Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 พฤศจิกายน 2547
RGRโวปี48ฟันรายได้กว่าหมื่นล.ซื้อ-เทกฯโรงแรมเพิ่มดันรายได้พุ่ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ รอยัลการ์เด้น รีซอร์ท

   
search resources

โรยัลการ์เด้น รีซอร์ท - RGR
ปรารถนา มโนมัยพิบูลย์
Hotels & Lodgings




RGR ฟุ้งปี 48 คาดจะมีรายได้กว่า 11,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 47% จากปี 47 หลังเทกโอเวอร์โรงแรม เพิ่มอีก 2 แห่ง ส่วนการเข้าไปเทนเดอร์ออฟเฟอร์ RHC เพื่อเกื้อหนุนธุรกิจ ระบุไม่มีความขัดแย้งกับคอมลิ้งค์ แม้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เหมือนกัน ซึ่งปีหน้าจะรับรู้รายได้เต็มๆ ปีจาก RHC กว่า 1 พันล้านบาท เล็งเข้าถือหุ้น 100% ในอีก 2 โรงแรม

นางสาวปรารถนา มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท รอยัล การ์เด้น รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (RGR) เปิดเผยว่า หลังจาก ที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงแรม เพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง ด้วยการซื้อหุ้นเพิ่มตลอดจนการเทกโอเวอร์โรงแรมมาหลายแห่ง ทำให้บริษัทตั้งเป้าอัตราเติบโตรายได้ในปี 48 อยู่ที่ประมาณ 11,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเพิ่มขึ้น 30% แบ่งเป็นค่าโรงแรมประมาณ 4-5 พันล้านบาท ค่าอาหารประมาณ 6,000 ล้านบาท จากปี 47 ที่คาดว่าทั้งปีจะมีรายได้ 7,500 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าอาหาร 4,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของรายได้รวม และค่าโรงแรมประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของรายได้รวม โดยส่วนที่เหลือจะมาจากค่ารีเทล พร็อพเพอร์ตี้ เอนเตอร์เทนเมนต์ แอนด์ สปา

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าไปเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 100% ในโรงแรม เจ ดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ต แอนด์ สปา ที่มีจำนวนห้องพัก 265 ห้อง รวมทั้งจะเข้าไปเพิ่มสัดส่วนการลงทุน 100% ในโรงแรมมันดาลา สปา ที่ประกอบกิจการทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน และการเข้าไปเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงแรมราชดำริ (RHC) เป็น 57.7% จากเดิมถืออยู่ 49.3% ซึ่งรายได้จากโรงแรมเจ ดับบลิว แมริออทฯ จะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาท และ RHC จะมีรายได้ปีละ 1,000 ล้านบาท โดยจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้เต็มๆ นับจากปี 48

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา RGR ได้ประกาศการลงทุนในกลุ่มโรงแรมอนันตรา รีสอร์ทแอนด์สปา เพิ่มอีก 2 แห่ง และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา RGR ได้ประกาศเสนอหุ้นทั้งหมด 2 บริษัท เดอะไมเนอร์ฟู้ด กรุ้ป และจะดำเนินการเพิกถอนหุ้นของเดอะไมเนอร์ฟู้ด กรุ้ป จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ โดยการลงทุนทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป

นางสาวปรารถนากล่าวต่อว่า RGR ยังได้เข้าไปซื้อหุ้นในโรงแรม อนันตรา รอยัล โคโค่ปาล์ม รีสอร์ต แอนด์สปา เกาะพังงา จากผู้ถือหุ้นเดิม คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนเท่ากับ 40% โดยมีมูลค่าการลงทุนในหุ้น 55 ล้านบาท และ RGR เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน RHC เป็น 57.7% เพราะเห็น ว่า RHC ถือเป็นโรงแรมที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับ RGR ได้เป็นอย่างดี คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งปัจจุบันบริษัทสามารถเข้าไปควบคุมกิจการได้แล้ว ทั้งนี้การที่เข้าไปถือหุ้น ใหญ่ใน RHC สามารถช่วยเกื้อหนุนธุรกิจต่อกัน โดยถือว่าเป็นโรงแรมศูนย์กลางในการส่งต่อลูกค้าได้

"และที่เราเข้าถือหุ้นใหญ่ใน RHC ถึง 57.7% เพราะเราไม่มีความขัดแย้งกับบริษัทคอมลิ้งค์ ที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เช่นกัน และเราสามารถทำงานร่วมกับทางคอมลิ้งค์ได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งทาง RGR และคอมลิ้งค์ ได้ร่วมกันบริหาร RHC โดย RGR เข้าไปเป็นกรรมการประมาณ 5 ราย จากกรรมการทั้งหมด 14 ราย รวมทั้งยังเข้าไปเป็นบอร์ดบริหารด้วย" นางสาวปรารถนากล่าว

ทั้งนี้ หุ้น RGR ถือว่าเป็นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องมากนัก ซึ่งหากบริษัทสามารถนำเข้าทำการซื้อขายได้ ก็ถือว่าเป็นโอกาสของนักลงทุนรายย่อยที่จะขายหุ้นออกมา

นอกจากนี้ RGR ยังมีนโยบายที่จะเข้าไปถือหุ้น 100% ในโรงแรมแบงค์คอก แมริออท และโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เชียงใหม่ โดยปัจจุบัน RGR ถือหุ้นโรงแรมทั้งสองอยู่ 80% และ 60% ตามลำดับ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ที่เอื้ออำนวย และในอนาคตบริษัทยังมีแผนจะเปิดโรงแรม ที่ภูเก็ตเฟส 2 ซึ่งจะสามารถเปิดได้ประมาณปลายปี 48 รวมถึงโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เชียงราย คาดว่าจะเปิดได้ประมาณไตรมาส 3 ปี 48 และโรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ สมุย คาดว่าจะสามารถเปิดได้ประมาณไตรมาส 2 ปี 49 ซึ่งทั้งหมด นี้จะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 49 เป็นต้นไป

ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินอยู่ประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นกู้ 2,700 ล้านบาท กองทุนอสังหาริมทรัพย์ 1,500 ล้านบาท ที่เหลือเป็นหนี้สินอื่นๆ โดยหุ้นกู้อายุ 5 ปี ซึ่งยังเหลืออายุอีก 3 ปี ส่วนหุ้นกู้อายุ 7 ปียังมีอายุเหลืออีก 6 ปี และต้นเดือนธันวาคมนี้บริษัท มีแผนจะออกหุ้นกู้มูลค่า 500 ล้านบาทอายุ 3 ปี โดยคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4% และอัตราส่วน หนี้สินต่อทุน (D/E) คาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1.12 เท่า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us