จะมีโครสักกี่คนทราบว่า ครั้งหนึ่งที่ดินผืนงามนับร้อยๆ ไร่ ของ "โครงการนอร์ธปาร์ค"
เคยมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นที่ดินของ "ชินเขต" มาก่อน แต่หลังจากประสบปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงปี
2525-2528 จนไม่สามารถผ่อนชำระหนี้สินจำนวนมากได้ จึงถูกทางธนาคารเอเชียยึดหลักทรัพย์ค้ำประกันผืนงามนี้
ช่วงต่อของการเปลี่ยนมือจากเจ้าหนี้ธนาคารเอเชียกลายเป็นกลุ่มบริษัทนอร์ธปาร์ค
เป็นความแยบยลของกลวิธีแบบอัฐยายซื้อขนมยาย โดยเริ่มต้นจากธนาคารเอเชียยึดที่ดินของชินเขตมาได้แล้วประกาศขายทรัพย์สินนี้
แต่แทนที่จะขายให้คนอื่น ทางกลุ่มเอื้อชูเกียรติกับกลุ่มผู้ถือหุ้นได้ตั้งบริษัทนอร์ธปาร์คซิตี้ขั้นมา
เพื่อรับโอนหนี้ด้วยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินขึ้นมา 314 ล้านบาท ค้ำไว้กับแบงก์
บริษัทชินเขต ก่อตั้งขึ้นในปี 2514 โดยสองสามีภรรยา อรลาและสุจิต ธัญญะกิจ
ทำธุรกิจซื้อขายที่ดินและสร้างบ้านจัดสรรขาย การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างดีในช่วงยุคนั้น
มีการขยับขยายตั้งบริษัทในเครือ เช่น บริษัทชิดชน ซึ่งให้ อรรจนา ธัญญะกิจ
ลูกสาวคนสุดท้องเป็นผู้ดูแลกิจการซื้อขายที่ดิน
บริษัทชิดชนนี้ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น "บริษัทนอร์ธปาร์ค เรียลเอสเตท"
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2533 เนื่องจากชินเขตไม่มีความสามารถชำระหนี้สินที่กู้ยืมจากแบงก์ได้
ขณะที่ทางธนาคารเอเชียก็มีปัญหาต้องเร่งรัดหนี้เพื่อฟื้นฟูสภาพคล่อง ปัจจุบันบริษัทนี้มีทุนจดทะเบียนเป็น
100 ล้านบาท ในปี 2534 มีหนี้สินหมุนเวียนส่วนใหญ่ที่เกิดจากเงินเบิกเกินบัญชี
และเงินกู้ยืมจากธนาคาร 1,214 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาว 330 ล้านบาท
ปี 2532 เอื้อชูเกียรติได้เข้ามาเป็นกรรมการผู้ถือหุ้นในบริษัทนอร์ธปาร์ค
เรียลเอสเตท พร้อมกับน้องสาววิไลพรรณ อนันต์ อัศวโภคิน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล
และอมร อัศวานนท์
ที่ดินนับร้อยๆ ไร่ที่ยึดมาได้นี้ถูกทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าอยู่พอสมควร
เนื่องจากเป็นที่ดิน land lock ที่ยังหาทางเข้า-ออกไม่ได้ จนกระทั่งในปี
2526 แนวความคิดการพัฒนาหนี้ให้มีมูลค่าผลตอบแทนสูง ก็เกิดขึ้นในสมองอันเฉียบแหลมของคนในครอบครัวเอื้อชูเกียรติ
"บริษัทนอร์ธปาร์คซิตี้" จึงได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2526 ทุนจดทะเบียนขณะนี้
300 ล้านบาท โดยทางกลุ่มเอื้อชูเกียรติได้ดึงบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ถือหุ้น
40% เข้าร่วมในฐานะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เนื่องจากความเป็นมืออาชีพที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบริหารที่ดิน
ปัจจุบันมีวิไลพรรณ เอื้อชูเกียรติเป็นประธานบริหาร ขณะที่พยนต์ ศักดิ์เดชยนต์
เดี่ยวมือหนึ่งของแลนด์แอนด์เฮ้าส์เป็นกรรมการผู้จัดการ
ความฝันที่จะเนรมิตที่ดินผืนงามนับร้อยๆ ไร่แห่งนี้ได้กลายเป็นจริง เมื่อความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจได้ขยายตัวไปสู่ชานเมือง
ราคาที่ดินริมถนนวิภาวดีรังสิตพุ่งทะยานโลดลิ่วอย่างรุนแรงจนจับไม่ติด ที่ดินนับร้อยๆ
ไร่ของกลุ่มนอร์ธปาร์คที่ได้มาในราคาเพียง 300 กว่าล้าน จึงเป็นสินทรัพย์อันมีค่าเกินคาดมหาศาลในปัจจุบัน
ในปี 2532 บริษัทภาคีทรัพย์สินซึ่งต่อมาปี 2535 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "บริษัทนอร์ธปาร์ค
พร็อบเพอร์ตี้" ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยปี 2532 สี่พี่น้องเอื้อชูเกียรติ
ยศ-วิไลพรรณ-ศักดิ์-ลาวัณย์ ถือหุ้น 99%
ทั้งสามบริษัทในกลุ่ม "นอร์ธปาร์ค" ได้แก่ นอร์ธปาร์ค เรียลเอสเตท,
นอร์ธปาร์ค ซิตี้ และนอร์ธปาร์ค พร็อบเพอร์ตี้ จึงเป็นผู้ดำเนินโครงการ "นอร์ธปาร์ค"
มูลค่าก่อสร้างนับพันล้านที่อยู่ตรงข้ามโรงแรมรามาการ์เดน ถนนวิภาวดีรังสิตนั่นเอง
ความยิ่งใหญ่ของโครงการนี้เป็นโครงการเดียวริมถนนวิภาวดีรังสิตช่วงเจริญที่สุด
ที่มีพื้นที่โครงการถึง 740 ไร่ กินอาณาบริเวณกว้างมากจรดถนนสามสายหลักๆ
คือ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนประชาชื่น (ทางเข้าเดียวกับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์)
และถนนงามวงศ์วาน (ทางเข้าหมู่บ้านชินเขต)
โครงการสมบูรณ์แบบบนเนื้อที่ 740 ไร่ จะประกอบไปด้วย หนึ่ง - ออฟฟิศโซน
139 ไร่ สอง - สนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม 330 ไร่ ที่ออกแบบโดย JMP (J. Michael
Poellot Golf Design Group) ซึ่งจะเสร็จราวสิงหาคมปีนี้ สาม - สปอร์ตคอมเพล็กซ์
28 ไร่ ในระดับสปอร์ตสคลับและโปโลคลับ สี่ - โรงแรมและบิซิเนสเซนเตอร์ และห้า
- บ้านจัดสรร 55 ไร่
แต่ปัญหาทางเข้า-ออกที่สำคัญของโครงการนี้ก็คือ ทางถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งกลุ่มนอร์ธปาร์คต้องจ่ายเงินถึง
10.5 ล้านบาท ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้ใช้ที่ดิน จำนวน 3,976
ตารางเมตร สร้างเป็นถนนลอดใต้ทางรถไฟและวางท่อระบายน้ำ
อายุสัญญาที่ทำไว้กับการรถไฟฯ คือ 30 ปี ตั้งแต่ 31 ตุลาคม 2533 ถึง 30
ตุลาคม 2563 เมื่อครบกำหนดเวลา ผู้ที่อยู่ในโครงการนี้ก็คงต้องเจรจาต่อรองกันองในปัญหาทางเข้า-ออกสำคัญนี้เอง
โครงการ "นอร์ธปาร์ค" คือการลงทุนสำคัญด้านเรียลเอสเตทของกลุ่มเอื้อชูเกียรติ
ที่อาศัยพันธมิตรทางธุรกิจอย่างแลนด์แอนด์เฮ้าส์เป็นผู้บริหารโครงการให้
โดยตนเองใช้ฐานเงินทุนจากธนาคารเอเชียเป็นตัวสนับสนุนส่วนหนึ่ง
ปัจจุบันธนาคารเอเชียได้ปล่อยสินเชื่อให้แก่โครงการนี้เป็นจำนวนรวม 460
ล้านบาท แยกเป็นหนี้ที่กู้โดยนอร์ธปาร์ค พร็อบเพอร์ตี้ 45 ล้านบาท นอร์ธปาร์ค
เรียลเอสเตท 123 ล้านบาท และนอร์ธปาร์ค ซิตี้มากที่สุดถึง 292 ล้านบาท โดยมีที่ดินจำนองไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
เงินทุนที่แบงก์อัดฉีดเข้าไปในโครงการนอร์ธปาร์คนี้ จะเป็นการพัฒนาหนี้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตาต่อไป !!