|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ ธันวาคม 2547
|
|
การประชุม "SCC Accounting Summit 2004" ในคอนเซ็ปต์ที่ว่า "Sustainable Value Creation" ซึ่งเป็นการจัดการประชุมนักบัญชีองค์กรชั้นนำ ครั้งแรกของเครือซิเมนต์ไทย เป็นงานที่จัดขึ้นโดยมีนัยซ่อนเร้นอันลึกซึ้ง
งานนี้จัดขึ้นในนามของบริษัทซิเมนต์ไทยการบัญชี โดยมีการเชิญนักบัญชีจากบริษัทชั้นนำทั่วประเทศกว่า 1,000 คน มาร่วมประชุม สัมมนา เพื่อพัฒนาแนวคิด ความรู้ รวมทั้งยกระดับการพัฒนาระบบการจัดทำบัญชี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือการนำเสนอเรื่องเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านบัญชี ให้มีความรวดเร็ว ทันเวลา และถูกต้อง
มีการเชิญวิทยากรผู้มีความรู้ ความสามารถในด้านการบริหาร มาพูดเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับระบบบัญชีธุรกิจยุคใหม่ ซึ่งเป็นยุคที่ฝ่ายบัญชี มิได้เพียงเป็นผู้เก็บรวบรวมตัวเลขยอดรายรับรายจ่าย แต่ยังต้องมีบทบาทในการบริหารเงินทุน สำหรับ การขยาย หรือปรับปรุงองค์กรให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงขึ้น
วิทยากรเหล่านี้ อาทิ จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย วรศักดิ์ ทุมมานนท์ นักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฯลฯ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างยิ่งจากผู้เข้าร่วมประชุม
แต่นัยซ่อนเร้นอันลึกซึ้งที่ว่า คืองานนี้ดูเหมือนจะเป็น การเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกของบริษัทซิเมนต์ไทย การบัญชี และบริษัทกฎหมายซิเมนต์ไทย บริษัทลูก ซึ่งแตกตัวออกมาโดยการรวบรวมงานที่เคยกระจายอยู่ในฝ่ายบัญชีและฝ่ายกฎหมายของบริษัทในเครือซิเมนต์ไทยมาไว้ในที่เดียวกัน
เป็นรูปแบบการดำเนินงานที่คล้ายคลึงกับเมื่อครั้งที่เครือซิเมนต์ไทยได้ร่วมทุนกับแอคเซนเจอร์ บริษัทที่ปรึกษาทางด้านไอทีของเครือ จัดตั้งบริษัทไอที วัน ขึ้นมารับผิดชอบการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเครือทั้งหมดแต่เพียงรายเดียว เมื่อ 4 ปีก่อน
เพียงแต่บริษัทซิเมนต์ไทยการบัญชี และบริษัทกฎหมาย ซิเมนต์ไทย ซึ่งเพิ่งแตกตัวออกมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ มิได้เป็นการร่วมทุน แต่เป็นการถือหุ้นโดยบริษัทปูนซิเมนต์ไทย 100%
การก่อกำเนิดขึ้นของไอที วัน ซิเมนต์ไทยการบัญชีและกฎหมายซิเมนต์ไทย อาจนับเป็นการ outsourcing งานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี การบัญชี และกฎหมายของเครือซิเมนต์ไทย รูปแบบหนึ่ง โดยให้มีบริษัทเข้ามารับผิดชอบในงานทั้ง 3 ด้าน โดยเฉพาะการวางระบบ ซึ่งจะเห็นได้ชัดในงานด้านเทคโนโลยี และการบัญชี โดยที่เครือซิเมนต์ไทย ไม่จำเป็นต้องลงทุนในเรื่องนี้โดยใช้เงินงบประมาณของตนเอง
และที่สำคัญที่สุดคือทั้งไอที วัน ซิเมนต์ไทยการบัญชี และกฎหมายซิเมนต์ไทย สามารถรับงานจากบริษัทนอกเครือได้ โดยใช้ความสามารถ และระบบที่ถูกวางไว้เป็นมาตรฐานเป็น จุดขายเพื่อหารายได้เข้ามาให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินทุนจากบริษัทแม่ คือเครือซิเมนต์ไทยเพียงแหล่งเดียว
รูปแบบนี้ไม่แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ธนาคารกสิกรไทย outsource งานด้านพัฒนาเทคโนโลยีให้กับบริษัทไอบีเอ็ม โดยการโอนพนักงานในฝ่ายเทคโนโลยีของธนาคารทั้งหมดออกไปให้เป็นพนักงานของไอบีเอ็ม ซึ่งทำให้ไอบีเอ็มจะเป็นผู้เข้ามารับผิดชอบงานด้านนี้ของธนาคารแต่เพียงผู้เดียว ขณะเดียวกันอดีตพนักงานด้านไอทีของธนาคาร เมื่อเปลี่ยนสภาพไปเป็นพนักงานของไอบีเอ็มแล้ว ก็สามารถไปรับงานให้กับบริษัทอื่นๆ ได้ด้วย
เพียงแต่การ outsource ของธนาคารกสิกรไทย เป็นการ outsource งานออกไปโดยที่ธนาคารไม่ได้มีส่วนเข้าไปร่วมทุน หรือถือหุ้นอยู่ด้วย
แต่สำหรับปูนซิเมนต์ไทย โดยเฉพาะบริษัทซิเมนต์ไทยการบัญชี ซึ่งถือเป็นบริษัทแรกในเครือซิเมนต์ไทย ที่นำแนวคิด เรื่อง Shared Service มาใช้ในการให้บริการ ความที่เป็นบริษัทซึ่งรับผิดชอบการวางระบบบัญชีให้กับเครือซิเมนต์ไทย ซึ่งได้รับการยอมรับในเรื่องการเป็นบริษัทที่มีบรรษัทภิบาลดีเยี่ยม ถือเป็นภาพประทับที่ทำให้องค์กรภายนอกหลายแห่ง ต้องการนำมาเป็นเครื่องการันตีในความโปร่งใสของระบบบัญชีขององค์กรตนเอง
เพราะผู้ที่เข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทซิเมนต์ไทยการบัญชี สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าระบบบัญชีของเขาได้มาตรฐาน เช่นเดียวกับเครือซิเมนต์ไทย เพราะใช้บริการของบริษัทซิเมนต์ ไทยการบัญชี
"ที่บริษัทปูนซิเมนต์ไทย เราบริหารงานด้านบัญชีอย่างมืออาชีพ มีมาตรฐานโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสนับสนุน ที่สำคัญคือมีความโปร่งใสตามหลักบรรษัทภิบาล จึงต้องการเผยแพร่แนวคิดและวิธีการทางบัญชีของเราไปสู่บริษัทอื่นๆ เพื่อพัฒนาให้งานด้านการบัญชีของคนไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล" อวิรุทธ์ วงศ์พุทธพิทักษ์ ประธานกรรมการ บริษัทซิเมนต์ไทยการบัญชี กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทซิเมนต์ไทยการบัญชีมีองค์กรธุรกิจซึ่งให้ ความสนใจเข้ามาใช้บริการพัฒนาและวางระบบบัญชีแล้วกว่า 70 แห่ง เช่น สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บริษัทโตโยต้า (ประเทศไทย) บริษัทนิยมพาณิชย์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ
ซึ่งนอกจากการให้บริการด้านการพัฒนาและวางระบบบัญชีแล้ว บริษัทซิเมนต์ไทยการบัญชียังมีบริการพัฒนาเทคโนโลยีด้านบัญชีอื่นๆ ซึ่งกำลังมีความสำคัญในการทำธุรกิจ อาทิ การวางระบบ Customer Relations Management (CRM) และระบบ Supply Chain Management (SCM) อีกด้วย
|
|
|
|
|