|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หุ้นอสมท สรุปราคาจอง 22 บาท กรีนชู 18 ล้านหุ้นให้รายย่อย 13.5 ล้าน สุ่มเลือกผู้จอง 2.7 หมื่นราย ให้รายละ 500 หุ้น ที่เหลืออีก 4.5 ล้าน จัดสรรให้สถาบันในประเทศ "มิ่งขวัญ" ย้ำแผนเดิมเข้าเทรด 17 พ.ย.นี้ ไม่กังวลภาวะตลาดผันผวน หลังยอดจองรายย่อยเกิน 13 เท่า สถาบันเกิน 14 เท่า เชื่อมีรายย่อยอีกมากพร้อมเข้าซื้อหากมีแรงขายออกมา ด้าน "ภัทร" ชี้ 3 ปัจจัยกระทบราคา ภาวะตลาด การตั้งราคา สัดส่วนในการกระจาย
วานนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าบริษัท เซ็ทเทรด ดอทคอม จำกัด ได้สุ่มเลือกผู้ได้รับจัดสรรหุ้นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ที่มีจำนวน 105,643 ใบจอง คิดเป็น 623.227 ล้านหุ้น ซึ่งจากการสุ่มเลือกการจองโดยใช้ใบจองจากการจองในขั้นที่ 1 ที่มีการจองหุ้นระหว่าง 500-4,500 หุ้น มีผู้ที่ได้รับการจัดสรรทั้งหมด 13,599 ใบจอง นอกจากนี้ได้มีการสุ่มเลือกรายชื่อผู้สนใจจองซื้อหุ้นจากการจองซื้อทั้ง 3 ขั้น โดยจะจัดสรรให้รายละ 500 หุ้นจำนวน 27,000 ใบจอง
ทั้งนี้ ยอดการจัดสรรภายหลังรวมการจัดสรรเพิ่มเติม แบ่งเป็นนักลงทุนรายย่อย 61.9 ล้านหุ้น หรือ 44% นักลงทุนสถาบันในประเทศ 41.1 ล้านหุ้น หรือ 30% นักลงทุนสถาบันต่างประเทศ 36 ล้านหุ้น หรือ 26%
นายรองพล เจริญพันธุ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการระดมทุน เปิดเผยว่า คณะกรรมการระดมทุน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงการคลัง อสมท และสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น อสมทที่ราคา หุ้นละ 22 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจความ ต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์ในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้
"เชื่อว่าราคาเสนอขายที่ 22 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับภาวะตลาดในปัจจุบัน ประกอบกับเมื่อพิจารณาจากผลตอบรับจากนักลงทุนสถาบันไทยและต่างประเทศ ที่ให้ความสนใจลงทุนกว่า 14 เท่า และผลตอบรับจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศ ที่ให้ความสนใจหุ้น อสมทเป็นอย่างดี เป็นนักลงทุนสถาบันที่บริษัทฯได้ชี้แจงข้อมูลแบบ one-on-one ระหว่าง Roadshow ได้ตอบรับและจองซื้อหุ้นของบริษัทของบริษัทฯมากกว่าร้อยละ 84 ของจำนวนนักลงทุนที่บริษัทฯได้เข้าพบจำนวนกว่า 31 ราย ทั้งในประเทศไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่สูงมาก" นายรองพลกล่าว
การจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (กรีนชูออปชัน)จำนวน 18 ล้านหุ้น เพื่อจัดสรรเพิ่มเติมให้แก่นักลงทุน โดยแบ่งการจัดสรรเป็น 2 ส่วนดังนี้ จัดสรรให้แก่ผู้จองซื้อรายย่อยในประเทศจำนวน 13.5 ล้านหุ้น และอีก 4.5 ล้านหุ้น จัดสรรให้นักลงทุนสถาบันในประเทศ
สำหรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มเติมจำนวน 13.5 ล้านหุ้น ให้แก่นักลงทุนรายย่อยจะจัดสรรแก่ผู้จองซื้อ สำหรับหุ้นในขั้นที่ 1 ซึ่งมิได้รับการสุ่มเลือกในครั้งแรก โดยจะสุ่มเลือกผู้จองซื้อเพื่อเติมจำนวน 27,000 ราย ซึ่งจะจัดสรรให้รายละ 500 หุ้น ทำให้การเสนอขายหุ้นของ อสมท ครั้งนี้เมื่อรวมหุ้นจัดสรรส่วนเกินแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 139 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 3,058 ล้านบาท
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บล.ภัทร เปิดเผยว่า หุ้นอสมท จะสามารถยืนเหนือราคาจองได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดในขณะนั้น เพราะการตั้งราคาถือว่าเป็นการตั้งราคาที่เหมาะสมแล้ว ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะเข้ามากระทบต่อราคาหุ้นหลังการเข้าตลาดหลักทรัพย์ ประกอบด้วย 3 เรื่อง 1. ภาวะตลาด 2. การตั้งราคา 3. สัดส่วนในการกระจาย
"ในส่วนของการคืนหุ้นบริษัทจะใช้วิธีตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ โดยจะมีการคืนหุ้นภายใน 27 วันหลังจากที่หุ้นเข้าซื้อขายในวันแรก ส่วนการคืนหุ้นจะใช้วิธีหากราคาหุ้นต่ำกว่าราคาเสนอขาย บริษัทจะส่งคืนเป็นหุ้น แต่หากราคาหุ้นสูงกว่าราคาที่เสนอขายบริษัทจะจ่ายเงินเท่าราคาจอง" นาย แมนพงศ์ กล่าว
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวว่า แม้ภาวะตลาดหุ้นจะมีความผันผวน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใดเพราะความต้องการซื้อจากนักลงทุนรายย่อยสูงถึง 13 เท่า ในขณะที่นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ สนใจจองซื้อเข้ามาถึง 14 เท่า ประกอบกับเชื่อมั่นว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทดี โดยปัจจุบันบริษัทมีสินค้า ถึง 6 ตัวที่เป็นรายได้ของบริษัท ประกอบกับผลประกอบการ 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในระดับน่าพอใจมีกำไรสูงกว่าผลกำไรในอดีตส่วนความกังวลของราคาในการเข้าทำการซื้อขายในวันแรกนั้น ไม่กังวลว่ารายย่อยจะขายออกมาวันแรก
"ยังเดินหน้าตามแผนเดิมคือเข้าเทรดวันที่ 17 พ.ย.แม้ภาวะตลาดจะไม่เอื้ออำนวย เพราะเชื่อว่านักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่ยังคงพร้อมที่จะเข้ามาซื้อหุ้นในส่วนดังกล่าว"
|
|
|
|
|