เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ฤกษ์ส่งมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ "เจิ้งต้า" (เจียไต๋) เขย่าตลาดชนชั้นกลางแดนมังกร ตั้งเป้าผลิต 800,000 คันต่อปี หรือมีรายได้รวม 16,000 ล้านบาทต่อปี ย้ำขอเน้นเอาดีในธุรกิจที่ครองตลาดอยู่ทั้งอาหาร มอเตอร์ไซค์ และค้าปลีก
นายธนากร เสรีบุรี รองประธานกรรมการบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) ให้สัมภาษณ์ระหว่างการร่วมงานแสดงสินค้าไชน่า-อาเซียน เอกซ์โป ที่เมืองหนันหนิง ในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง กว่างซี ถึงแผนการเจาะตลาดมังกรระลอกใหม่ว่า ซีพีเพิ่งส่งมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ "เจิ้งต้า" บุกตลาดชนชั้นกลางแถบชายฝั่งของจีนในเดือนพ.ย.นี้ ด้วยกำลังการผลิต 800,000 คันต่อปี จากโรงงานผลิตที่ลั่วหยังในมณฑลเหอหนัน และกวางเจาในมณฑลกว่างตง โดยร่วมทุนกับคู่หุ้นส่วนชาวจีน ในสัดส่วน 55-45 และมีซีพีเป็นผู้กุมบังเหียนการบริหารทั้งหมด
นายธนากรชี้ถึงเหตุผลที่ส่งมอเตอร์ไซค์เจาะตลาดที่สูงขึ้นว่า จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคจีนพบว่ามีลูกค้า 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งต้องการซื้อสินค้าราคาถูก ซึ่งทางซีพีก็ได้ออกมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อต้าหยังรุกตลาดในชนบทไปเมื่อปี 1992 ขณะที่ยังมีอีกกลุ่มต้องการสินค้าคุณภาพดี ราคาสูงพอประมาณ ดังนั้น ซีพีจึงส่งรถมอเตอร์ไซค์คุณภาพสูงขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคนี้ที่มีฐานะดี สนนราคาอยู่ที่ราว 4,000 หยวน (20,000 บาท) ต่อคัน ดังนั้นถ้าขายปีละ 800,000 คัน บริษัทจะมีรายได้รวม 16,000 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ นายใหญ่เครือซีพียังได้เผยถึงทิศทางการค้าในอนาคตของบริษัทบนแดนมังกรว่า จะขยายธุรกิจที่ได้เปรียบในจีนอยู่แล้ว สำหรับการขยายธุรกิจมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 1985 คาดว่าภายในปี 2010 จะเพิ่มยอดผลิตเป็น 3 ล้านคันต่อปี ซึ่งรองประธานกรรมการเครือซีพีมองว่า จีนเป็นตลาดมอเตอร์ไซค์ขนาดมหึมา ทั้งยังมีกำลังการผลิตสูงถึง 15 ล้านคันต่อปี โดยเชื่อว่าในอนาคต จะมีโอกาสขยายเป็นปีละ 50 ล้านคัน ได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการวิเคราะห์ว่า เมื่อชาวจีนมีรายได้จีดีพีเฉลี่ยต่อหัวถึง 3,000 หยวน (15,000 บาท) กราฟอัตราจำหน่ายมอเตอร์ไซค์จะมีแนวโน้มลดลง โดยคนจะหันไปซื้อรถยนต์มากขึ้น แต่นายธนากรระบุว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายปี และคาดว่ายังสามารถทำกำไรไปได้อีกถึงราว 20 ปี
ส่วนมูลค่าของการลงทุนให้บรรลุยอดการผลิต 3 ล้านคันต่อปีนั้น ขึ้นอยู่กับการผลิตชิ้นส่วน หากต้องผลิตเองมาก ก็ต้องลงทุนมาก แต่ถ้ามีผู้ผลิตที่ดีอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องผลิตแข่ง สามารถซื้อจากซัปพลายเออร์เหล่านี้แทนได้ ซึ่งประเมินว่า หนึ่งล้านคันน่าจะต้องใช้เงินทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ซีพียังเตรียมตั้งทีมศึกษา เพื่อตั้งโรงงานขนาดเล็กผลิตรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อเจิ้งต้า ในประเทศไทยด้วย
นอกจากธุรกิจมอเตอร์ไซค์แล้ว ซีพียังให้น้ำหนักแก่ธุรกิจด้านอาหาร เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งด้านการเพาะเลี้ยงไก่ วัว และอาหารสัตว์ โดยตั้งเป้าว่าจะขอขึ้นแท่นเป็นครัวของโลก
อีกธุรกิจหนึ่งที่ซีพีจะเดินเครื่องขยาย คือ ธุรกิจค้าปลีก โดยปัจจุบัน ห้างโลตัสประสบความสำเร็จอย่างมากในการเข้าเจาะเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางทางการเงินของจีนกว่า 10 แห่ง และถือเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในนครแห่งนี้ด้วยยอดจำหน่าย 1 ล้านหยวนต่อวัน
ปัจจุบัน โลตัสหยั่งรากในจีนทั้งสิ้นแล้ว 37 แห่ง และอยู่ในระหว่างก่อสร้างอีก 10 กว่าแห่ง คาดว่าราวต้นปีหน้าจะแตะ 50 และเพิ่มเป็น 100 แห่งใน ปี 2006
|