ศาลปกครอง สั่งรับคำร้องคดี "วิโรจน์" ฟ้องธปท.-อุ๋ย พร้อมแจ้งคู่กรณีแจงหักล้างข้อกล่าวหาภายใน 30 วัน ด้านทนายเตรียมยื่นเพิ่มขอให้ชะลอตั้งเอ็มดีคนใหม่ และเรียกแบงก์กรุงไทยร่วมเป็นคู่กรณี ขณะที่ขุนคลังยันไม่กระทบกระบวนการสรรหาเอ็มดีคนใหม่ มั่นใจ "อภิศักดิ์" เริ่มงานเร็วๆ นี้ ด้านสหภาพฯ หยุดการเคลื่อนไหว หลังกระทรวงการคลังอนุมัติจ่ายโบนัสพิเศษ

วานนี้ (3 พ.ย.) ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับคำฟ้องของนาย วิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการ ผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ได้มีการฟ้องธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธปท.ไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีปกครองที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง

โดยประเด็นที่นายวิโรจน์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ประกอบด้วย 1. ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ฉบับวันที่ 27 ก.ค.47 เรื่องประกาศธปท.เรื่องคุณสมบัติผู้บริหารสถาบันการเงินให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีผลบังคับ และสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 คือ ธปท. และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 คือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการ ธปท. ละเว้นการกระทำในลักษณะเดียวกัน

2. ขอให้ ธปท.เพิกถอนคำสั่ง ธปท. สกส (02) 1691/2547 ลงวันที่ 7 ต.ค.47 เกี่ยวกับการแต่งตั้งนายวิโรจน์ เป็นกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เนื่องจากขาดคุณสมบัติของ ธปท. และไม่ให้ธปท.ดำเนินการในลักษณะนี้อีก

3.ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่นายวิโรจน์ ฐานทำให้สูญเสียรายได้ที่พึงจะได้รับจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการในอีก 3 ปีข้างหน้าจำนวน 51,233,314 บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น

4.ขอให้สั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้แก่นายวิโรจน์ฐานทำให้เสียชื่อเสียงเกียรติยศอีกจำนวน 150 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้นนับจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าผู้ถูกฟ้องจะชำระค่าเสียหายให้กับผู้ฟ้องคดีเสร็จสิ้น และ 5.ให้ผู้ถูกฟ้องร้องร่วมกันและแทนกันชำระค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีทั้งหมด

ทั้งนี้ หลังศาลมีคำสั่งรับฟ้องแล้วได้ส่งสำเนาฟ้องให้ธปท.และม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยื่นคำให้การกลับมายังศาลฯภายใน 30 วัน โดยตามกฎหมายแล้วหากผู้ถูกฟ้องไม่สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่กำหนดก็สามารถขอขยายระยะเวลาการยื่นคำให้การต่อศาลได้

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากทีมทนายความของนายวิโรจน์ว่า หลังศาลมีคำสั่งรับฟ้องแล้วจะได้มีการหารือกับนายวิโรจน์เพื่อเตรียมที่จะยื่นคำร้องต่อศาลฯเพิ่มเติมในอีก 3 ประเด็นคือ 1.ขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกธนาคารกรุงไทยมาเป็นคู่กรณี 2.ขอให้ศาลมีคำสั่งให้บอร์ดธนาคารกรุงไทยชะลอการสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่แทนนายวิโรจน์ 3.ขอให้ศาลมีคำบรรเทาทุกข์ชั่วคราวคือให้มีการงดการปฏิบัติตามกฎหรือประกาศของผู้ถูกฟ้องคดี ทั้ง 2 จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวถึง กรณีที่นายวิโรจน์ ยื่นต่อศาลปกครองให้ชะลอการแต่งตั้งนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย เป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยคนใหม่ ว่าเป็นสิทธิ์ที่นายวิโรจน์สามารถดำเนินการได้ แต่จะไม่กระทบต่อกระบวน การสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ เนื่องจากเหลือเพียงขั้นตอนการเจรจาต่อรองเงินเดือนเท่านั้น ซึ่งใกล้จะเรียบร้อยแล้ว และคาดว่านายอภิศักดิ์จะเข้ามาทำงานได้ภายในไม่ช้านี้

ส่วนประเด็นที่กังวลว่า พนักงานธนาคารบางส่วนไม่พอใจที่นายอภิศักดิ์จะมาเป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารคนใหม่นั้น นายสมคิด กล่าวว่า คิดว่าทุกคนต่างทำเพื่อองค์กรทั้งนั้น ซึ่งนายอภิศักดิ์ถือว่าเป็นบุคคลที่ดี มีความสามารถ ขณะที่เรื่องโบนัสพิเศษของพนักงาน เป็นเรื่องของคณะกรรมการธนาคารที่จะต้องดำเนินการให้เรียบร้อย

ด้านนางสุมนา วงษ์กะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงานทรัพยากรบุคคลและสนับสนุนองค์กร ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า กระทรวงการคลังอนุมัติจ่ายเงินตอบแทนพิเศษประจำปี 2546 ให้พนักงานธนาคารกรุงไทยคนละ 1 เดือน โดยพิจารณาเปรียบเทียบจากเกณฑ์เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และผลการดำเนินงานของธนาคารที่มีกำไรสุทธิกว่า 8,700 ล้านบาท

สหภาพฯยุติข้อเรียกร้อง-หนุนเอ็มดีใหม่

นายปรีชา นวปราการ ประธานสหภาพพนักงานธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ข้อเรียกร้องขอโบนัสพิเศษถือว่าจบสิ้นแล้ว แม้ว่าวานนี้ (3 พ.ย.) จะมีพนักงานบางส่วนแต่งชุดดำเพื่อเรียกร้องเรื่องดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ทราบเรื่องที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้จ่ายโบนัส ดังนั้นสหภาพฯ จะยุติการเรียกร้องและไม่ดำเนินการใดๆ ในเรื่องนี้อีก

สำหรับประเด็นที่นายอภิศักดิ์ จะเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการแทนนายวิโรจน์ นั้น หากเข้ามาถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร รวมทั้งสามารถปฏิบัติตามกรอบของธนาคารได้คงไม่น่าที่จะมีปัญหาอะไร สหภาพฯพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ