PICNI ปล่อยข่าวรุกธุรกิจค้าส่งน้ำมัน บอร์ดไฟเขียวทำข้อตกลงกับ "เอ็ม พี ปิโตรเลียม" ซื้อเครื่องหมายการค้า มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท "แมลงเม่า" แห่เก็งกำไรดันราคาพุ่งแตะ 16 บาท ขณะที่วงการโบรกเกอร์เตือนลงทุนเกินตัว

นายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทประกอบธุรกิจเป็นผู้ค้าส่งน้ำมัน ภายใต้เครื่องหมายการค้า "เอ็ม พี ปิโตรเลียม" ซึ่งพิจารณาแล้วว่าเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านพลังงาน และมีลักษณะการดำเนินธุรกิจเช่นเดียวกับธุรกิจปัจจุบันของบริษัท

โดยบริษัทได้ทำบันทึกข้อตกลง กับบริษัท เอ็ม พี ปิโตรเลียม จำกัด ซึ่งมิใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งกำหนดให้บริษัทมีสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้า "เอ็ม พี ปิโตรเลียม" ในกิจการทางการค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำมันปิโตรเลียมได้ตลอดไป

ซึ่งบริษัทตกลงชำระค่าตอบ แทนการใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.13% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัทและบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 กันยายน 2547

แหล่งข่าวโบรกเกอร์กล่าวว่า การประกาศลงทุนเพิ่มของ PICNI ถือเป็นปัจจัยบวกต่อบริษัทให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังทำให้มูลค่าการซื้อขายปรับตัวดีขึ้น ในขณะเดียวกันในทางธุรกิจส่งผลให้ธุรกิจมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนดังกล่าวถือว่าเป็นการลงทุนที่เกินตัวจนเกินไป เพราะคาดว่าต้องใช้งบลงทุนจำนวนมาก

แหล่งข่าวกล่าวว่า การลงทุนในธุรกิจดังกล่าวถือว่าเป็นการลงทุนที่เกินตัวจนเกินไป อีกทั้งคงต้องติดตามต่อไปว่าจะสามารถทำได้อย่างที่เป็นข่าวหรือไม่ แต่ถ้ามองในแง่ธุรกิจยังถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้บริษัทมีมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PICNI เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เปิดตลาดที่ 15.70 บาท หลังจากที่บริษัทแจ้งข่าวการรุกคืบเข้าสู่ธุรกิจค้าส่งน้ำมันปลีก โดยการเข้าไปทำข้อตกลงกับเอ็ม พี ปิโตรเลียม เพื่อซื้อเครื่องหมายการค้า ส่งผลให้นักลงทุนต่างเข้ามาเก็งราคาหุ้นต่อเนื่อง ผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงสุดที่ 16 บาท ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในช่วงท้ายตลาดจากแรงขายทำกำไร มาปิดลาดที่ 15.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.65% มูลค่าการซื้อขาย 731.62 ล้านบาท