Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กุมภาพันธ์ 2545
พลิกยุทธศาสตร์ไออีซี คิดใหม่ทำใหญ่ บันได 3 ขั้นไต่ดาวคืนบัลลังค์             
 


   
search resources

อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง, บมจ.




บริษัทอินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง หรือ ไออีซี ในปี 2545 จะเป็นการฉลองครบรอบ 80 ปีการก่อตั้งบริษัท พร้อมๆ ไปกับการฉลองการกลับมาตั้งหลักในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงอีกครั้ง หลังจากช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไออีซีต้องก้มหน้าก้มตาปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมๆ ไปกับการหาจุดยืนที่แท้จริงสำหรับการกำหนดยุทธศาสตร์ของบริษัทในการเดินหน้าต่อไปในอนาคต

จเรรัฐ ปิงคลาศัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการบริษัทอินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง หรือ ไออีซี คือหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ที่เข้ามาบริหารงานไม่ถึง 2 ปี กำลังนำพาไออีซีให้ขึ้นมาผงาดในวงการสื่อสารและธุรกิจวิศวกรรมซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของไออีซีอีกครั้ง รวมทั้งวางแผนยาวถึงอนาคตในธุรกิจอีบิซิเนสแบบครบวงจร ในการพาไออีซีกรุ๊ปขึ้นสู่ดวงดาวอีกครั้ง

“ปีนี้จะเป็นปีที่เราเริ่มสบาย หนี้สินที่มีกว่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 200 ล้านบาท ดอกเบี้ยที่เคยจ่ายปีละหลายร้อยล้านบาท เหลือไม่ถึง 20 ล้านบาท เชื่อว่าภายในปีหน้าไออีซีจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อีกครั้ง หลังจาก 5 ปีที่ผ่านมาไออีซีไม่มีผลกำไรที่สามารถปั่นผลได้” จเรรัฐกล่าว

จเรรัฐกล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ไออีซีจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการทำตลาดของไออีซีอย่างรอบด้าน โดยมีบทเรียนการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์สำคัญ ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจนั้น ได้เริ่มไปบ้างแล้วในช่วงปีที่ผ่าน โดยไออีซีขยายเข้าไปสู่ธุรกิจอีบิซิเนส

โครงสร้างธุรกิจใหม่ของไออีซีแบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ประกอบด้วย กลุ่มโมบายโฟนบิซิเนส, กลุ่มเอนจีเนียริ่งบิซิเนส, และกลุ่มไอทีและอีบิซิเนส ซึ่งจะมีการแตกบริษัทย่อยเข้าไปดูแลในธุรกิจต่างๆ ภายใต้ปีกการบริหารของแต่ละกลุ่มธุรกิจ โดยทั้งหมดขึ้นตรงต่อไออีซีกรุ๊ป

ตามแผนโครงการธุรกิจใหม่สัดส่วนรายได้ของไออีซีกรุ๊ป จะเน้นหนักไปที่กลุ่มโมบายโฟนบิซิเนสกว่า 70% ส่วนอีกสองกลุ่มประมาณรายได้กลุ่มละประมาณ 15% เหตุผลสำคัญก็สืบเนื่องจากสภาพตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจุบันมีแนวโน้มการเติบโตที่ขยายสูงอย่างต่อเนื่อง ยังมีแนวโน้มที่ตลาดจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ไออีซีตั้งเป้าที่จะเข้ามากอบโกยรายได้จากการขายมือถือเป็นสำคัญ

“เรามีบทเรียนจากการเป็นโอเปอเรเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ถนัด เราต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นดิสทริบิวเตอร์แทน ขณะนี้ไออีซีสามารถขายได้ทุกระบบทุกยี่ห้อเพียงรายเดียว” จเรรัฐกล่าว

ทางไอดีซีมีแผนที่จะสร้างแบรนด์ “โมบายอีซี่” เพียงแบรนด์เดียวสำหรับช็อปร้านค้ามือถือของบริษัท หลังจากที่ผ่านมามีการทำตลาดในชื่อโมบายเซ็นเตอร์, เซอร์วิสเซ็นเตอร์, พีซีและโมบายอีซี่ด้วย โดยแบ่งแยกตามขนาดและบริการ แต่ทั้งหมดจะมีการรีแบรนด์ดิ้งให้เหลือเพียงโมบายอีซี่เท่านั้น นอกจากนี้ยังขยายด้วยการขายแฟรนไชส์ โดยเน้นที่ตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก ขณะนี้ได้เปิดไปแล้ว 3 แห่ง

“ปีนี้ทุกร้านทุกช็อปจะถูกเปลี่ยนมาเป็นโมบายอีซี่ รวมทั้งช็อปใหม่ที่จะเกิดขึ้นด้วย คาดว่าจะใช้งบประมาณในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจมือถือและผู้บริโภคที่จะสามารถเลือกสรรสินค้ามือถือได้ทุกระบบไม่ว่าจะเป็นจีเอสเอ็ม, ดีแทค, ออเรนจ์ หรือโทรศัพท์ระบบ1900 และทุกยี่ห้อ รวมทั้งบริการชำระค่าบริการ, บริการลูกค้า และซ่อมเครื่อง”จเรรัฐกล่าว

นอกจากนี้ในกลุ่มธุรกิจโมบายบิซิเนสจะมีการเปิดบริการ 1369 คอลล์เซ็นเตอร์ ที่บริการสอบถามข้อมูล และรับเป็นเอาต์ซอร์สบริการสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการใช้บริการ ซึ่งบริการในกลุ่มนี้ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตมากธุรกิจหนึ่งในปีนี้

กลุ่มโมบายโฟนบิซิเนสจึงเป็นฐานรายได้ในระยะสั้นที่จะเป็นรายได้หลักของไออีซี คาดว่าในปีนี้ตลาดรวมการขายมือถือทุกค่ายมียอดรวมประมาณ 8 ล้านเครื่อง และยังเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง แต่ในอีก 3 ปีข้างหน้า ไออีซีเชื่อว่าตลาดจะค่อยๆ อิ่มตัว จากยอดผู้ใช้ประมาณ 20 ล้านราย

จเรรัฐกล่าวว่า เมื่อธุรกิจโมบายถึงจุดอิ่มตัว ไออีซีได้มองการขยายขอบข่ายธุรกิจเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความสมดุลในการดำเนินธุรกิจระยะยาว และไม่เกิดผลกระทบต่อรายได้รวมของไออีซีเหมือนดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา

กลุ่มเอนจีเนียริ่งบิซิเนสนับเป็นการหวนกลับมาลงทุนในธุรกิจด้านระบบวิศวกรรม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักดั้งเดิมของกลุ่มอีกครั้ง หลังจากหยุดนิ่งไปในช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากประสบปัญหาด้านการเงินจากภาวะเศรษฐกิจ และธุรกิจนี้จำเป็นต้องลงทุนสูง จึงหันไปให้ความสำคัญกับตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งอยู่ในช่วงตลาดขยายตัวมากกว่า

โดยจะเน้นเข้าไปประมูลโครงการใหญ่ๆ ต่างๆ ของภาครัฐ ทั้งโครงการโทรศัพท์มือถือ 1900 ขององค์การโทรศัพท์ และโครงการ CDMA ซึ่งทั้งสองโครงการจะเข้าไปประมูลงานการวางเน็ตเวิร์ก และทำตลาดให้กับสินค้าทั้งสองตัวนี้ด้วย

เป้าหมายในการทำธุรกิจด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท จะครอบคลุมทั้งการเป็นผู้ทำตลาด หรือผู้ขายเครื่องให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบในประเทศไทย ตลอดจนการเข้าไปประมูลเพื่อเป็นผู้ติดตั้งโครงข่ายให้กับระบบใหม่ๆ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์ ในเฟส 2 และเฟสต่อเนื่อง, ระบบซีดีเอ็มเอของการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.)

โดยปีนี้ไออีซีจะทำตลาดทุกระบบ ทั้งจีเอสเอ็ม, ดีแทค, ทีเอ ออเร้นจ์ และ 1900 เมกะเฮิรตซ์ ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) และ กสท. ซึ่งบริษัทได้รับสิทธิเป็นตัวแทนทางการตลาดร่วมกับสามารถคอร์ป

เขาเชื่อว่า จากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจของไออีซีและศักยภาพทางด้านช่องทาง ในส่วนโมบายอีซี่ในปีนี้จะมีสาขาถึง 169 แห่ง จากปี 2544 ที่มีเพียง 69 แห่ง ดีลเลอร์กรุงเทพเพิ่มจาก 202 รายเป็น 402 ราย ดีลเลอร์ต่างจังหวัดจาก 213 รายเป็น 373 ราย นับได้ว่าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จะสามารถรองรับการทำงานให้กับทั้งสองโครงการได้เป็นอย่างดี

ไออีซีวางแผนกระจายสินค้าผ่าน 2 ช่องทางหลัก ได้แก่

1.ช่องทางขายและบริการของไออีซีเอง คือ “โมบาย อีซี่”

2.จุดขายที่ร่วมกับผู้ให้บริการเจ้าของระบบ โดยไออีซีจะเป็นเจ้าของพื้นที่และทำหน้าที่บริหาร ขณะที่เจ้าของระบบดูแลเรื่องการตกแต่งร้าน

ขณะที่ด้านการเป็นผู้ติดตั้งระบบนั้น บริษัทมีความพร้อมจากความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท แซดทีอี (ZTE) จากประเทศจีน ที่มีเทคโนโลยีทั้งระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์ และซีดีเอ็มเอ ซึ่งทันทีที่มีการเปิดประมูลก็จะเข้าไปเป็นหนึ่งในผู้ประมูลทันที

เขามองว่า ในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์นั้น มีแผนงานที่จะเปิดประมูลเฟส 2 อยู่แล้ว โดยน่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท และแบ่งพื้นที่ติดตั้งเป็นโซน เพื่อความรวดเร็วและป้องกันความเสี่ยงจากการผูกขาดกับซัพพลายเออร์รายหนึ่งรายใด โดยบริษัทเองก็มั่นใจว่า จากจุดแข็งของพันธมิตร และราคา น่าจะทำให้บริษัทได้รับเลือกร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 1 โซน

นอกจากนี้ในกลุ่มเอนจีเนียริ่ง มีการตั้งบริษัทขึ้นมาดูแลงานในส่วนงานเกี่ยวกับรถไฟ หรือบริการซ่อมบำรุงรถไฟ โดยอาศัยกลุ่มคนที่เกษียณและพนักงานที่ขอออกจากการรถไฟมาเป็นพนักงาน ซึ่งในแต่ละปีการรถไฟมีงบประมาณสำหรับซ่อมบำรุงกว่า 3,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรถไฟในส่วนของบริษัทเอกชนที่รอการซ่อมบำรุงจากการรถไฟเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ไออีซีจะเข้าไป ถือเป็นตลาดที่ใหญ่และมีความต้องการสูงมาก

สำหรับกลุ่มสุดท้ายที่ไออีซีได้มีการปรับโครงสร้าง คือกลุ่มธุรกิจไอทีอีบิซิเนส ไออีซีได้แบ่งระดับออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มที่หนึ่งซิสเต็มส์เลย์เยอร์ ประกอบด้วย ไออีซีอินเทอร์เน็ตดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และบริษัทแมกโคเนติกส์ทำธุรกิจติดตั้งระบบและขายระบบเครือข่าย

กลุ่มที่สองแอพพลิเคชั่นเซอร์วิสเลย์เยอร์ มีธุรกิจรับจ้างเขียนเว็บ, ดูแลเว็บ, โฮสต์ติ้ง และอินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์

กลุ่มที่สามโซลูชั่นโพรไวส์เดอร์ ล่าสุดได้ร่วมทุนกับการนิคมอุตสาหกรรมในการบริการอีบิซิเนสครบวงจร

การที่ไออีซีประกาศตัวเข้าสู่อีบิซิเนสเมื่อช่วงปีที่ผ่าน เพราะเห็นว่าเป็นเวลาที่ดีและเหมาะสม และมองเห็นภาพธุรกิจที่ชัดเจน รวมถึงการสร้างงานในอนาคตด้วย เนื่องจากธุรกิจอีบิซิเนสในประเทศไทยเริ่มมีอัตราการโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องยกระดับงานด้านนี้ขึ้นเป็นบริษัทไออีซีเทคโนโลยี

ล่าสุดไออีซีได้ร่วมทุนกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในการบริการอีบิซิเนสครบวงจรภายใต้บริษัทไออีซีเทคโนโลยี วางแผนที่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 300 ล้านบาทในเวลา 3 ปี และคาดว่าจะคืนทุนหลังจากนั้น 2 ปี ซึ่งรายได้หลักจะมาจากค่าธรรมเนียนในแต่ละทรานแซ็กชั่นในการติดต่อซื้อขาย และค่าบริหารค่าพัฒนาเว็บไซต์ต่างๆ ลูกค้าเป้าหมายในช่วงแรกคือโรงงานอุตสาหกรรมประมาณ 2,000 โรงงานภายใต้กนอ.

และจากจุดเริ่มต้นกับกนอ.จะกระจายไปยังส่วนอื่นๆ ซึ่งลูกค้าเป้าหมายในระยะยาว ไออีซีเทคโนโลยีวางเป้าไว้ที่หน่วยงานองค์กรภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมทั้งหมด ทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จนถึงระดับเอสเอ็มอีต่างๆ

จเรรัฐกล่าวว่าภายใต้แผนโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ ไออีซีตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ 4,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2544 เกือบ 100% และเขาเชื่อมั่นว่ารายได้ของไออีซีจะก้าวกระโดดนับจากปีนี้เป็นต้นไป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us