นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด
(ประเทศไทย) จำกัด หรือเอชพี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้เปิดสำนักงานแห่งใหม่
โดยใช้งบประมาณกว่า 77 ล้านบาท ภายใต้นโยบายในการให้บริการลูกค้าเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด
ตามแนวคิดและนโยบาย Tatal Customer Experience พร้อมกับนำเสนอศูนย์บริการ
5 ศูนย์ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกด้าน
โดยศูนย์บริการทั้ง 5 ศูนย์ประกอบด้วย หนึ่งศูนย์เซอร์วิสเซ็นเตอร์ บริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แก่ลูกค้าเอชพี
จากวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างๆ สามารถเปิดงานให้แก่ลูกค้าเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา
3 นาที และการดำเนินงานซ่อมบำรุงที่สำนักงานใหญ่แห่งนี้สามารถซ่อมเครื่องเสร็จสิ้นภายในระยะ
3 วัน
สองเอชพีดาต้าเซ็นเตอร์เป็นศูนย์ให้บริการแก่ลูกค้าระดับองค์กรที่มีระบบสารสนเทศ
ด้วยระบบสนับสนุนการใช้งานต่างๆ ซึ่งเปรียบเสมือนแบ็กออฟฟิศสำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่
สามเอชพีบิสซิเนสโซลูชั่นเซ็นเตอร์เป็นศูนย์ที่ดูแลลูกค้าระดับกลางถึงเล็กเป็นหลัก
เพื่อการสาธิตเทคโนโลยีและโซลูชั่นสำหรับธุรกิจในหลายๆ รูปแบบ ทั้งที่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก
ขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ และบริษัทคู่ค้า พาร์ตเนอร์ต่างๆ
สี่เอชพีคอลล์เซ็นเตอร์เป็นศูนย์ให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ โดยลูกค้าสามารถติดต่อมายังเอชพี
จะดูแลช่วยตอบปัญหาต่างๆ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของปัญหา โดยจะมีการประสานงานกับศูนย์ที่ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียผ่านคอลล์เซ็นเตอร์นี้โดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้ลูกค้าจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เป็นโทรศัพท์ทางไกลต่างประเทศ และห้าเอชพีเอ็ดดูเคชั่นเซ็นเตอร์
เป็นศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาความรู้ด้านเทคนิคและทักษะในการดำเนินธุรกิจต่างๆ
ให้กับลูกค้าเอชพี แบ่งระบบการเรียนออกเป็น 2 ลักษณะคือเรียนในชั้นเรียน
และการเรียนในระบบอี-เลิร์นนิ่งในระบบนี้สามารถให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
"ภายใต้สำนักงานและศูนย์บริการแห่งนี้จะสามารถรองรับกับธุรกิจใหม่ของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ทางเอชพีเชื่อมั่นว่าสามารถตอบสนองการดำเนินธุรกิจของลูกค้า ให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ"นายเชิดศักดิ์กล่าว
สำหรับทิศทางธุรกิจของเอชพีในปี 2545 เน้นทำตลาดในเรื่องของสตรอเรจและเอาท์ซอสท์มากขึ้น
เนื่องจากแนวโน้มตลาดทางด้านนี้เติบโตสูงตามความต้องการของลูกค้าที่จะใช้บริการ
โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มสื่อสาร ตลาดแมนนูแฟคเจอริ่ง ตลาดทางด้านการศึกษา ทั้งนี้ในการทำตลาดส่วนใหญ่จะเน้นไปคู่กับพาร์ตเนอร์เป็นหลัก
ส่วนความคืบหน้ากรณีการผนวกกิจการระหว่างเอชพีและคอมแพคนั้น ในวันที่ 19
มีนาคม 2545 จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเอชพี และในวันที่ 20 มีนาคา
2545 จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของคอมแพค เพื่อที่จะโหวตว่าจะให้มีการผนวกกิจการด้วยกันหรือไม่
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทั้งสองบริษัทได้มีการตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อทำงานร่วมกันในการวางแผน
ทั้งเรื่องพนักงาน ออฟฟิศ โปรดักส์ การตลาด รวมถึงทิศทางและนโยบายในทุกๆ
ด้าน ซึ่งพร้อมที่จะดำเนินการตามแผนได้ทันที หากมีการอนุมัติรวมกิจการ