Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 พฤศจิกายน 2547
LHดักกำลังซื้อรอบสุวรรณภูมิหว่าน4พันยูนิตเจาะกลุ่ม5-7ล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ - แลนด์แอนด์เฮ้าส์
โฮมเพจ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้

   
search resources

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ.
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้, บมจ.
Real Estate




แลนด์ฯ ประกาศแผนปี 48 ลุยปูพรมอย่างน้อย 14 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายกว่า 25,000 ล้านบาท เน้นทำเลรอบสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 5 โครงการ ชี้บ้านราคา 2-3 ล้านบาท ขายเร็วปีหน้าสร้าง 800 ยูนิต เตรียมออกตั๋ว P/E 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี "ลลิล" ตรึงราคาขายหวังเร่งระบายสต๊อกในมือ 800 ยูนิต ชี้ตลาดบ้านระดับ 1 ล้านขึ้นแข่งดุเดือด

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) LH เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 9 เดือนของปี 2547 ว่า ยอดจดทะเบียนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม 41,978 ยูนิต เพิ่มขึ้น 34.89% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2546 อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบยอดจดทะเบียนระหว่างบ้านจัดสรรและที่อยู่อาศัยสร้างเองพบ ว่า ยอดจดทะเบียนของจัดสรรเพิ่ม ขึ้น 64.78% โดยประเภทที่อยู่อาศัย ที่จดทะเบียนมากที่สุดคือ บ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 106.37% รองลงมาเป็นบ้านแฝด 46.19% คอนโดมิเนียมยอดจดทะเบียนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.66% เนื่องจากส่วนใหญ่ยังสร้างไม่เสร็จ

"จากสถานการณ์ดังกล่าวเชื่อว่ายอดจดทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯคงไม่น้อยกว่า 60,000 ยูนิต เพราะดูได้จากผลประกอบการของแลนด์ที่ไตรมาส 3 มียอดขายกว่า 5,339 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าไตรมาส 4 ปี 2546 ที่มียอดขาย 5,580 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ไม่ห่างกันมาก จึงมั่นใจว่าไตรมาส 4 ปีนี้ยอดขายคงดีขึ้น"

นายนพรกล่าวว่า ปีนี้บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ โดยไตรมาส 4 เปิดตัว 6 โครงการ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมาบริษัทมีปัญหาเรื่องการก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมย่านถนนทรัพย์ เนื่องจากบริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเวล๊อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) ส่งมอบงานช้า เพราะมีปัญหาเรื่องแรงงานที่ไม่พอเพราะต้องเร่งก่อสร้างโครงการสนามบินหนองงูเห่า ซึ่งทาง อิตาเลียน-ไทยได้มีหนังสือมาชี้แจง โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะปรับหรือไม่

สำหรับปีหน้าบริษัทมีความกังวลเรื่องจิตวิทยาของผู้ซื้อและผู้ขายจากปัจจัยราคาน้ำมันที่อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อได้ เพราะทำให้ต้นทุนขนส่งสูงขึ้นกว่า 20%

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2548 บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 14-16 โครงการ โดยจะเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขายไม่น้อยกว่า 300 ยูนิตต่อเดือน และโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ในย่านถนนสุขุมวิท 41 จำนวน 1 โครงการ และถนนนราธิวาสราชนครินทร์อีก 1 โครงการ ส่วนสาเหตุที่เปิดโครงการคอนโดมิเนียมเพียง 2 โครงการ เนื่องจากราคาที่ดินดิบในปัจจุบันสูงเกินไปไม่เหมาะที่จะนำมาพัฒนา

วางเป้ายอดขายปีหน้า 25,000 ล้าน

ทั้งนี้ปี 2548 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 25,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% ส่งมอบบ้านไม่น้อยกว่า 4,000 ยูนิต ราคาบ้านเฉลี่ยกว่า 5 ล้านบาท โดยจะเน้นเปิดตัวย่านสนามบินสุวรรณภูมิ (หนองงูเห่า) เช่น บริเวณถ.ศรีนครินทร์ ถ.วงแหวน ถ.กิ่งแก้ว ไม่น้อยกว่า 5 โครงการ (รวมโครงการที่เปิดอยู่เดิม) ราคาเฉลี่ย 5-7 ล้านบาท ส่วนงบประมาณซื้อที่ดิน 4,000 ล้านบาท

"เราเริ่มหันมาพัฒนาบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาทด้วย เนื่องจากขายได้เร็วโดยตั้งเป้าพัฒนา 800 ยูนิต ส่วนปี 2547 พัฒนาไป 300 ยูนิต ส่วนตลาดบนราคา 15 ล้านบาท ขึ้นไปที่ชะลอตัวนั้น บริษัทพัฒนาเพียง 10-15% จากเดิมที่พัฒนา 22%" นายนพรกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 5,339 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ 1,960 ล้านบาท หนี้สินต่อทุนรวม 0.58/1 และคาดว่าสิ้นปีหนี้สินต่อทุนน่าจะอยู่ที่ 0.5/1

รายใหญ่เบนเข็มเจาะตลาดกลางล่าง

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2548 ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ จะหันไปพัฒนาบ้านระดับกลางล่างหรือบ้านระดับราคา 1 ล้านต้นๆ มากขึ้น เนื่องจากบ้านราคาสูงเริ่มมีจำนวนซัปพลายที่เกินความต้องการ เพราะสต๊อกบ้านราคาสูงยังไม่สามารถระบายได้หมดในปีนี้ เมื่อนับรวมบ้านที่กำลังก่อสร้างอยู่ขณะนี้ ทำให้ในปีหน้าตลาดบ้านราคาสูงเกิดภาวะสินค้าล้นตลาด

ส่วนตลาดระดับกลางจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะที่สมดุล หลังจากในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการ เร่งผลิตบ้านระดับกลางป้อนตลาดจำนวนมาก

"บ้านระดับกลางล่างราคาเฉลี่ย 1 ล้านบาทขึ้นไปได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการรายใหญ่ เพราะเป็นตลาดที่มีความต้องการที่แท้จริงและยังมีช่องให้ทำการตลาด แม้ว่าตลาดระดับนี้ลงไปจะมีการเคหะแห่งชาติ รวมถึงผู้ประกอบการท้องถิ่นและรายย่อยทั่วไปผลิตสินค้าป้อนตลาดอยู่ แต่ยังไม่พอกับความต้องการ"

เร่งระบายสต๊อกเก่า-ตรึงราคาขาย

นายไชยยันต์กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทยังเน้นจับกลุ่มลูกค้าในตลาดระดับกลางเฉลี่ยราคาที่ 2-5 ล้านบาท เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความต้องการที่เหมาะสม โดยบริษัทจะยังคงราคาบ้านไว้ในราคาเดิม หากเปรียบเทียบบ้านในตลาดระดับเดี่ยวกันแล้วบ้านของลลิลฯจะมีราคาถูกกว่าโครงการอื่นๆ ประมาณ 20% และในปีหน้ารายอื่นจะปรับราคามากขึ้น

สำหรับยอดขายของลลิลฯ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากยอดขายที่ 1,758.1 ล้านบาท จากเป้ารายได้ทั้งปี 3,000 ล้านบาท ลดจากเป้าเดิมคือ 4,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ลลิลฯ มียอดรับรู้รายได้ที่ 610 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 148 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4 นี้ ลลิลฯ ยังมีบ้านที่อยู่ระหว่างการโอนอีกประมาณ 660 ล้านบาท ส่วนจำนวนสินค้าที่อยู่ในมือมีจำนวน 800 ยูนิต จากจำนวน 19 โครงการ แบ่งเป็นบ้านอยู่ระหว่างการ ก่อสร้างจำนวน 600 ยูนิต โดยจะก่อสร้างเสร็จและพร้อมที่จะโอนได้ในไตรมาส 1-2 ปี 48

ส่วนอีก 200 ยูนิตเป็นบ้านที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ทั้งนี้สำหรับบ้านสร้างเสร็จจำนวน 200 ยูนิตดังกล่าว ลลิลฯได้จัดแคมเปญพิเศษ จองบ้านพร้อมโอน วางเงินดาวน์ 50,000 บาททุกทำเล พร้อมรับส่วนลด 0.5-1% ของราคาขาย โดยในงานนี้ตั้งเป้าว่า จะมียอดขายประมาณ 600 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ ส่วนในไตรมาส ที่ 4 บริษัทจะเปิดอีก 1 โครงการ คือ ลัลลี่ วิลล์ 2 ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ มูลค่า 400 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us