Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 พฤศจิกายน 2547
N-PARKอ่วมหนักรับผลขาดทุนบ.ร่วม             
 


   
www resources

โฮมเพจ แนเชอรัล พาร์ค

   
search resources

แนเชอรัล พาร์ค, บมจ.
Real Estate




N-PARK ไตรมาส 3 ขาดทุนหนัก เพราะรับส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย และปีก่อนมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ ขณะที่แผนการคลอดหุ้นกู้แปลงสภาพเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ต้องยืดออกไปอีก 180 วัน เพราะกระแสข่าวส่งผลลบต่อราคาหุ้นในกระดาน

นายเถาถวัลย์ ศุภวานิช กรรมการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (N-PARK) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 บริษัทขาดทุนสุทธิหลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 267.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 412.8 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรต่อหุ้น ลดลงจาก 0.01 บาทเหลือเพียง 0.03 บาทต่อหุ้น

สำหรับรายได้รวมในไตรมาส 3 ของ ปีนี้มีจำนวน 366.9 ล้านบาท ลดลง 41.8 ล้านบาท หรือ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากในไตรมาสที่ 3 ปี 2546 บริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ จำนวน 313.2 ล้านบาท ขณะที่ปี 2547 ไม่มีรายการดังกล่าวเกิดขึ้น แต่รายได้จากการดำเนินงานหลักก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน คือ รายได้ของธุรกิจให้เช่าและบริการ 126.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 302% และรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจโรงแรม 146.5 ล้านบาท กิจการสโมสร 13.2 ล้านบาท กิจการร้านอาหาร 24.9 ล้านบาท ค่าบริการการจัดการ 3.3 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 2.4 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งกำไร จากเงินลงทุน (บริษัทร่วม) ตามวิธีส่วนได้เสีย จำนวน 50.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 9.5 ล้านบาท

นายเถาถวัลย์กล่าวว่า ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2547 จำนวน 139.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ทั้งจำนวน เนื่องจากรับรู้ผลขาดทุนจากการดำเนินงานของบริษัทร่วมต่างๆ โดยเฉพาะจากบริษัท รถไฟฟ้า กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่เริ่มเปิดดำเนินการในไตรมาสที่ 3 ปี 2547 นี้

สำหรับรายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2547 มีจำนวน 1,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 479.8 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในทุกกิจการที่บริษัทเข้าลงทุนในระหว่างปี โดยในจำนวนนี้เป็นรายได้มาจากค่าเช่า และบริการ 387.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 270.0 ล้านบาท หรือ 230% และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย 128.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2 ล้านบาท หรือ 10%

อย่างไรก็ตาม ในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนหลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยจำนวน 538.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของก่อน ซึ่งมีผลกำไรสุทธิจำนวน 435.5 ล้านบาท สาเหตุหลักของผลขาดทุนเกิดจากส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารช่วง 9 เดือนของปีนี้ มีจำนวน 340.7 ล้านบาท สูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 260.6 ล้านบาท หรือ 325% เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการขยายธุรกิจในโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ

นายเถาถวัลย์ยังเปิดเผยอีกว่าจากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทซึ่งได้อนุมัติงบการเงินแล้ว และฝ่ายจัดการได้ชี้แจงต่อคณะกรรมการบริษัทว่า ขณะนี้บริษัทมีหนี้ที่บริษัทเคยชำระคืนบางส่วนให้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ไปแล้วจำนวน 200 ล้านบาท และยังคงเหลืออีกจำนวน 1,698 ล้านบาท ซึ่งจะถึงกำหนดชำระคืนทั้งจำนวนภายในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2547 แต่เนื่องจากภาวการณ์เศรษฐกิจและข่าวของบริษัทที่ส่งผลในทางลบ อย่างรุนแรงต่อราคาหุ้นของบริษัทในปัจจุบัน ทำให้การดำเนินการออกหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัท ซึ่งได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นแล้วเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2547 เพื่อนำมาชำระหนี้คืนให้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ไม่ทัน ภายในกำหนดเวลาตามแผนการที่คาดไว้

N-PARK จึงมีความจำเป็นจะต้องขอเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ที่มีกับธนาคารกรุงไทย จำกัด ออกไปอีกเป็นระยะเวลาประมาณไม่เกิน 180 วัน โดยฝ่ายจัดการกำลังอยู่ในระหว่างหาทางชี้แจงสถานการณ์ให้ธนาคารกรุงไทยเข้าใจ พร้อมทั้งขอความเห็นชอบในการขอเลื่อนกำหนดการชำระหนี้ของบริษัทดังกล่าว ซึ่งฝ่ายจัดการจะได้รายงานความ คืบหน้าให้คณะกรรมการบริษัททราบต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us