Thakral corp เคยเป็นบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ชั้นนำของ Singapore
แต่ขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะหนี้สินพ้นตัว Thakral เป็นตัวอย่างของบริษัท ที่พยามยามปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
แต่บางครั้งสิ่งที่ได้กลับตรงข้ามกับที่หวัง Thakral เป็นบริษัทครอบครัวชาวซิกข์ครอบครัวหนึ่งที่ตั้งรกรากอยู่ในสิงคโปร์
บริษัทเจริญรุ่งเรืองอย่างมากจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่น
ได้แก่ สเตอริโอ โทรทัศน์ และเครื่องเล่นวิดีโอ ให้แก่ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ
แต่แล้วส่วนต่างกำไรที่บริษัทได้รับจากธุรกิจสินค้าอิเลคทรอนิกส์ในช่วง
10 ปีมานี้กลับหดแคบลง เนื่องจากสงครามราคาที่รุนแรงซึ่งเปิดฉากโดยผู้ผลิตหน้าใหม่จากเกาหลีใต้และจีน
Thakral จึงพยายามจะกระจายธุรกิจไปยังธุรกิจใหม่ๆ
เพราะเชื่อมั่นว่ากำไรจะต้องมาจากการมีร้านค้าปลีกสินค้า consumer-electronics
เป็นของตนเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านค้าปลีกมาก่อนเลย แต่ Thakral
ก็ตัดสินใจเปิดร้านค้าปลีกหลายแห่งขึ้นในจีน นอกจากนี้ยังเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลีย
ในช่วงเวลาที่ราคาอสังหาริมทรัพย์กำลังจะตกต่ำ นอกจากนี้ยังร่วมลงทุนกับบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตในสิงคโปร์
เพื่อเปิดบริษัทที่ปรึกษาเทคโนโลยีขึ้นในจีนในช่วงต้นปี 2000
นอกจากจะอ่อนหัดในทุกธุรกิจที่รุกเข้าไปใหม่แล้ว Thakral ยังผิดพลาดฉกรรจ์ที่ไม่มีความชำนาญในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเลย
ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งจำเป็นมากเมื่อบริษัทรุกธุรกิจไปยังต่างประเทศ ส่งผลให้บรรดานักลงทุน
ซึ่งจับตาความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของ Thakral ด้วยความวิตก พากันเทขายหุ้นของ
Thakral ราคาหุ้นของบริษัทเริ่มร่วงลงเรื่อยๆ จากระดับ 10-15 ดอลลาร์สิงคโปร์
(5.6-8.3 ดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 1996 ในที่สุดก็เหลือเพียงไม่กี่เพนนีต่อหุ้นในทุกวันนี้
ถึงที่สุด ธุรกิจใหม่ๆ ของ Thakral กลับทำให้บริษัทต้องลงเอยด้วยการเป็นหนี้ถึง
250 ล้านดอลลาร์ และไม่สามารถจะสร้างกระแสเงินสดได้พอเพียงอีกต่อไป ดังนั้นปลายปี
2001 ที่ผ่านมา Thakral จึงได้รับอนุญาตจากศาลสูงสิงคโปร์ให้สามารถพักชำระหนี้เป็นการชั่วคราว
ในขณะที่เข้าสู่แผนการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งคล้ายกับการเข้าสู่กระบวนการล้มละลายตาม
Chapter 11 ของสหรัฐฯ