Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กุมภาพันธ์ 2545
ยักษ์หลับ แบงก์กรุงเทพปรับสาขาต่างประเทศ-คอมพิวเตอร์สู้กระแสครอบกิจการของฝรั่ง             
 


   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.




แบงก์กรุงเทพปรับแผนสาขาต่างประเทศครั้งใหญ่ เร่งลดต้นุทน หารายได้เพิ่ม เพื่อแข่งขันกับธนาคารจากซีกโลกตะวันตกที่ซื้อกิจการในเอเชียเป็นว่าเล่น วางสาขาฮ่องกงเป็นศูนย์กลางคุมสาขาเอเชียตะวันออก และสาขาสิงคโปร์คุมสาขาอินโดนีเซียและมาเลเซีย รวมถึงการสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์ ที่แบงก์มีสิทธิโยกย้ายพนักงานครั้งใหญ่

นายประสงค์ อุทัยแสง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายกิจการธนาคารต่างประเทศ ธนาคารกรุง

เทพ เปิดเผยผลดำเนินงานส่วนกิจการธนาคารต่างประเทศปี 2544 ว่า กำไรสุทธิมากกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งดีขึ้นเทียบกับปี 2543 เนื่องจากปรับเปลี่ยนระบบการทำงานองค์กร และผลจากการทำงานหนักของทุนฝ่ายในธนาคาร

นโยบายดำเนินกิจการธนาคารต่างประเทศปีนี้ มุ่งไม่ให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นขณะเดียวกันพยายามปรับโครงสร้างหนี้รายเดิมให้ลดมากที่สุด และเน้นตั้งเงินสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวนหนึ่ง ทำให้ฐานะการเงินสายงานต่างประเทศมีความมั่นคงสูง

นอกจากนี้จะเริ่มเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบการทำงาน (Infrastructure) พร้อมกับการทำ Bualuang Transformation (BT) กิจการในประเทศ คาดว่าใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่าจำเป็นมาก เพราะการทำธุรกิจในเอเชียกำลังเปลี่ยนอย่างมาก ธนาคารจากตะวันตกซื้อธนาคารท้องถิ่นในเอเซียจำนวนมาก ธนาคารจากตะวันตกเหล่านี้มีวิธีทำงานแตกต่างออกไป

ดังนั้นหากธนาคารไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีทำงาน ย่อมจะอยู่ไม่ได้ หรือไม่สามารถรักษาความเป็นดับหนึ่งได้ต่อไป

นายประสงค์กล่าวต่อไปว่าหลักการปรับโครงสร้างพื้นฐานครั้งนี้ จะเปลี่ยนแปลง 2 ส่วน

ประการแรกคือลดส่วนที่เป็นต้นทุน และต้องขยายส่วนหารายได้ให้มากขึ้น ประการที่ 2 การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบงาน คือการสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์ระดับภูมิภาค เพื่อลดต้นทุน สามารถกำกับควบคุมทั้งองค์กรง่ายขึ้น และให้บริการเร็วขึ้น

โดยจะตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์ทางทิศเหนือกรุงเทพที่ฮ่องกง เพื่อครอบคลุมกลุ่มสาขาในเอเชียตะวันออกและจีนทั้งหมด ได้แก่ สาขาในจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ สาขาทั้งหมดนี้ โซนเวลาเดียวกัน ยกเว้นญี่ปุ่น ซึ่งเวลาต่างกันเพียง 1 ชั่วโมง

สำหรับศูนย์ฯ สาขาทางใต้ จะตั้งที่สาขาสิงคโปร์ เพื่อให้คุมสาขาในอินโดีนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งมีโซนเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามส่วนระบบงานคอมพิวเตอร์สาขานิวยอร์ก ลอนดอน และในประเทศในอินโดจีน จะขึ้นตรงกับศูนย์คอมพิวเตอร์สำนักงานใหญ่ธนาคาร เนื่องจากศูนย์ฯ นี้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

นายประสงค์กล่าวว่าการเลือกสาขาฮ่องกงและสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์ระบบงานคอมพิวเตอร์ทางเหนือและใต้กรุงเทพ เนื่องจากทั้ง 2 สาขาตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเอเชียที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่ง และเป็นประเทศที่มีระบบกฎหมาย และระบบภาษีที่มีมาตรฐาน ชัดเจน เอื้อในการทำธุรกิจได้ง่าย และสะดวก

"เมื่อสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์เสร็จแล้ว สาขาต่างประเทศอื่น จะทำหน้าที่เป็นจุดบริการ และจุดขาย การเป็นจุดขายไม่จำเป็นต้องลดขนาด บางแห่งอาจขยายใหญ่ขึ้น พนักงานมากกว่าเดิมก็ได้ เช่น สาขาเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจของจีน ประชากรมาก สามารถทำธุรกิจได้มาก ธนาคารเตรียมเพิ่มทุน และขยายขอบเขตการทำงานธุรกิจสาขานี้" นายประสงค์กล่าว

กรรมการรองผู้จัดการใหญ่แบงก์กรุงเทพกล่าวต่อไปว่าหลังจากที่ระบบงานมารวมศูนย์แล้ว งานทุกสาขาจะลดลง ซึ่งเป็นไปได้ที่จะโยกย้ายบุคลากรบ้าง แต่พนักงานไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะย้ายที่ที่เหมาะสม และขอให้พนักงานเข้าใจว่าการที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ดี หากไม่มีการปรับองค์กร ธนาคารจะสู้กับคู่แข่งไม่ได้

นอกจากนี้ธนาคารยังมีแผนตั้งศูนย์ตรวจสอบภายในที่ฮ่องกง เพื่อให้เป็นหน่วยงานตรวจสอบสาขาในจีน และฟิลิปปินส์ โดยสามารถส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ หลังจากตั้งศูนย์ตรวจสอบแล้ว จะศึกษาเพื่อจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติงานกลาง เพื่อรองรับงานฝ่ายสนับสนุนงาน (Back Office) สาขาในเขตทั้งหมด

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us