หุ้น อสมท สุดร้อนประชาชนแห่ไปเข้าคิวจองซื้อมืดฟ้ามัวดินคึกคักตั้งแต่เหนือจดใต้ มีทั้งชาวเขา ยัน 3 จังหวัดชายแดนใต้-ตากใบยังออกมาจอง ส่งผลยอดจองทะลุกว่า 626 ล้านหุ้น จาก 1.55 แสนใบจอง เกินกว่า 13 เท่า ฟันธงราคาจองสุดท้าย 22 บาท รู้ผลสุ่มเลือก 9 พ.ย. ใครได้บ้าง ขณะที่ราคานอกตลาดฯทะยานไปที่ 28-30 บาทใช้บิ๊กล็อตเทรดวันแรกกระตุ้นหุ้นในตัว โบรกฯมองรอลุ้นกระตุ้นกลุ่มบันเทิง

วานนี้ (4 พ.ย.) บมจ.อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ได้เปิดให้ประชาชนจองซื้อหุ้นตั้งแต่เวลา 9.00 น. ที่ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจจากประชาชนและนักลงทุนเป็นจำนวนมาก มีการไปรอเข้าคิวจองซื้อตั้งแต่เช้าตรู่ เรียกว่าบรรยากาศการจองซื้อคึกคักไปทั่วประเทศ ตั้งแต่เหนือจดใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีกลุ่มข้าราชการ/ ราชการบำนาญ และกลุ่มพ่อค้าในพื้นที่สนใจเข้ามาซื้อหุ้น อสมท มากพอสมควร โดยชาวไทยภูเขาก็มีความสนใจต้องการซื้อด้วย จังหวัดเชียงใหม่ประชาชนก็ให้ความสนใจจองหุ้น อสมท เป็นจำนวนมาก ถัดลงมาในจังหวัดพิษณุโลกมียอดจองสูงกว่า 600 รายในจังหวัด แม้แต่ที่สาขาธนาคารกรุงไทย ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ยังมีผู้มาจองซื้อหุ้นรวมเป็นวงเงินราว 30 ล้านบาท ทั้งคนไทยพุทธ และมุสลิม แต่ไทยมุสลิมมีประมาณร้อยละ 10 ส่วนที่สาขาตากใบ ก็พบว่ามียอดจองเข้ามามากพอสมควร

นายพงศธร ศิริโยธิน รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้รับจองหุ้นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วานนี้การจองหุ้นอสมท ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้มีการเข้าคิวจองซื้อหุ้นตั้งแต่เช้าอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปิดรับจองเมื่อเวลา 16.30 น. ปรากฏว่ามียอดการจองหุ้นอย่างไม่เป็นทางการทั่วประเทศ 626.5 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนใบจอง 1.55 แสนใบ หรือจำนวน 13 เท่า ซึ่งหลังจากนี้ธนาคารจะทำการตรวจสอบเอกสารใบจอง ก่อนรวบรวมข้อมูลส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 8 พ.ย. เพื่อทำการสุ่มเลือกนักลงทุนที่ได้รับจองหุ้น ในส่วนของประชาชนที่ไม่ได้รับการจัดสรรหุ้นครั้งนี้ ธนาคารจะคืนเงินภายในวันที่ 18 พ.ย.

นอกตลาดพุ่ง 28-30 บาท

แหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการตกลงซื้อหุ้น อสมท ของกองทุนต่างๆ นอกตลาดที่ 28 บาท จากราคาจองที่คาดว่าน่าจะได้ที่ราคาสูงสุด 22 บาท เพราะนักลงทุนให้ความสนใจค่อนข้างมาก โดยการตกลงซื้อขายหุ้นไอพีโอนอกตลาดในลักษณะนี้ จะปรากฏให้เห็นผ่านกระดานซื้อขายรายการใหญ่ (Big lot) ในวันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขาย ซึ่งถือว่าเป็นการกระตุ้นราคาหุ้นได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะเป็นเหมือนราคาอ้างอิงที่แสดงถึงความสนใจและการประเมินมูลค่าหุ้นของกองทุน

แหล่งข่าวมาร์เกตติ้ง กล่าวว่า ที่ผ่านมายอมรับว่ามีการขายหุ้นบางส่วนออกมาเพื่อนำเงินไปจองซื้อหุ้นอสมท ทั้งนี้ราคานอกตลาดมีการตกลงซื้อขายที่ระดับ 28-30 บาท โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าในวันที่ อสมท เข้าทำการซื้อขายราคาจะปรับตัวสูงขึ้นเหนือราคาจองอย่างแน่นอน

"นักลงทุนเชื่อว่าราคาเปิดน่าจะเหนือจองเหมือนหุ้นไทยออยล์ ซึ่งราคาขณะนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 35-40% จากราคาจอง ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่าราคาหุ้นอสมท ก็น่าจะขึ้นได้ในระดับเดียวกัน" แหล่งข่าวมาร์เกตติ้งกล่าว

ลุ้นปลุกหุ้นบันเทิงฯ

นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง กล่าวถึง ภาพรวมของหุ้นในกลุ่มบันเทิงและสันทนาการว่า กลุ่มดังกล่าวยังมีความน่าสนใจในการลงทุน ทั้งนี้นักลงทุนต้องเลือกลงทุนเป็นรายตัวที่มีพื้นฐานดี โดยหลายตัวราคามีการปรับลงมามากแล้ว เช่น WORK, MAJOR, GRAMMY, GMMM, MEDIAS, UBC และ BEC

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ กลุ่มบันเทิงและสันทนาการอาจไม่มีความสนใจมากนัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่มีอะไรหวือหวา มีอัตราการเติบโตเรื่อยๆ จึงทำให้ความน่าสนใจยังไม่มาก

ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่าหุ้นอสมท จะได้รับผลกระทบจากการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ กล่าวว่าไม่น่าจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มประกอบการโทรทัศน์มากนัก และเชื่อว่ากลุ่มดังกล่าว เช่น ITV, UBC หรือ BEC ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ชัดเจนในธุรกิจโทรทัศน์ ไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ดำเนินธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ไม่ต่างกัน ความน่าสนใจจึงไม่ต่างกัน

สำหรับภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (4 พ.ย.) ในช่วงเปิดตลาดดัชนีปรับตัวขึ้นก่อนจะแกว่งตัวในกรอบแคบสลับทั้งในแดนลบและบวกก่อนปิดที่ระดับ 639.13 จุด ลดลง 2.16 จุด จุดสูงสุดของวันอยู่ที่ระดับ 644.17 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 636.87 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16,382.21 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 897.96 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 994.71 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 96.76 ล้านบาท

บล.บีฟิท ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผันผวน นักลงทุนควรเลือกลงทุนหุ้นพื้นฐานดี แม้ช่วงนี้กลุ่มพลังงานดูจะกลับมาคึกคัก หุ้นที่ยังน่าสนใจกลุ่มนี้ BANPU, PTT, RATCH ยังน่าลงทุน ขณะที่ปิโตรเคมี ATC, NPC, TOC และเดินเรือ TTA ก็ยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง