Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2543
กรณ์ จาติกวณิช จากเถ้าแก่สู่มืออาชีพ             
 

   
related stories

50 ผู้จัดการ (2543)

   
search resources

เจ.เอฟ.ธนาคม
กรณ์ จาติกวณิช




ช่วงเหตุการณ์ "แบล็กมันเดย์" เมื่อเดือนตุลาคม 2530 กรณ์ จาติกวณิช มีอายุ 23 ปี การตกต่ำของภาวะเศรษฐกิจในครั้งนั้น ส่งผลกระทบต่อทัศนคติของกรณ์อย่างยิ่ง และเขาก็ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย หลังจากเป็นผู้จัดการกองทุนให้กับ S.G.Warburg &Co. ในลอนดอนอยู่นานถึง 3 ปี

กรณ์ ชายหนุ่มรูปร่างสูงเกือบ 2 เมตร ใส่รองเท้าเบอร์ 13 ที่ เพื่อนๆ พา กันเรียกติดปากว่า ดอน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการอำนวยการบล.เจ.เอฟ. ธนาคม เขาเป็นทายาทคนที่สองของครอบครัวไกรศรี จาติกวณิช อดีตอธิบดี กรมศุลกากร กรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2507 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่เขาถือสัญชาติไทย

กรณ์ กลับประเทศไทย ปี 2511 เพื่อเข้ามาเรียนหนังสือ ที่โรงเรียนสมถวิล ราชดำริ และเรียนต่อระดับมัธยมศึกษา ที่สาธิตปทุมวัน จากนั้น ปี 2518 เดินทาง กลับอังกฤษ เพื่อศึกษาใน The Old Malhouse Preparatory

ปี 2521 เข้าศึกษาต่อ ที่ Winchester College แล้วต่อด้วยปริญญา ตรี สาขาปรัชญา รัฐศาสตร์ และเศรษฐ-ศาสตร์ ที่ St.John's, Oxford University ในปี 2525

จบการศึกษาก็เข้าทำงาน S.G.Warburg & Co. ในตำแหน่งผู้จัดการกองทุนอยู่ถึง 3 ปี ก่อน ที่จะกลับประเทศไทย เพื่อทำงานให้กับบล.เจ.เอฟ.ธนาคม ในปี 2531

ในปีนั้น กรณ์เพิ่งอายุ 24 ปีเท่านั้น และการที่ได้เข้าร่วมงานกับบล.เจ.เอฟ. ธนาคมนั้น เกิดจากการเข้าเทกโอเวอร์บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งโดยร่วมมือกับปิ่น จักกะพาก กรรมการผู้จัดการ บง.เอกธนกิจ (FIN1) ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของเขาเอง เมื่อปี 2532 และทั้งสองก็ร่วมกันถือหุ้นใน บล.เจ.เอฟ.ธนาคมด้วย

นอกจากนี้แล้ว กรณ์ยังได้ไปชักชวน บล.จาร์ดีน เฟลมมิ่งของฮ่องกงมาร่วมถือหุ้นด้วย โดยในช่วงแรกเขาดำรงตำแหน่งในฐานะประธาน และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท จนกระทั่งอายุ 28 ปี จึงรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ

ดังนั้น ในฐานะผู้บริหารขณะอายุยังน้อย ลักษณะการทำงานจึงค่อนข้าง aggressive และเขาก็ใช้เวลาเพียงสี่ปีก็สามารถนำบริษัทขึ้นเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำได้ โดยเฉพาะการเป็นซับโบรกเกอร์ และ ที่ปรึกษาทางการเงิน

ความสำเร็จอย่างรวดเร็วเช่นนี้ กรณ์ยอมรับว่า "ผมไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีนี้เมื่อเกิดวิกฤติในช่วงปี 2530 แต่รู้สึกว่าหลังจากวันนั้น สถานการณ์ทางการตลาดจะเข้าข้างผม"

12 ปี สำหรับการเป็นแม่ทัพให้กับบล.เจ.เอฟ.ธนาคม ซึ่งถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเขา และตระกูลจาติกวณิช ขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งกรรมการอำนวยการ และถือได้ว่า กรณ์เป็นผู้บริหาร ที่ประสบความสำเร็จเมื่ออายุยังน้อย "ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถเป็น ผู้นำด้านไฟแนนซ์ในศตวรรษ ที่ 21 แต่ผมเป็นนักธุรกิจ ที่เกิดจากธุรกิจไฟแนนซ์"

วันเวลายังไม่ได้พิสูจน์คำพูดของกรณ์ แต่วันนี้บล.เจ.เอฟ.ธนาคม ที่เขาฟูมฟักขึ้นมาจนเติบใหญ่ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารเชส แมนฮัตตัน เมื่อเขา และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ขายหุ้นทั้งหมดให้เชสฯ

หลังจากนี้ไปคงจะเห็นกรณ์ ในฐานะผู้บริหาร "มืออาชีพ" อย่างเต็มตัว หลังจากเป็น "เถ้าแก่" มานานกว่า 1 ทศวรรษ ซึ่งจะไปได้สวยมากน้อยเพียงใดคงต้องติดตามกัน เพราะการกำหนดแผนงานต่างๆ ต่อไปนี้ขึ้นอยู่กับบริษัทแม่เท่านั้น

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us