Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 มีนาคม 2545
คอมแพคสู่ โซลูชั่นคอมปานี ยุทธศาสตร์ผู้นำ ครองตลาดไอทีแบบเบ็ดเสร็จ             
 


   
search resources

คอมแพค




แม้ว่าการรวมกิจการระหว่างคอมแพคและเอชพีอยู่ระหว่างการรอมติของผู้ถือหุ้นระหว่างสองฝ่ายที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19-20 มีนาคม 2545 นี้ แต่ประเด็นดังกล่าวไม่มีผลต่อการดำเนินงานที่ต้องเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทคอมแพค (ประเทศไทย) นำทีมโดย ก้องเกียรติ หวังวีระมิตร กรรมการผู้จัดการและคณะผู้บริหารบริษัท ร่วมกันเปิดนโยบายตามวิสัยสู่การเป็นผู้นำการให้บริการโซลูชั่นทางด้านไอทีในประเทศไทย

“เรามีหน้าที่ที่จะต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันให้คอมแพค สามารถครอบครองความเป็นผู้นำตลาดไอที และผู้นำผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีที่ครอบวงจรในปี 2545” ก้องเกียรติกล่าว

กลยุทธ์ทางธุรกิจของคอมแพคประเทศไทยมีนโยบายการดำเนินธุรกิจเพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของบริษัทแม่ ในการที่จะเป็นผู้นำการให้บริการโซลูชั่นทางด้านไอทีในประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์ 3 ประการหลัก คือ

1. การมุ่งผลักดันระบบโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้สมบูรณ์

2. เพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์และบริการ ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

3. นำเสนอโซลูชั่นที่แตกต่าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจและแก้ปัญหาเฉพาะสำหรับแต่ละภาคธุรกิจ

โดยกลุ่มเป้าหมายที่มุ่งเน้น ครอบคลุมตั้งแต่ กลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ในภาคการเงินการธนาคาร, สื่อสาร โทรคมนาคม, อุตสาหกรรมการผลิต, องค์กรรัฐบาล, องค์กรการศึกษา รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจข้ามชาติ, กลุ่มธุรกิจ SME ไปจนถึงผู้บริโภคทั่วไป และเพื่อรองรับกลยุทธ์ดังกล่าว คอมแพคมุ่งเน้นการทำตลาดในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการออกเป็น

3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน งานบริการและโซลูชั่น และกลุ่มผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อต่างๆ ซึ่งจะเน้นการดำเนินงานร่วมกันพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ พัฒนานำเสนอเป็นโซลูชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม

ในกลุ่มของ “ผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่” (Enterprise Business Group) คอมแพคจะยังคงเน้นโซลูชั่นเพื่อการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันหยุด (Business Critical Solution) ด้วยผลิตภัณฑ์หลัก เช่น NonStop Himalaya, AlphaServer

พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีภายใต้กลยุทธ์ “Adaptive Infrastructure” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ต้นแบบ ที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนตัวให้เข้ากับสภาพการณ์ของตลาดและธุรกิจโลกได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ ที่ทำงานด้วยหน่วยประมวลผลตระกูลไอเทเนียมของอินเทล ให้เป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานแก่ลูกค้า

นอกจากนี้ ในปี 2545 คอมแพควางแผนการตลาดด้านการจัดเก็บข้อมูล (Storage) อย่างจริงจัง ซึ่งคอมแพคมั่นใจถึงโอกาสและเทคโนโลยีของคอมแพคในตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในปีที่แล้ว คอมแพคมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกสูงถึง 45%

“ด้วยเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ทรงประสิทธิภาพ จะทำให้คอมแพคประสบความสำเร็จในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและอินเทอร์เน็ตของลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ประกอบกับคอมแพคมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการร่วมกันนำเสนอโซลูชั่นที่หลากหลายแก่ลูกค้า เช่น ไมโครซอฟท์, อินเทล, ซิสโก้, ออราเคิล, เอสเอพี, ซีเบล, คอมเมิร์ซวัน, บริษัทที่ปรึกษาและวางระบบไอทีชั้นนำ รวมไปถึงผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต” ก้องเกียรติกล่าว

ส่วนงาน “ด้านบริการและการวางระบบโซลูชั่น” (Global Services) คอมแพคจะใช้จุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญ, บุคลากร และเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลก จับมือกับพันธมิตรธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นที่หลากหลายแก่ลูกค้า มุ่งเน้นจุดเด่นด้านศักยภาพที่สามารถให้บริการได้โดยไม่จำกัดแพลตฟอร์ม หรือเทคโนโลยี ซึ่งแบ่งการให้บริการออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

1. กลุ่ม Managed Services หรือการให้บริการเอาท์ซอร์ส

2. กลุ่มให้บริการติดตั้งระบบและโซลูชั่น (System Intergration)

3. กลุ่มให้บริการหลังการขาย (Customer Service)

4. กลุ่มการให้บริการระบบการเช่าซื้อ (Compaq Financial Services)

โดยจะมุ่งเน้นการบริการ และโซลูชั่นด้านการจัดการบริหารระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Managed Services หรือ Outsourcing Services), บริการเครือข่ายยุคหน้า (Next Generation Network), Enterprise Ready Microsoft, ระบบบริหารการจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management), Business Critical Services, การฝึกอบรมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ให้บริการลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ

ทั้งนี้ยังมีโซลูชั่นเฉพาะสำหรับกลุ่มธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคม และธุรกิจการเงินการธนาคาร และในขณะเดียวกันก็จะวางเป้าหมายการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อรองรับเทคโนโลยี 3G เทคโนโลยี GPRS และโซลูชั่นการจัดการร้านอาหาร การแพทย์ และการขาย บนเครื่อง iPAQ Pocket PC นอกจากนี้คอมแพคยังมีบริการเช่าซื้อระบบคอมพิวเตอร์ให้กับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่อีกด้วย

สำหรับ ”กลุ่มผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อต่างๆ” (Access Business Group) คอมแพคพร้อมทำการตลาดผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นด้านไร้สาย เพื่อตอบสนองทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กรและผู้ใช้ตามบ้าน โดยมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด เช่น ผลิตภัณฑ์เฮนด์เฮลด์พีซี, Thin Clients สำหรับรองรับการใช้งานแบบเครือข่าย, ผลิตภัณฑ์เครือข่ายไร้สายและบรอดแบนด์ เพื่อการรับส่งทั้งข้อมูลภาพและเสียง และผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิง iPAQ Audio Players นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์พีซีแบบตั้งโต๊ะและพกพา เพื่อการใช้งานสำหรับธุรกิจและผู้ใช้ตามบ้านโดยเฉพาะด้วย

ตามการคาดการณ์ของไอดีซีระบุว่า ในปีนี้ตลาดพีซีโดยรวมจะโตขึ้นไม่เกิน 10% โดยผลิตภัณฑ์ที่มีตัวเลขโตกว่าตลาดพีซีประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 4 กลุ่ม คือ แฮนด์เฮลด์พีซี มีตัวเลขโต 46%, เครื่องเวิร์กสเตชัน มีตัวเลขโต 16%, คอมพิวเตอร์พกพา มีตัวเลขโต 19% และเครื่องธินไคลเอนต์ มีตัวเลขการเติบโตประมาณ 69% โดยคอมแพคมีแผนการผลักดันผลิตภัณฑ์ทินไคลเอนต์ออกสู่ตลาด ซึ่งนำเสนอไปพร้อมกับโซลูชั่น อาทิ โซลูชั่นทางด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือ ซีอาร์เอ็ม

เหตุที่คอมแพคให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อต่างๆ เนื่องจากข้อมูลของบริษัทวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์พีซีทั่วโลกในปี 2544 ถือได้ว่าเป็นปีที่ตลาดตกต่ำที่สุดในรอบ 15 ปี รวมทั้งมีการแข่งขันทางด้านราคาที่สูงมาก และแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีการปรับเปลี่ยนทางนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่งคอมแพคเล็งเห็นว่ายังมีโอกาสที่ดีในตลาดในปีนี้

ก้องเกียรติกล่าวถึงผลประกอบการของปี 2544 ที่ผ่านมาว่า คอมแพค ประเทศไทย มีรายได้รวมของบริษัทฯเพิ่มขึ้นกว่า 30% เปรียบเทียบกับปี 2543 ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลประกอบการของคอมแพคประเทศไทยที่เป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน โดยในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมแพคสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในด้านส่วนแบ่งการตลาดประเทศไทยในปี 2544 ได้

“เราสามารถครองแชมป์ในส่วนแบ่งการตลาดของทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งตลาดพีซีรวม เดสก์ท็อป โน้ตบุ๊ค และอินเทลเซิร์ฟเวอร์ มาจากการทำงานอย่างหนักและมีประสิทธิภาพของทีมงานทุกคนในคอมแพคประเทศไทย นอกจากนี้ผลประกอบการในประเทศไทยยังมีส่วนผลักดันให้คอมแพคภูมิภาคอาเซียนขึ้นสู่อันดับหนึ่งด้วย” ก้องเกียรติกล่าว

คอมแพค ประเทศไทย มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2543 โดยมีส่วนแบ่งการตลาดตัวเลขรวมปีที่ผ่านมา 14.8% หรือมีอัตราการเติบโตราว 18.38% ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (เดสก์ท็อป) 12.7% หรือเติบโตจากปี 2543 ราว 10.27% ขณะที่ตลาดโน้ตบุ๊กมีส่วนแบ่งการตลาด 27.8% หรือเติบโตจากปี 2543 ราว 22.33% ตลาดเซิร์ฟเวอร์ มีส่วนแบ่งตลาด 27.2% เติบโตขึ้น 10.07%

ในส่วนการทำตลาดพีซีคอมแพคปี 2545 ส่วนของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ปีนี้เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าบ้าน จากปีที่ผ่านมาบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดราว 12% ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดโตมากกว่าเท่าตัว ส่วนตลาดโน้ตบุ๊กคอมแพคมีส่วนแบ่งการตลาดรวมในประเทศไทย 28% โดยกลุ่มเป้าหมายหลักๆ จะอยู่ที่กลุ่มโฮมรีเทล 50% โดยจะขายความเป็นคอมแพคในเรื่องของคุณภาพสินค้า ซึ่งจะไม่ลงไปแข่งขันทางด้านราคากับตลาดประกอบเครื่องและผู้ประกอบการโลคัลแบรนด์

“ถึงแม้ว่าในปีที่แล้วเป็นปีที่ท้าท้ายสำหรับอุตสาหกรรมไอทีในประเทศไทย อันเป็นผลมาจากวิกฤติการณ์ต่างๆ แต่สำหรับคอมแพค ประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นปีที่ดีที่สุดของบริษัทฯ ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมาในประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์, การบริการ และโซลูชั่น ที่เรานำเสนอกับลูกค้าทุกๆ กลุ่ม ทำให้มีการผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ จากรากฐานที่แข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา พร้อมกลยุทธ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในปี 2545 นี้ ทางบริษัทคอมแพคตั้งเป้าที่จะครอบครองความเป็นผู้นำตลาดไอทีและผู้นำด้านผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีที่ครบวงจรในปี 2545 รวมทั้งยังมุ่งมั่นที่จะตอบแทนคืนสู่สังคมด้วยกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย” ก้องเกียรติกล่าวทิ้งท้ายอย่างมั่นใจ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us