|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ธันวาคม 2547
|
|
ถือเป็นการบริหารการท่องเที่ยวที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยคุ้นเคยนัก เมื่อผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัญชาติสวิส 2 ราย ได้เดินทางข้ามทวีปเข้ามาร่วมกันเปิดสำนักงานตัวแทนในประเทศไทย เพื่อจะเข้ามาทำการตลาดในเชิงรุกในไทย
โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน อาศัยว่าเป็นช่วง off season ของการท่องเที่ยวในสวิส ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทได้เดินทางมาแนะนำธุรกิจด้วยตนเอง ทั้งกับบริษัทนำเที่ยวและสื่อมวลชน
Urs Kessler : Vice President และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการ บริษัท Jungfrau Railways จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวในเขต Jungfrau เดินทางมาพร้อมกับ Jurg Kirchhofer เจ้าของ Kirchhofer ตัวแทน จำหน่ายนาฬิกาสวิสรายใหญ่
ทั้ง 2 เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนที่ร่วมมือกันทำตลาด เพื่อให้เขต Jungfrau เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าเป็นข้อแตกต่างของการบริหารสถานที่ท่องเที่ยว ในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเทียบกับของไทย
โดยรัฐบาลสวิสได้แบ่งพื้นที่ของประเทศออกเป็นเขตๆ และให้สิทธิ์ในการพัฒนาและบริหารพื้นที่เหล่านั้นแก่เอกชนเป็นรายๆ ไป โดยอาศัยผลตอบแทนที่จะมอบให้แก่ภาครัฐ แนวทาง การพัฒนาและการรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก
โดยการท่องเที่ยวแห่งสวิตเซอร์แลนด์ จะทำการตลาดใน ระดับประเทศ ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศ ส่วนผู้ได้รับสิทธิ์หรือสัมปทานในแต่ละเขตก็จะมีวิถีการบริหารและการทำตลาดเป็นของตนเอง ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่และ จุดเด่นที่แตกต่าง
เป็นการแข่งขันกันระหว่างเขต โดยมีนักท่องเที่ยวเป็นเดิมพัน ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพของการท่องเที่ยวในภาพรวม
จุดเด่นของ Jungfrau ซึ่งตั้งอยู่อยู่ทางตอนกลางของประเทศค่อนมาทางทิศใต้บนแนวเทือกเขาแอลป์ คือ มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปที่ระดับ 3,571 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก ทางธรรมชาติจาก UNESCO
สิทธิ์ในการพัฒนาพื้นที่เขตนี้ตกเป็นของบริษัท Jungfrau Railways ซึ่งได้เข้าไปก่อสร้างทางรถไฟตั้งแต่ปี 1896 และได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง มีการก่อสร้างทั้งที่พัก จุดชมวิว และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ โดยทุกวันนี้จะมีรายได้จากการให้บริการ รถไฟแบบเหมาจ่าย ทั้งประเภท 3 วันและ 6 วัน ซึ่งราคาประมาณ 100 กว่ายูโรต่อคน
ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท ในปีที่ผ่านมาทำรายได้ กว่า 160 ล้านยูโร ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 5 แสนคน
"เราเข้าใจว่า การชอปปิ้งเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว" Jurg Kirchhofer ทายาทรุ่นที่ 2 ของผู้ก่อตั้งบริษัท Kirchhofer ตัวแทนจำหน่ายนาฬิกามากกว่า 100 แบรนด์ บอกถึงเหตุผลของ การร่วมมือกันในการทำตลาดกับ Jungfrau Railways โดยครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 เข้ามาทำตลาดอย่างเข้มข้นในไทย
"จากสถิติที่ทำไว้ คนไทยมีการใช้จ่ายต่อหัวสูงที่สุดในโลก พอๆ กับคนรัสเซีย" Jurg บอกแต่ไม่ได้เปิดเผยถึงตัวเลขที่แน่นอน ถือเป็นการอธิบายความสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อเขต Jungfrau ได้เป็นอย่างดี
|
|
|
|
|