|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
SF คาดรายได้ปี'48 โตเท่าตัว หลังผุดศูนย์การค้าเพิ่มอีก 5 แห่ง ดันพื้นที่เช่าเพิ่มจาก 7 หมื่นตารางเมตร ขยับเป็น 1.7 แสนตารางเมตร รายได้ขยับเพิ่มเป็น 1.2 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 100% ส่วนผลการดำเนินงานปีนี้คาดมีรายได้รวมกว่า 600 ล้านบาท เล็งจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น คาดไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ เผยเตรียมเทกโอเวอร์ศูนย์การค้า อีก 2-3 แห่ง วงเงินประมาณ 200-300 ล้านบาท คาดได้ข้อสรุปต้นปีหน้า
นายนพพร วิฑูรชาติ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (SF) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2548 บริษัทเตรียมเปิดตัวศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นอีก 5 แห่ง มูลค่าการลงทุนรวม 2.6 พันล้านบาท โดยเป็นเงินที่มาจากค่ามัดจำและค่าเช่าที่จำนวน 1.4 พันล้านบาท เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท 400 ล้านบาท และกู้จากสถาบันการเงิน หรือการออกหุ้นกู้จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เพิ่มขนาดพื้นที่เช่าของบริษัทจาก 7 หมื่นตารางเมตร เป็น 1.7 แสนตารางเมตร ส่งผลให้รายได้จากค่าเช่าเพิ่มเท่าตัว โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1.2 พันล้านบาท หรือโตประมาณ 100% ตามพื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้น
สำหรับศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น 5 แห่ง ประกอบด้วย Life Style Center 3 แห่งคือ แจ้งวัฒนะ,พัทยา และพหลโยธิน (ซอยอารีย์) รวมพื้นที่เช่า 40,000-45,000 ตารางเมตร และ Power Center อีก 2 แห่งคือ ที่เพชรเกษม และเอกมัย รวมพื้นที่เช่า 1 แสนตารางเมตร ซึ่งจะเปิดให้บริการ ในช่วงกลางปีหน้า
นายนพพรกล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) ศูนย์การค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ประมาณ 2-3 แห่ง มูลค่าการลงทุนแห่งละ 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการให้เช่าศูนย์การค้า และการเข้าเทกโอเวอร์ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งในการทำธุรกิจ เนื่องจากสามารถให้ผลตอบแทนได้รวดเร็วเมื่อเทียบกับการสร้างศูนย์การค้าขึ้นมาใหม่ ที่กว่าจะรับรู้รายได้ต้องรอให้การก่อสร้างแล้วเสร็จก่อน ซึ่งกินเวลาประมาณ 6 เดือน แต่การเข้าไปซื้อกิจการ บริษัทเพียงปรับปรุงพื้นที่ใช้สอยเท่านั้น ส่งผลให้การรับรู้ได้เร็วขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านบาท ของช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 605% มีสินทรัพย์รวม 1,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 873 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 82% และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 802 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 438 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 83%
นายนพพรกล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,192% จาก 14 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2546 เป็น 180 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรก 493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 364% จาก 106 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ส่วนหนึ่งเกิดจากการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นของบริษัท เพชรเกษม พาวเวอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ SF ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 74%
สำหรับแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในงวดสิ้นปี 2547 นั้น คาดว่าจะสามารถจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากมีรายได้รวม เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ในงวด ปี 2545 จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นประมาณ 70% และในงวดปี 2546 จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 75% ของกำไรสุทธิจากนโยบายของบริษัท ที่กำหนดให้มีการจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 40%
นายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (SF) กล่าวว่า แม้บริษัทจะมีการขยาย การลงทุนมากในปีหน้า แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัทมากนัก โดยคาดว่าหลังจากที่กู้เงินจากสถาบันการเงินหรือระดมเงินทุนผ่านการออกหุ้นกู้ประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจตามแผนการ ดำเนินงานในปี 2548-2549 สัดส่วนหนี้สินต่อทุนจะขยับมาเป็น 1:1 จากเดิมที่บริษัทไม่มีภาระหนี้ แต่เมื่อมองถึงแนวโน้มรายได้ที่คาดว่าจะโตขึ้นเท่าตัวตามการขนาดพื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้น ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน
สำหรับการเข้าไปซื้อกิจการศูนย์การค้าประมาณ 2-3 แห่งมูลค่าเงินลงทุน 200-300 ล้านบาทในปีหน้า คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินบริษัท เนื่องจากในการเข้าไปซื้อกิจการบริษัทจะประเมินถึงศักยภาพ ของพื้นที่ที่จะเปิดศูนย์การค้า และจะมีรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อนำไปซื้อกิจการ ซึ่งจะมาจากเงินค่าธรรมเนียม และค่ามัดจำการเช่าพื้นที่
|
|
|
|
|