Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 พฤศจิกายน 2547
กันตนารุกงานดิจิตอลโพสต์             
 


   
www resources

โฮมเพจกันตนา
โฮมเพจ โอเรียลทัล โพสท์

   
search resources

กันตนากรุ๊ป, บมจ.
โอเรียนทัล โพสท์, บจก.
Films




ตลาด Post Production รับอานิสงส์ตลาดหนังไทยโต ผู้ผลิตหันเพิ่มคุณภาพ ใช้เทคโนโลยี Digital Intermediate หวังเพิ่มมูลค่าเป็นที่สนใจสายหนังต่างประเทศ ด้านกันตนาประกาศตัวเป็นผู้นำเทคโนโลยีดังกล่าวแบบวันสต็อปเซอร์วิส หนึ่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยลูกค้าผู้ผลิตหนังในฮ่องกงแห่ใช้บริการ 8 เรื่องในปีก่อน ล่าสุดจองคิวอีก 5 เรื่อง คุยเป็นหนึ่งทางเลือกของลูกค้าเทียบชั้น ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

นายบ๊อบบี้ วอง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอเรียลทัล โพสท์ จำกัด ในเครือกันตนา กรุ๊ป ผู้ให้บริการในธุรกิจ Post Production ด้านการตัดต่อและทำเทคนิคพิเศษสำหรับภาพยนตร์เรื่อง และภาพยนตร์โฆษณา ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล เปิดเผยว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เทรนด์ของธุรกิจนี้ในประเทศไทยจะเติบโตสูง เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจภาพยนตร์มีการเติบโตสูง จากจำนวนหนังไทยประมาณ 20 เรื่อง ในปี 2546 เพิ่มเป็น 40 เรื่องในปีนี้ และคาดว่าในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 50 เรื่อง โดยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าคาดว่าตลาดภาพยนตร์ไทยจะมีมูลค่าโตขึ้นอีกราว 40-50% จากยอดขายในประเทศ และสายหนังในตลาดต่างประเทศ

จากเหตุผลดังกล่าว จะส่งผลให้ธุรกิจ Post Production ด้วยระบบ Digital Intermediate(D.I) มีการเติบโตสูงเนื่องจาก ปริมาณหนังที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ผลิตใส่ใจเรื่องคุณภาพ จึงหันมาใช้เทคโนโลยี Digital Intermediate(D.I) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใน การ Post Production ซึ่งจะมีทั้งฟิล์มแล็บ และซาวนด์แล็บ แต่จะได้เพิ่มในเรื่องของความคิด สร้างสรรค์ในแนวใหม่ให้แก่เจ้าของผลงานอย่างไร้ขีดจำกัด ปรับแต่งและแก้ไขได้ในทุกรายละเอียด โดยภาพของผลงานออกมาสมจริง มีคุณภาพเทียบเท่าต้นฉบับ แม้จะเก็บไว้นาน 10-20 ปี

โดยเทคโนโลยี D.I ของบริษัทนับว่าเป็นระบบที่ครบวงจรที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถให้บริการลูกค้าได้แบบวันสต็อปเซอร์วิส ซึ่งเราได้ลงทุนมาตลอดเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมเม็ดเงินราว 200 ล้านบาท ในการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ปัจจุบันมีลูกค้าเจ้าของหนังทั้งไทย และต่างชาติ เข้ามาใช้บริการ ในปี 2546 บริษัทสามารถรับงาน Post Production ได้ประมาณ 10 เรื่อง เป็นหนังจากประเทศฮ่องกง 7-8 เรื่อง และหนังไทย 2 เรื่อง คือ อุกกาบาต และทวารยังหวานอยู่ จากก่อนหน้านี้หากผู้สร้างหนังรายใดต้องการตัดต่อหนังด้วย ระบบ D.I ต้องไปใช้บริการที่ประเทศญี่ปุ่นหรือออสเตรเลีย ซึ่งคิดค่าบริการแพงกว่าไทยถึง 2 เท่า ดังนั้นในปัจจุบันประเทศไทยจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง หากประเทศในภูมิภาคนี้ต้องการส่งหนังมาตัดต่อ ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าในมือถึงปี 2548 อีก 4-5 เรื่อง เป็นลูกค้าจากฮ่องกง และยังมีลูกค้าจากอินโดนีเซีย และไทยอีกจำนวนหนึ่งซึ่งจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ขณะนี้สามารถให้บริการลูกค้าได้ 15 เรื่องต่อปี

นอกจากนั้น บริษัทยังให้บริการตัดต่อด้วยระบบ D.I ในหนังโฆษณาอีกประมาณ 100 เรื่องต่อเดือน จาก 2 ปีก่อน มีประมาณ 70 เรื่องต่อเดือน เป็นลูกค้าทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จีน เป็นต้น โดยตลาดในประเทศ ธุรกิจหนังโฆษณามีมูลค่าราว 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งในที่นี้จะแบ่งเป็นรายได้ที่มาใช้ในส่วนของ Post Production ราว 5-10% บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดนี้อยู่ที่ 50%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us