบุว่า ถนนทุกสายในอนาคตอันใกล้นั้นล้วนแล้วแต่กำลังมุ่งหน้าไปยังเทคโนโลยีซีดีเอ็มเอกันแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นซีดีเอ็มเอ 2000 1x หรือ WCDMA โดยทุกวันนี้มีคนใช้โทรศัพท์มือถือในระบบ 3G แล้วกว่า 128 ล้านคน จาก 108 โอเปอเรเตอร์ทั่วโลกใน 46 ประเทศ แถมยังมีการคาดการณ์กันด้วย ว่าตัวเลขผู้ใช้อาจทะลุถึงระดับ 900 ล้านคนในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

อย่างจีนเองจะพบว่า เมื่อเริ่มแรกที่เปิดให้บริการในปีแรกนั้นไชน่า ยูนิคอม มีฐานลูกค้าเพียง 7 ล้านคนเท่านั้น แต่ ปัจจุบันพบว่ามีมากกว่า 20 ล้านคนเลยทีเดียว เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะอิทธิพลของ เทคโนโลยีที่ผลักดันให้กลุ่มผู้บริโภคในจีนให้ความสำคัญกับการใช้งานข้อมูล หรือมัลติมีเดียบนมือถือมากกว่า การใช้เพียงติดต่อสื่อสารด้วยเสียงเหมือนแต่ก่อน เมิ่งยังให้ความเห็นด้วยว่า เขาเองเชื่อว่าภายใน อีก 4 ปีข้างหน้านี้ ผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์มือถือในระบบ 2G หรือจีเอสเอ็มทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนมาใช้มือถือในระบบ 3G อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าโอเปอเรเตอร์จะประสบความสำเร็จในการให้บริการ 3G แทน 2G เสียทุกรายไป บทเรียนของการเปลี่ยนระบบในบางประเทศ อาทิ เวียดนาม หรือไทยเอง มีให้เห็นกันเป็นกรณีศึกษาว่าแม้จะเปิดให้บริการมาได้หลายปีแล้ว แต่ก็แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดมาได้เพียงไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของตลาดโทรศัพท์มือถือทั้งหมดในประเทศด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงปฏิเสธ ไม่ได้ว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ไม่เพียงแต่การมีเทคโนโลยีล้ำหน้าเท่านั้น แต่หมายถึงการใช้กลยุทธ์ใหม่ในการประชา สัมพันธ์หรือต้อนให้ผู้บริโภคเปลี่ยนใจมาใช้ระบบใหม่ให้ได้ด้วย

ในประเทศญี่ปุ่นนั้นทั้งค่ายเอ็นทีที โดโคโม ค่ายมือถืออันดับหนึ่งของประเทศ และเคดีดีไอ ค่ายรองได้เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ ในการลดราคามือถือ 3G ชนิดที่ว่าเกือบจะแจกฟรี หรือให้นำเครื่องเก่ามาแลกเครื่อง ใหม่ พร้อมแถมโปรโมชั่นการใช้บริการด้านข้อมูลบนมือถือ เพื่อเป็นการจูงใจด้วย เช่นเดียวกันกับไชน่า ยูนิคอม ในจีนก็ได้เลือกใช้วิธีการที่คล้ายคลึงกัน แต่โดดเด่นกว่าตรงที่การจับมือกับพันธมิตรอย่างควอล คอมม์ให้ผลิตชิปรุ่นใหม่ที่รองรับการใช้งาน โทรศัพท์มือถือได้ทั้งจีเอสเอ็มและซีดีเอ็มเอ หรือที่เรียกกันว่า Dual-Mode โดยมีพันธมิตรผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเป็นผู้ผลิตออกจำหน่าย โดยจีนเป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศที่มีโทรศัพท์รุ่นนี้วางขายรองจากสหรัฐฯ

แม้จะมีราคาขายเกือบ 500 ดอลลาร์ แต่ไชน่า ยูนิคอม ก็เชื่อว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยทำให้ลูกค้าได้ มีโอกาสทดลองการใช้งานด้านข้อมูลบนเครือข่าย 3G ได้ดี เหมาะสำหรับลูกค้าที่ยังลังเลว่าจะเลือกใช้โทรศัพทมือถือในระบบใหม่หรือไม่ หรือยังติดปัญหาเรื่องเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้มานานแล้ว เนื่องจากจีน ยังมิได้เปิดให้ลูกค้าสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ เดิมได้หากมีการย้ายค่าย และยิ่งมีตัวเลือก ของรุ่นโทรศัพท์มือถือที่มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับลูกค้าจีเอสเอ็มที่ต้องการเวลาในการชั่งใจด้วย

เช่นเดียวกับการมีโทรศัพท์มือถือ 3G เป็นตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจใช้ระบบใหม่นี้ ดังนั้นค่ายโอเปอเรเตอร์ ควอลคอมม์และ ผู้ผลิต โทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ จึงพยายาม กันอย่างเต็มที่ที่จะพัฒนาโทรศัพท์มือถือ 3G ออกมาจำหน่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำ ได้ โดยทุกวันนี้มีโทรศัพท์มือถือ 3G วางขายแล้วทั่วโลกจำนวน 543 รุ่น จากเวนเดอร์ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือทั้งสิ้น 53 ราย และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องในเร็ววันนี้