ประธานบอร์ดทศทนำทีมผู้บริหาร ตบเท้าชี้แจงโครงการโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย ยันไม่ได้ตั้งเป้าที่จำนวนบริษัท แต่ต้องถูกหลักการผ่านเงื่อนไขพาณิชย์ เทคนิคและทดสอบ ย้ำสนองนโยบายไอซีที หากซีเมนส์ลดราคาไม่ถึงพันล้านบาท ล้มประมูล

เมื่อวานนี้ (18พ.ย.) บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น แถลงข่าวยืนยันความโปร่งใสโครงการขยายโทรศัพท์พื้นฐาน 5.6 แสนเลขหมาย นำทีมโดยนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานบอร์ด ลูกทีมประกอบด้วย นายจำรัส ตันตรีสุคนธ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายมนตรี วชิรเขื่อนขันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาโครงการและนายเชฎฐ์ พันธ์จันทร์ ผู้จัดการสำนักงานมาตรฐานอุปกรณ์โทรคมนาคม

นายสถิตย์กล่าวว่า หลักการพิจารณาโครงการนี้ไม่ใช่อยู่ที่จำนวนบริษัท แต่อยู่ที่ใครผ่านหลักเกณฑ์ทั้ง 3 ด้าน คือด้านพาณิชย์ ด้านเทคนิคและการทดสอบ ซึ่งปรากฏว่ามีเพียงกลุ่มซีเมนส์ที่ผ่านทั้ง 3 ด้าน ซึ่งถือว่าซีเมนส์สอบผ่านแต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้เซ็นสัญญา จำเป็นจะต้องสอบผ่านด้านราคาด้วย

"โครงการนี้มีความสำคัญมาก แต่ต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใสและถูกหลักการ ซึ่งเมื่อผ่านหลักการแล้วจะมีเพียงบริษัทเดียวก็ได้"

สำหรับการพิจารณาด้านราคาต้องใช้สถานการณ์ปัจจุบัน มีการเปรียบเทียบราคาตลาดโครงการลักษณะเดียวกัน มีการเปรียบเทียบราคากับต่างประเทศ และต้องปฏิบัติตามนโยบายของ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ที่ต้องการ ให้ลดราคาลงมากว่า 1 พันล้าน

โครงการ 5.6 แสนเลขหมายงบประมาณรวมทั้งสิ้น 8,045 ล้านบาท กลุ่มซีเมนส์เสนอราคา 3 โซนรวม 7,509 ล้านบาทในขณะที่ราคากลางสำหรับก่อสร้างประมาณ 7,380 ล้านบาทหรือซีเมนส์เสนอสูงกว่างบประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นงบบริหารของทศทเอง

"บอร์ดจะต้องปฏิบัติตามนโยบายน.พ.สุรพงษ์ในการต่อรองราคา หากลดไม่ได้ถึง 1 พันล้านบาทก็ต้องล้มประมูล"

ในการแถลงข่าวทศท ยืนยันว่าขั้นตอนทุกอย่างทำมาอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทีโออาร์ด้านเทคนิคหรือสเปกอุปกรณ์ที่นายจำรัส ยืนยันว่าไม่ต้องผ่านการพิจารณาจากบอร์ดทศท เพราะบอร์ดจะพิจารณาเฉพาะเงื่อนไขด้านพาณิชย์ รวมทั้งข้อชี้แจงในวันทำบิต คอนเฟอเรนซ์ที่เรียกว่า Addendum ไม่จำเป็นต้องผ่านบอร์ดเป็นเรื่องของรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านเทคโนโลยีเท่านั้น ถึงแม้ข้อความใน Addendum จะแตกต่างจากข้อความในทีโออาร์ก็ตาม เนื่องจากโครงการ 5.6 แสนเลขหมายนี้ในประเด็นเรื่อง Protocol การเชื่อมต่อในทีโออาร์ใช้คำว่า และ แต่ใน Addendum ใช้คำว่าหรือ ซึ่งในการแถลงข่าวกลุ่มผู้บริหารทศทยืนยันว่าต้องยึดตาม Addendum เป็นหลัก

นายเชฎฐ์ ยังกล่าวยืนยันกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่าภายหลังจากที่ยื่นข้อเสนอแล้ว ทศทไม่มีการ Pending (ข้อสงสัยค้างอยู่) กับกลุ่มซีเมนส์เลย โดยเฉพาะในเรื่อง Protocol เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อเท็จจริงของทศทกับซีเมนส์ขัดแย้ง กัน โดยทศทบอกไม่เคยมีข้อสงสัย หรือยื่น Pending กับซีเมนส์ ในขณะที่ซีเมนส์ยอมรับว่าได้ชี้แจง ข้อ Pending กับทศท ว่าเสนอ Protocol ตาม Addendum ทุกอย่าง ซึ่งเอกสารที่ซีเมนส์ชี้แจงกลับ มาเป็นลายลักษณ์อักษรสามารถยืนยันได้