หุ้น อสมท ปิดเหนือจองวันแรก 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 3 พันล้าน โบรกเกอร์มองต่างมุมราคาปี 48 ไทยพาณิชย์ให้ต่ำสุด 15.90 บาท ส่วนโกลเบ็กชี้สูงสุด 32 บาท ขณะที่บรรยากาศถ่ายทอดสด ผู้ประกาศโมเดิร์นไนน์ลุ้นราคาจนเกินงาม เลขาธิการสมาคมนักข่าวฯชี้ ก.ล.ต.ต้องตรวจสอบเข้าข่ายสร้างราคาหรือไม่ หลังจากทุ่มเวลาโฆษณาถี่ยิบ

วานนี้ (17 พ.ย.) หุ้นน้องใหม่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก ราคาที่เสนอขาย 22 บาท โดยหุ้นเปิดตลาดที่ระดับ 24.30 บาท จากนั้นมีแรงซื้อเข้ามาส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 26 บาท ในช่วงเช้า ก่อนจะมีแรงขาย ทำกำไรในช่วงบ่าย ส่งผลให้หุ้นปิดตลาดที่ 23.50 บาท ระดับต่ำสุดของวัน เพิ่มขึ้น 1.50 บาท จากราคาจอง หรือ 6.81% มูลค่าการซื้อขาย 3,254.71 ล้านบาท

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล อสมท กล่าวว่า จากกระบวนการจัดสรรที่มีความโปร่งใส ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจหุ้นอสมท หากรัฐวิสาหกิจอื่นที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯคงต้องศึกษากระบวนการจัดสรรให้ได้คุณภาพไม่น้อยว่าอสมท ทั้งนี้ ความสำเร็จเกิดจาก 3 ปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ 1. การแปรรูปที่ไม่มีการคัด ค้านจากพนักงาน 2. เป็นหุ้นที่ไม่มีการจัดสรรให้ผู้อุปการคุณ 3. สามารถจัดสรรหุ้นแบบขั้นบันไดที่โปร่งใส เท่าเทียม และเป็นธรรม

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการ อสมท ปิดเผยว่า จุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้นักลงทุนสนใจเข้าลงทุนหุ้นบริษัท อสมท เพราะเป็นองค์กรที่ฐานะการเงินมั่นคง ไม่มีหนี้ ปัจจุบันมีกระแสเงินสดถึง 2,300 ล้านบาท โดยมีแหล่งที่มาของรายได้ถึง 6 ประเภท คือ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ทีวี สถานีวิทยุทั่วประเทศ 62 แห่ง สำนักข่าวไทย ร่วมดำเนินกิจการกับสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 และยูบีซี ผู้ดำเนินธุรกิจเคเบิลทีวีที่ใหญ่ที่สุดของไทย และบริษัท พาโนรามา เวิลด์ไวด์ เป็นต้น

จากการปรับปรุงโมเดิร์นไนน์ ทีวี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้อสมทมีรายได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นโดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 47 มีรายได้ 2,015 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% และมีกำไร 823 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% ซึ่งผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมากนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการใช้เครื่องมือ เทคโนโลยี และกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ

MCOT-TOP กู้หน้า

นายแมนพงษ์ เสนาณรงค์ ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายตลาดตราสารทุน บล.ภัทร ที่ปรึกษาทางการเงินอสมท กล่าวว่า ราคาหุ้นอสมทเปิดตลาดสูงกว่า จอง 15% ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และถือว่าให้กำไรต่อผู้จองซื้อในเกณฑ์ปกติที่หุ้นจองน่าจะมีส่วนลด 10-30% ในส่วนของที่ปรึกษาคงให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดแต่หากลงมาที่ 22 บาทก็จะเข้าซื้อได้

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุน และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ กล่าวว่า หุ้น อสมท ที่ยืนเหนือราคาจองได้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การจัดสรรหุ้นแบบขั้นบันไดที่กระจายให้รายย่อยมากไม่ได้ทำให้ทุกคนเทขายหุ้นออกมาจนต่ำจอง หากย้อนไปดูไอพีโอที่เข้าซื้อขาย10 บริษัทที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะเปิดในราคาที่ต่ำกว่าราคาจอง "ถือว่า อสมท และไทยออยล์ เป็นหุ้นที่เป็นหน้าเป็นตาของตลาด หลักทรัพย์ฯเพราะยืนเหนือจอง ซึ่งอาจเป็นเพราะเป็นหุ้นมาร์เกตแคปใหญ่ และอสมทเป็นรัฐวิสาหกิจ จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุน"

ไทยพาณิชย์ให้แค่ 15.90 บ.

จากการสำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัทหลัก-ทรัพย์ต่างๆ พบว่า บล.ซีมิโก้ บล.กรุงศรีอยุธยา และ บล.ไซรัส ให้ราคาพื้นฐานปี 48 เท่ากันที่ 25 บาท ส่วน บล.โกลเบล็กให้มากที่สุดที่ 32 บาท ในขณะที่ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ให้ราคาเหมาะสมที่ 17.40 บาท และบล.ไทยพาณิชย์ ให้ราคาพื้นฐานปี 2548 ต่ำที่สุดเพียง 15.90 บาท

ทั้งนี้ บล.ไทยพาณิชย์ระบุว่า อสมท ใช้ปีบัญชี สิ้นสุดเดือนก.ย. ดังนั้น จึงปรับปรุงประมาณการและประเมินกำไรสุทธิสำหรับเดือน ม.ค. ถึงเดือน ธ.ค. 47 ได้ที่ 994 ล้านบาท และประเมินกำไรสุทธิสำหรับปี 48 ได้ที่ 910 ล้านบาท ลดลง 8% เทียบปีต่อปี เนื่องจากบริษัทจะต้องจ่ายภาษีเงินได้

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 47ได้เปลี่ยน ปีบัญชีจากเดิมที่สิ้นสุดเดือน ก.ย. มาเป็นสิ้นสุดเดือน ธ.ค. ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2547 (ตั้งแต่เดือน ต.ค.46 ถึงเดือน มิ.ย. 47) มีกำไรสุทธิ 822 ล้านบาท บริษัทได้ทำการปรับปรุงผลประกอบการปี 2547 จากกำไรสุทธิจำนวน 1.23 พันล้านบาทของ 5 ไตรมาส (เริ่มตั้งแต่ ต.ค. และสิ้นสุดเดือน ธ.ค.47)

ทั้งนี้ อสมท จะจ่ายปันผล 0.5 บาทต่อหุ้น สำหรับผลประกอบการปีบัญชี 47 (สิ้นสุด ก.ย. 47) ภายหลัง IPO มีนโยบายจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำ 40% ของกำไรสุทธิ เมื่อใช้สมมติฐานอัตราการจ่ายเงิน ปันผลสำหรับผลประกอบการปี 48 ได้ที่ 0.53 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะจ่ายในปี 49 ซึ่งมองว่า อสมท ควรจะมีราคาซื้อขายที่ PER 12 เท่า เท่ากับ PER ของเป้าหมายกลุ่มบันเทิง

"เราใช้ ESP ปี 48 ที่ 1.32 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะได้มูลค่าที่เหมาะสมที่ 15.9 บาท" บทวิเคราะห์ของ บล.ไทยพาณิชย์ระบุ

เตือนนักข่าวโปรโมตหุ้น

ด้านบรรยากาศการเข้าซื้อขายวันแรกของ อสมท ได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากทั้ง คนดังในวงการบันเทิง นักแสดง ดารา พิธีกรและผู้ประกาศ นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดสดทางโมเดิร์น ไนน์ทีวี ตั้งแต่ช่วงเช้าราว 2 ชั่วโมงในรูปแบบการรายงานข่าวพร้อมการสัมภาษณ์คนดังในลักษณะชี้นำและชักจูงผู้คนให้สนใจ จนมีการวิจารณ์กันว่าสุ่มเสี่ยงต่อการผิดจรรยาบรรณสื่อ โดยเฉพาะท่าทีและการใช้ภาษาของผู้รายงานข่าวที่ใช้คำว่า "หุ้นของเรา" อยู่หลายครั้ง

นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ เลขาธิการสมาคม นักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรายงานข่าวหุ้นในช่วงเวลา 9.00-10.00 น.เมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวของโมเดิร์นไนน์ทีวี มีการรายงานข่าวแบบไม่ปกติของการรายงานข่าวหุ้นทั่วไป คือใช้อารมณ์และความรู้สึกของตนเองเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องพิจารณาว่าผู้สื่อข่าวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องราคา หุ้นหรือไม่ ซึ่งถ้ามีก็จะต้องระมัดระวัง และเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการผิดจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อ

"การรายงานข่าวมีความลำเอียง พูดตรง ๆ ว่าองค์กรสื่อมีการใช้สื่อและกลไกมาโปรโมตหุ้นมากเกินไปหรือเปล่า ตรงนี้หน้าจะเป็นหน้าที่ของก.ล.ต. ที่ต้องเข้ามาตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายเป็นการสร้างราคา หุ้นหรือไม่ เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมามีทุกๆ รายการที่เกี่ยวข้องพูดถึงแต่หุ้นอสมท.ตลอด"

ด้านนายประสงค์ วินัยแพทย์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ไม่เห็นการรายงานข่าวในช่วงของการเปิดซื้อขายหุ้นอสมท จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่าเป็นการชี้นำราคาหุ้นหรือไม่ ซึ่งหากเป็นการพูดในสิ่งที่มีอยู่ในไฟลิ่งก็ไม่น่ามีปัญหา

ลูกค้าโวยหุ้นไม่เข้าพอร์ต

แหล่งข่าวจาก ธนาคารกรุงไทย (KTB) ได้ยอมรับว่ามีความผิดพลาดของธนาคารทำให้ลูกค้าส่วนหนึ่งไม่ได้หุ้นอสมท จึงติดต่อไปยังศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เพื่อหาแนวทางแก้ไข ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าขณะนี้ทางศูนย์รับฝากฯได้พิมพ์ใบหุ้นของอสมท ให้กับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว และใน 1-2 วันนี้ลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯน่าจะได้รับใบหุ้นเพื่อนำไปเข้าบัญชีซื้อขายได้ ส่วนลูกค้าในต่างจังหวัดก็จะช้ากว่าเล็กน้อย