Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 พฤศจิกายน 2547
กลุ่มอีจีวียกขบวนซื้อหุ้น IRCP มนตรีนำเงินลดภาระดอกเบี้ย             
 


   
www resources

โฮมเพจ อีจีวี
โฮมเพจ อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น

   
search resources

อีจีวี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์, บมจ.
อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
มนตรี ฐิรโฆไท
Software




ผู้บริหารอีจีวีเข้าถือหุ้นในไออาร์ซีพี 11.3% ในราคาหุ้นละ 7.70 บาท ได้เงินจำนวน 53.9 ล้านหุ้น เพื่อหวังนำเงินไปลดภาระดอกเบี้ยปีละ 3 ล้านบาท และนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ชี้ปีนี้รายได้พลาดเป้า เหตุจากงานภาครัฐเลื่อนการประมูลมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท ชี้ปีหน้าเข้าร่วมประมูลไม่ต่ำกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท

นายมนตรี ฐิรโฆไท ประธานเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IRCP) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้เสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 7 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 11.3% ของทุนจดทะเบียน

ซึ่งจะเสนอขายให้แก่กลุ่มผู้บริหารของบริษัทอีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (EGV) ซึ่งประกอบด้วย นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จำนวน 3 ล้านหุ้น, นางนลินรัตน์ พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานกรรมการและผู้ถือหุ้น จำนวน 3 ล้านหุ้น และนายวิชิต เครือวัฒนกุล จำนวน 1 ล้านหุ้น เสนอขายในราคาหุ้นละ 7.70 บาท คิดเป็นจำนวนเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 53.9 ล้านบาท

สำหรับราคาจอง 7.70 บาทนั้น มาจากราคาเฉลี่ย 10 วัน ซึ่งจะอยู่ที่ระดับ 9.53 บาท และมีส่วนลดไม่เกิน 20% ซึ่งจะอยู่ในระดับ 7.72 บาท ดังนั้น ระดับราคาที่เสนอขาย 7.70 บาท จึงถือเป็นระดับราคาที่ต่ำสุดแล้ว

ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนจะสามารถนำไปใช้ในการลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทได้ประมาณ 3 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่บริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนจำนวน 268 ล้านบาท และเงินที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อขยายธุรกิจ สิ้นปี 2546 บริษัทมีหนี้สินต่อทุนประมาณ 0.87 เท่า ขณะที่ใน 9 เดือนแรกของปี 2547 จำนวนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นเป็น 1.26 เท่า

นอกจากนี้ บริษัทยังมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 2.75 ล้านหุ้น ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทไม่เกิน 35 ราย และอนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่กรรมการและพนักงานที่ได้รับการจัดสรรหุ้นเกินกว่า 5% ทุกราย รวมทั้งจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 100 หุ้นเดิมต่อ 44 วอร์แรนต์

คณะกรรมการยังได้อนุมัติการลงทุนในบริษัทย่อยใหม่ คือบริษัทอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ คอมพิวติ้ง (INEC) ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท และบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 60% และกลุ่มผู้บริหาร INEC ถือหุ้น 40% โดยวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อขยายการให้บริการแบบครบวงจรในธุรกิจ Software Solution

นายมนตรีกล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติอนุมัติการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท Scandent Group Pte.Ltd, Singapore (SCANDENT) โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาและขยายฐานการให้บริการรวมไปถึง กิจกรรมการรวบรวมระบบ, ผลิตภัณฑ์, โครงงานและระบบงานด้านไอซีทีตลอดจนความร่วมมือ

นายจำรัส สว่างสมุทร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 830 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าประมาณการที่กำหนดไว้ช่วงต้นปีที่คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 1 พันล้านบาท เนื่องจากโครงการของภาครัฐที่ได้เลื่อนไปซึ่งมีมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ 2 ด้าน คือจากงานประมูลภาครัฐประมาณ 348 ล้านบาท หรือ 57.9% และจากโครงการประมูลภาคเอกชนจำนวน 253 ล้านบาท และโครงการประมูลภาคเอกชนจำนวน 253 ล้านบาท หรือ 42.1% นอกจากนี้บริษัทจะมี รายได้เข้ามาอีก 91.5 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 4 จะมีการรับรู้จำนวน 80% โดยคาดว่าภายในปีนี้บริษัทจะมีรายได้ทั้งปีเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16% ซึ่งสูงกว่าอัตราอุตสาหกรรมโดยรวมที่คาดว่าจะโต 10%

สำหรับภายในปีหน้านั้นบริษัทจะเข้าประมูลงานภาครัฐมากกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้แก่การเข้าร่วมประมูลโครงการพัฒนาระบบให้บริการหนังสือเดินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 7 พันล้านบาท และมีโครงการที่เลื่อนจากปีนี้อีก 4 พันล้านบาท

นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทเข้าถือหุ้นในบริษัทไออาร์ซีพีเนื่องจากถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนจะได้รับผลตอบแทนทั้งในแง่ของเงินปันผลซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้จ่ายปันผล 0.75 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 6%

นอกจากนี้ ภายในปีหน้าบริษัทจะมีการประมูลงานภาครัฐไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งนี้ การที่บริษัทได้งานประมูลทำให้มีฐานะการเงินมั่นคง โดยผลตอบแทนที่ได้รับไม่ใช่ในแง่ของเงินปันผลเท่านั้น แต่ยังได้เป็นการสร้างโอกาสในการลงทุนที่ดี และที่ผ่านมาโรงภาพยนตร์อีจีวีจะมีรายจ่ายจากด้านไอทีค่อนข้างมาก ซึ่งการที่ไออาร์ซีพีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ ทำให้สามารถพัฒนาวิสัยทัศน์การดำเนินงานร่วมกันได้

นายวิชัยกล่าวว่า การลงทุนในบริษัทไออาร์ซีพีครั้งนี้เป็นการลงทุนส่วนตัวเท่านั้นและไม่ได้เข้าไปร่วมเป็นกรรมการของบริษัทแต่อย่างใด และถ้ามีโอกาสก็พร้อมที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นอีก เพราะภาวะตลาดหุ้นโดยรวมขณะนี้ราคาหุ้น ปรับตัวลดลง จึงถือว่ามีความน่าสนใจและขณะนี้ยังไม่มีความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมแต่อย่างใด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us