|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จีสตีลยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯให้ทันปลายปีนี้ หวังระดมทุน 6 พันล้านบาท มาใช้ขยายโรงเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน รองรับความต้องการใช้เหล็กแผ่นฯในประเทศที่ยังต้องนำเข้าอยู่
นายชโลธร ลีลามะลิ รองผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท จีสตีล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทได้ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯให้ทันภายในปีนี้ หรืออย่างช้าภายในไตรมาส 1/48 โดยตั้งเป้าหมายว่าจะระดมทุนได้ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6 พันล้านบาท
โดยจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ไปขยายกำลังการผลิต เหล็กแผ่นรีดร้อนเพิ่มจากเดิมปีละ 1.8 ล้านตัน เป็น 3.4 ล้านตัน คาดว่าจะดำเนินการส่วนขยายแล้วเสร็จภายในปลายปี 49 และจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 4.7 ล้านตันในปี 2550 เพื่อรองรับความต้องการใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนที่มีส่วนเกินอยู่ในประเทศ คาดว่าใช้เงินลงทุนส่วนขยายเป็น 3.4 ล้านตัน ประมาณ 350 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท
สำหรับแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมอีก 200 ล้านเหรียญสหรัฐ จะมาจากกู้ยืมสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 0.20: 1 เท่า เป็น 0.80: 1 เท่า และราคามูลค่าตามบัญชี อยู่ที่ 1.70 บาท
ปัจจุบันบริษัทฯไม่มีภาระหนี้สินเงินกู้ระยะยาว คงมีเพียงหนี้การค้าอยู่ 1.2 พันล้านบาท เนื่องจากกลางปี 46 บริษัทได้เพิ่มทุนโดยนำหุ้นจำนวน 2.7 พันล้านหุ้นขายชำระหนี้ทั้งหมดแบบเฉพาะเจาะจง (พีพี) โดยตีมูลค่าหุ้นไว้ 1.60 บาท ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ ไม่มีภาระหนี้สินเหลืออยู่
ตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนปัจจุบันยังมีความต้องการสูงขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 6 พันล้านบาท
นายชโลธรกล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโรงถลุงเหล็ก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาพาร์ตเนอร์ต่างชาติ 2 ราย คือญี่ปุ่นและจีน ซึ่งคาดว่าจะใช้อีกระยะหนึ่งจึงจะได้ข้อสรุป
ก่อนหน้านี้ จีสตีลได้เข้ามายื่นแผนการตั้งโรงงานถลุงเหล็ก ที่นิคมฯ อุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท โดยขอให้รัฐสนับสนุนการก่อสร้างเส้นทางรถไฟขนส่งเพื่อรองรับการขนวัตถุดิบมูลค่า 6,000 กว่าล้านบาท แต่สมัยนายพินิจ จารุสมบัติ ได้ปฏิเสธช่วยเหลือ
|
|
|
|
|