|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หมอเลี้ยบให้เวลาสถิตย์ชี้แจงข้อร้องเรียนโครงการโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย ภายในสัปดาห์นี้ว่ามีมูลหรือไม่ คนตกเทคนิค ตกจริงตามทีโออาร์และคนที่ผ่านถูกต้องมากน้อยแค่ไหน คาดสิ้นเดือนรู้ผลล้มประมูลหรือเดินหน้าต่อ
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะเรียกนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานบอร์ดบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่นเข้าพบเพื่อชี้แจงถึงโครงการขยายโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย
"ผมได้รับหนังสือร้องเรียนจากบริษัท อิตัลไทย และอีริคสัน จึงอยากให้ประธานบอร์ดชี้แจงว่ามีมูลหรือไม่"
เขาย้ำว่าได้ให้นโยบายในการจัดซื้อว่าจะต้องเป็นประโยชน์กับประชาชนผู้ใช้บริการในขณะที่ต้นทุนต้องมีความเหมาะสมเพราะเทคโนโลยีถูกลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะโครงการนี้ประกาศเปิดประมูลมา 1 ปี ราคาคงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทศทคงไม่ซื้อในราคาที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ประเด็นที่ประธานบอร์ดมาชี้แจงเรื่องแรกจะต้องให้ความเป็นธรรมว่าบริษัทที่ตกด้านเทคนิคนั้นตกจริงหรือไม่ และเป็นไปตามทีโออาร์ที่ทศทกำหนดไว้ เรื่องที่ 2 คือบริษัทที่ผ่านด้านเทคนิคเพียงรายเดียว ผ่านจริงหรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านและตกด้านเทคนิคเหมือนกับรายอื่น ก็จะต้องล้มประมูลเพื่อดำเนินการประมูลใหม่ และเรื่องที่ 3 หากบริษัทที่ผ่านเทคนิคเพียงรายเดียวถูกต้อง ก็ต้องมาดูด้านราคาที่เสนอมารายเดียว ถ้าแพงกว่าราคาตลาด ก็ไม่สมควรซื้อแล้วเปิดประมูลใหม่ดีกว่า ซึ่งราคาตลาดต้องเป็นราคาปัจจุบันไม่ใช่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และน่าจะหาได้ไม่ยากเพราะมีคนสนใจที่จะขอใบอนุญาตโทรศัพท์พื้นฐานจากกทช.ก็ต้องมีต้นทุนอยู่แล้ว
"ไม่ใช่แค่ลดราคา 1 พันล้านบาท แต่ต้องลดมากกว่า 1 พันล้านบาทพอสมควร"
น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่าการจัดซื้อของทศทต้องให้สามารถแข่งขันกับเอกชนได้ ไม่ใช่ต้องใช้เวลาเป็นปีถึงจะซื้อได้ และต้องทำให้เหมือนเอกชน หากมีการทุจริตจะต้องมีการยื่นซองขาวให้ออกและต้องลงโทษด้านอาญาด้วย
ส่วนการชี้แจงด้านเทคนิคของประธานบอร์ดนั้น น.พ.สุรพงษ์จะให้นำข้อมูลทั้งหมดของบริษัทที่ประกวดราคา และผลการพิจารณาเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องให้หน่วยงานภายนอกที่เป็นกลางเข้ามาดำเนินการตรวจสอบแต่อย่างใด
"ผมถือว่าเป็นการเอาข้อมูลที่เป็นวิชาการมาดูกัน เรื่องนี้ไม่ใช่วิจารณญาณ แต่เป็นวิชาการ เหมือนตรวจเลือดเราก็จะรู้ว่ามีโคเลสเตอรอลเท่าไหร่ และในการชี้แจงของประธานบอร์ดกับทีมงาน ผมจะให้ชี้แจงให้หมด ถึงผมไม่ใช่วิศวกร แต่ผมก็มีเพื่อนเป็นวิศวกรที่สามารถเอาข้อมูลดังกล่าวไปถามความเห็นเพื่อยืนยันความถูกต้องได้"
น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่าคาดว่าภายในเดือนพ.ย.นี้จะรู้ผลว่าโครงการโทรศัพท์ 5.6 แสนเลขหมาย จะล้มประมูลหรือเดินหน้าต่อรองราคาต่อไป
"ต้องยึดหลักให้มั่นอย่าให้ใครมาหลอกล่อ ให้ล้มประมูลโดยที่ไม่สมควรล้ม หรือให้ซื้อของราคาแพงโดยที่ไม่สมควรซื้อ"
สำหรับความคืบหน้าของเหตุการณ์ ในวันนี้ (16 พ.ย.) บริษัท ซีเมนส์จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลังถูกโจมตีมาหลายวัน โดย นายสมชัย ขีปนวรรธน์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวยืนยันว่าข้อเสนอของกลุ่มซีเมนส์ถือว่า ผ่านสมบูรณ์แบบหรือ Fully Com-plied นอกจากนั้นกลุ่มอิตัลไทย ก็จะเดินทางไปฟ้องศาลปกครอง โดย ประเด็นสำคัญคือต้องการให้มีการชะลอการเซ็นสัญญาออกไปก่อน จนกว่าข้อเท็จจริงจะได้รับการพิสูจน์ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม
แหล่งข่าวที่เข้าร่วมประมูลกล่าว ว่าเมื่อดูจากรายการที่ทั้ง 10 บริษัทไม่ผ่านการพิจารณาจะเห็นว่าอย่างอัลคาเทลที่บอกว่าอุปกรณ์ Access Node ไม่ผ่านการทดสอบด้านอุณ-หภูมิ จนทำให้บริษัทต้องทำหนังสือร้องเรียน ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมาก เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวอัลคาเทลมีใช้อยู่ปัจจุบันในประเทศยุโรปที่อากาศหนาวจัดขนาดหิมะตก และมีใช้ในประเทศร้อนจัดอย่างตะวันออกกลาง แต่พอมาทดสอบกับทศทกลับไม่ผ่านด้านอุณหภูมิ
"ไม่รู้ประเทศไทยหนาวจัดกว่ายุโรป หรือร้อนจัดกว่าตะวันออกกลาง ถึงได้ทดสอบไม่ผ่าน"
เขากล่าวว่าบางรายที่บอกว่าทดสอบอุปกรณ์ไม่ทัน เพราะหมดเวลา ก็ถือเป็นความบกพร่องของทศท ที่ไม่พยายามทดสอบให้ทันไม่ใช่ความผิดของบริษัท ในเมื่ออยากจะซื้อของถ้าไม่มีอคติก็ต้องหาเวลาทดสอบให้ได้ หากของดังกล่าวเป็นของดีขึ้นมาแต่ตกเพราะไม่ยอมทดสอบไม่ว่าจะมีเหตุผลเบื้องหลังอย่างไรก็ตามถือเป็นความเสียหายของทศท นอกจากนี้ยัง มีกระบวนการระหว่างทดสอบอีกมากมายที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรม
แหล่งข่าวกล่าวว่าการที่ซีเมนส์เสนอราคา 7,500 ล้านบาท ถือเป็นประเด็นน่าสนใจ เพราะโครงการนี้ให้บริษัทวางแบงก์การันตี 5% ของงบกลาง หรือเพียง 7,200 ล้านบาทเท่านั้น แต่การที่บอกงบทั้งหมด 8 พันล้านบาทนั้น เป็นการรวมงบบริหารของ ทศท ด้วยซึ่งในการประมูล การคิดราคาเพื่อยื่นประมูลของเอกชนจะไม่รวมงบบริหารเข้ามาด้วย
"ทุกบริษัทที่เสนอราคาต้องไม่เกิน 7,200 ล้านบาท ที่รับรู้ว่าเป็นงบก่อสร้าง ในขณะที่ทศทก็ไม่เคยชี้แจง รายละเอียดตรงนี้ แต่เราสามารถดูจากวงเงินแบงก์การันตีได้"
|
|
|
|
|