ซีพีเอฟจับมือโยนิคิว คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากญี่ปุ่น ตั้งบริษัทร่วมทุน "ซีพี-โยนิคิว" โดยซีพีเอฟถือหุ้นใหญ่ 80.5% โดยใส่เงินลงทุนเบื้องต้น 161 ล้านบาท หวังอาศัยฐานตลาดต่างประเทศและเทคโนโลยีญี่ปุ่นเสริมการพัฒนาการผลิตอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ที่มีอยู่
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการร่วมทุนกับ บริษัท โยนิคิว คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยจัดตั้งบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท ซีพี-โยนิคิว จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร แปรรูปจากเนื้อสัตว์ภายใต้เทคโนโลยี การผลิตและการวิจัยที่ได้รับจากโยนิคิว เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ โดยซีพีเอฟจะถือหุ้นใหญ่ 80.50% และโยนิคิว คอร์ปอเรชั่นถือหุ้น 19.50%
บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยซีพีเอฟ จะใส่เงินลงทุนประมาณ 161 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยแหล่งที่มา ของเงินทุนมาจากเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะจัดตั้งโรงงานใหม่หรือจะอาศัยโรงงานเดิมของเครือฯที่มีอยู่
ทั้งนี้ โยนิคิว คอร์ปอเรชั่น ถือเป็นบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ทั้งยังมีตลาดขายส่งผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเนื้อสัตว์ แฮม ไส้กรอก และผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา โดยเป็น บริษัทในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวที่มีทุนจดทะเบียนถึง 3,340 ล้านบาท
ดังนั้น การร่วมทุนดังกล่าวจึงเป็นโอกาสดีที่ซีพีเอฟจะอาศัยช่องทางการตลาดของโยนิคิวที่มีอยู่ในต่างประเทศ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อนำมาประยุกต์กับเทคโนโลยีของซีพีเอฟเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมแปรรูปเนื้อสัตว์ของไทยในอนาคต
ก่อนหน้านี้ ซีพีเอฟยังเข้าลงทุน ในบริษัท Calibre Nature(M) Sdn Bhd ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจสายสัตว์น้ำ อันรวมถึงกิจการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ กิจการฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศมาเลเซีย และส่งออก ตั้งอยู่ที่มาเลเซีย มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านริงกิตมาเลเซีย โดยซีพีเอฟจะเข้าถือหุ้นทั้ง 100% เพื่อเป็น การขยายธุรกิจสัตว์น้ำไปยังประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตและส่งออกสินค้าดังกล่าว
รวมทั้งเข้าไปลงทุนในบริษัท พัฒนาพันธุ์กุ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินกิจการเพาะฟักลูกกุ้ง โดยถือหุ้นใหญ่ 51% และ Shrimp Improvement Systems, L.L.C.ถือหุ้น 49% การจัดตั้งบริษัทนี้เพื่อวิจัยและพัฒนา ปรับปรุงสายพันธุ์กุ้งและระบบการเพาะพันธุ์กุ้ง และผลิตลูกกุ้งคุณภาพเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ
ปัจจุบันซีพีเอฟถือเป็นบริษัทชั้นนำด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร จากเนื้อสัตว์ของประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานระดับโลกมากมาย อาทิ GMP, HACCP, ISO 9002, ISO 14001, TIS 18001, ISO/IEC 17025 และ Animal Welfare
|