N-PARK แบไต๋อาจขายหุ้น PA ที่ถืออยู่ 63% ทิ้ง อ้างผู้ถือหุ้นรายย่อยบางส่วนยังเป็นปฏิปักษ์ต่อแผนฟื้นฟู แถมยังร้องเรียนต่อ ก.ล.ต.ถึงความไม่เป็นธรรมในการฟื้นฟูกิจการ

นายเถาถวัลย์ ศุภวานิช กรรมการบริหารบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน)(N-PARK) เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือถึงบริษัทฯให้ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการยกเลิกการควบรวมกิจการ ตามแผนปรับโครงสร้างการถือหุ้น และการจัดการของบริษัท ซึ่งที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2547 ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2547 นั้น บริษัทขอชี้แจงว่า แม้บริษัทจะพยายามแก้ไขและชี้แจงถึงประโยชน์ของแผนปรับโครงสร้างอย่างไรแล้ว ก็ยังคงมีผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน)PA ส่วนหนึ่งยังมีความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรงต่อแผนปรับโครงสร้าง และไม่สามารถทำความเข้าใจจุดมุ่งหมายของการได้ประโยชน์ร่วมกันของแผนปรับโครงสร้างได้ และยังคงร้องเรียนถึงความไม่เป็นธรรม ของแผนปรับโครงสร้างมาโดยตลอด

ทั้งนี้ บริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการลงทุนใน PA หรือไม่อย่างไร บริษัทยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของ PA จำนวน 211,739,547 หรือคิดเป็น 63.40% ของทุนจดทะเบียนของ PA เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีความจำเป็นหรือ มีเหตุผลสมควรบริษัทอาจพิจารณา ขายเงินลงทุนใน PA หรือบริษัทย่อยอื่นๆ เพื่อประโยชน์ต่อบริษัท และผู้ถือหุ้นของบริษัท

ในการพิจารณาออกเสียงลงคะแนนไม่เห็นด้วยในวาระที่ 2 นั้นผู้ถือหุ้นรายย่อยของ PA ส่วนหนึ่งยังมีความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรงต่อแผนปรับโครงสร้าง โดยไม่สามารถทำความเข้าใจจุดมุ่งหมายของการได้ประโยชน์ร่วมกันของแผนปรับโครงสร้างได้ แม้แผนปรับโครงสร้างจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่น ๆ ของ PA เพียงพอที่จะผ่านมติให้ความเห็นชอบได้ (โดยบริษัทฯในฐานะผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสียเป็นพิเศษจะไม่ร่วมออกเสียงลงคะแนน) เช่นในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทครั้งที่ผ่านมานั้น การยืนยันที่จะปฏิบัติการตามแผนปรับโครงสร้างต่อไปจะถูกมองว่าเป็นการฝืนใจผู้ถือหุ้นรายย่อยของ PA เหล่านั้น ซึ่งอาจดูไม่เหมาะสมตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) แม้ในทางกฎหมายจะสามารถกระทำได้ก็ตาม

ส่วนในเรื่องข้อร้องเรียนของผู้ถือหุ้นรายย่อยของ PA นั้น บริษัทรับทราบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ว่ามีผู้ถือหุ้นรายย่อยของ PA ร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมของแผนปรับโครงสร้าง ซึ่งในครั้งนั้นบริษัทได้มีการพิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าว และดำเนินการแก้ไขตามที่ได้มีการ ร้องเรียน โดยบริษัทได้มีการแก้ไขแผนปรับโครงสร้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสมประโยชน์มากที่สุดกับผู้ถือหุ้นรายย่อยของ PA ซึ่งปรากฏตามแผนปรับโครง สร้างที่ได้มีการเพิ่มเติมที่ได้ส่งให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทและ PA ได้พิจารณาก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทและก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นของ PA แล้ว PA เผยต่อไปบอร์ดจะกำหนดนโยบายลดความซ้ำซ้อนในเชิงธุรกิจ หลังแผนรวมกิจการกับ N-PARK ล่ม

ขณะที่นาย นายอเล็กซ์ ที เฮง โฮ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน)(PA) กล่าวว่า นโยบายใน การดำเนินธุรกิจภายหลังการขายหุ้นสามัญของบริษัท แปซิฟิค อาวันท์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (PAH) จำนวน 625,000 หุ้น ราคารวมทั้งสิ้น 1,620 ล้านบาท ให้กับกลุ่ม Avant Resorts Limited ตาม Shareholder Agreement re : Pacific Avant Holding บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญ ของ PAH ไปชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ของบริษัทบางส่วนและนำไปลงทุนสร้างหรือซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติม

ดังนั้นแม้การขายหุ้นสามัญของ PAH ซึ่งมีขนาดรายการตามเกณฑ์ กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ปกติเท่ากับ 133.38% นั้นจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างรายได้และผลการดำเนินงานของบริษัทในระยะต้น แต่ในระยะถัดไปเงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญของ PAH ซึ่งนำไปชำระหนี้และลงทุนเพิ่มเติมนั้นจะก่อให้เกิดประโยชน์ทดแทนที่คุ้มค่าแก่บริษัทและผู้ถือหุ้นต่อไป

สำหรับกลุ่ม Avant Resorts Limited รวมถึงความสัมพันธ์กับบริษัทและ N-Park กลุ่ม Avant Resorts Limited เป็นบริษัทในกลุ่มของนักธุรกิจด้านโรงแรมชั้นนำในประเทศสิงคโปร์ และเป็นเพียงหุ้นส่วนในทางธุรกิจกับบริษัท โดยการถือหุ้นร่วมกัน คิดเป็น 50% ของทุนจดทะเบียนของ PAH กับ บริษัท แปซิฟิค เมอริเดียน รีสอร์ท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เท่านั้น และทั้งบริษัทและ N-Park ไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวโยงอื่นใดกับกลุ่ม Avant Resorts Limited