ช่วงเหตุการณ์ "แบล็กมันเดย์" เมื่อเดือนตุลาคม 2530 กรณ์ จาติกวณิช มีอายุ
23 ปี การตกต่ำของภาวะเศรษฐกิจในครั้งนั้น ส่งผลกระทบต่อทัศนคติของกรณ์อย่างยิ่ง
และเขาก็ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย หลังจากเป็นผู้จัดการกองทุนให้กับ
S.G.Warburg &Co. ในลอนดอนอยู่นานถึง 3 ปี
กรณ์ ชายหนุ่มรูปร่างสูงเกือบ 2 เมตร ใส่รองเท้าเบอร์
13 ที่ เพื่อนๆ พา กันเรียกติดปากว่า ดอน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการอำนวยการบล.เจ.เอฟ.
ธนาคม เขาเป็นทายาทคนที่สองของครอบครัวไกรศรี จาติกวณิช อดีตอธิบดี กรมศุลกากร
กรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2507 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่เขาถือสัญชาติไทย
กรณ์ กลับประเทศไทย ปี 2511 เพื่อเข้ามาเรียนหนังสือ ที่โรงเรียนสมถวิล
ราชดำริ และเรียนต่อระดับมัธยมศึกษา ที่สาธิตปทุมวัน จากนั้น ปี 2518 เดินทาง
กลับอังกฤษ เพื่อศึกษาใน The Old Malhouse Preparatory
ปี 2521 เข้าศึกษาต่อ ที่ Winchester College แล้วต่อด้วยปริญญา ตรี สาขาปรัชญา
รัฐศาสตร์ และเศรษฐ-ศาสตร์ ที่ St.John's, Oxford University ในปี 2525
จบการศึกษาก็เข้าทำงาน S.G.Warburg & Co. ในตำแหน่งผู้จัดการกองทุนอยู่ถึง
3 ปี ก่อน ที่จะกลับประเทศไทย เพื่อทำงานให้กับบล.เจ.เอฟ.ธนาคม ในปี 2531
ในปีนั้น กรณ์เพิ่งอายุ 24 ปีเท่านั้น และการที่ได้เข้าร่วมงานกับบล.เจ.เอฟ.
ธนาคมนั้น เกิดจากการเข้าเทกโอเวอร์บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งโดยร่วมมือกับปิ่น
จักกะพาก กรรมการผู้จัดการ บง.เอกธนกิจ (FIN1) ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของเขาเอง
เมื่อปี 2532 และทั้งสองก็ร่วมกันถือหุ้นใน บล.เจ.เอฟ.ธนาคมด้วย
นอกจากนี้แล้ว กรณ์ยังได้ไปชักชวน บล.จาร์ดีน เฟลมมิ่งของฮ่องกงมาร่วมถือหุ้นด้วย
โดยในช่วงแรกเขาดำรงตำแหน่งในฐานะประธาน และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท จนกระทั่งอายุ
28 ปี จึงรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
ดังนั้น ในฐานะผู้บริหารขณะอายุยังน้อย ลักษณะการทำงานจึงค่อนข้าง
aggressive และเขาก็ใช้เวลาเพียงสี่ปีก็สามารถนำบริษัทขึ้นเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำได้
โดยเฉพาะการเป็นซับโบรกเกอร์ และ ที่ปรึกษาทางการเงิน
ความสำเร็จอย่างรวดเร็วเช่นนี้ กรณ์ยอมรับว่า
"ผมไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีนี้เมื่อเกิดวิกฤติในช่วงปี 2530 แต่รู้สึกว่าหลังจากวันนั้น สถานการณ์ทางการตลาดจะเข้าข้างผม"
12 ปี สำหรับการเป็นแม่ทัพให้กับบล.เจ.เอฟ.ธนาคม ซึ่งถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเขา และตระกูลจาติกวณิช
ขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งกรรมการอำนวยการ และถือได้ว่า กรณ์เป็นผู้บริหาร ที่ประสบความสำเร็จเมื่ออายุยังน้อย
"ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถเป็น ผู้นำด้านไฟแนนซ์ในศตวรรษ ที่ 21 แต่ผมเป็นนักธุรกิจ ที่เกิดจากธุรกิจไฟแนนซ์"
วันเวลายังไม่ได้พิสูจน์คำพูดของกรณ์ แต่วันนี้บล.เจ.เอฟ.ธนาคม ที่เขาฟูมฟักขึ้นมาจนเติบใหญ่
ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารเชส แมนฮัตตัน เมื่อเขา และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ
ขายหุ้นทั้งหมดให้เชสฯ
หลังจากนี้ไปคงจะเห็นกรณ์ ในฐานะผู้บริหาร "มืออาชีพ"
อย่างเต็มตัว หลังจากเป็น "เถ้าแก่" มานานกว่า 1 ทศวรรษ ซึ่งจะไปได้สวยมากน้อยเพียงใดคงต้องติดตามกัน
เพราะการกำหนดแผนงานต่างๆ ต่อไปนี้ขึ้นอยู่กับบริษัทแม่เท่านั้น