Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 กุมภาพันธ์ 2545
ปูนฯชินฯปตท.องค์กร‘เยี่ยม’บริหารบุคคล             
 


   
search resources

ชินคอร์ปอเรชั่น, บมจ.
เครือซิเมนต์ไทย
ปตท., บมจ.




สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการสำรวจความคิดของบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับภาพพจน์และการบริหารงานบุคคลบริษัทในประเทศไทย เพื่อทำการจัดอันดับบริษัทของไทยภายใต้หัวข้อต่อไปนี้ 1. บริษัทที่เป็นองค์กรชั้นนำที่ดีที่สุดในประเทศไทย 2. บริษัทที่ให้ความสำคัญกับงานบริหารและพัฒนาบุคลากรมากที่สุด 3. บริษัทที่มีบุคลากรที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด 4. บริษัทที่มีหน่วยงานบริหารงานบุคคลที่มีคุณภาพมากที่สุด 5. บริษัทที่สามารฝ่าฟันวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ดีที่สุด

ทั้งนี้จากการสำรวจ พบว่า บริษัทที่ได้คะแนนเฉลี่ยทุกด้านสูงสุด ได้แก่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทที่ได้คะแนนในอันดับรองลงมา ได้แก่ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด สำหรับบริษัทอื่น ๆ ที่มีคะแนนอยู่ใน 10 อันดับแรก ไม่ว่าจัดด้วยคะแนนรวมทุกด้าน หรือคะแนนเฉพาะด้านอื่น ๆ ก็ล้วนแต่เป็นบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงของประเทศ ทำให้ผลการสำรวจครั้งนี้ มิได้พลิกความคาดหมายแต่อย่างใด

ผลจากการสำรวจดังกล่าว นายทายาท ศรีปลั่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัทสัน ไวแอท (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารงานบุคคล ตั้งข้อสังเกตถึงคุณสมบัติโดยรวมของบริษัทที่เป็น “ท็อปเทน” ของไทยเหล่านี้ว่า ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ มีพนักงานจำนวนมาก มีการดำเนินงานในประเทศมาเป็นเวลาค่อนข้างนาน

นอกจากนี้ ฝ่ายบุคคลของบริษัทเหล่านี้ยังค่อนข้างมีบทบาทสำคัญในการพัฒนามาตรฐานงานบุคคลในประเทศทั้งในรูปของกิจกรรมในงานวิชาชีพ การเข้าร่วมสัมมนาและการเผยแพร่ความรู้และการเปิดให้บริษัทอื่นเข้าไปเยี่ยมชมกิจการของตนเอง ที่สำคัญ ผู้บริหารบุคคลมีความตื่นตัวในการเรียนรู้ และมีการนำเอาวิทยาการใหม่ๆ มาใช้ มีการติดต่อกับบริษัทข้ามชาติทั้งที่อยู่ในและนอกประเทศมีการเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า บริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งมีวิศวกรในสายงานวิศวกรรมกลับให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากรมากกว่าบริษัทในกลุ่มธุรกิจบริการ เช่น ธนาคาร, บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ซึ่งบุคลากรจำเป็นจะต้องมีความรู้ความสามารถสูง มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ นายทายาทได้ชี้ว่า ความขัดแย้งข้อนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงที่สำคัญอันเป็นสาเหตุที่ทำให้หลาย ๆ องค์กรในภาคบริการพบกับภาวะล้มละลาย หรือเป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำนั่นคือ การขาดความใส่ใจที่จะพัฒนาบุคลากรของตนซึ่งเป็นกลจักรสำคัญที่สุดขององค์กรในกลุ่มธุรกิจให้บริการ องค์กรในภาคอุตสาหกรรมถึงแม้จะได้รับผลพวงจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แต่กลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่า เนื่องจากได้มีการพัฒนาบุคลากรอยู่อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ องค์กรในกลุ่มบริการยังมีการจัดจ้างบุคลากรในระดับปริญญาโทและผู้จบการศึกษาจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากและบุคลากรเหล่านั้นมีความก้าวหน้าในตำแหน่งงานอย่างรวดเร็วจนเกินไปจนขาดความเชี่ยวชาญและช่ำชองในงานที่ตนทำ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรกลุ่มบริการให้ความสำคัญกับใบปริญญาความหรูหรา ปัจจัยนอกกายอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ผลงานหรือความมานะบากบั่นของพนักงาน

“วัฒนธรรมองค์กรในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่วนเวียนอยู่กับภาพลวงตาของความฟุ้งเฟ้อและความสำเร็จในระยะสั้น มีการจ่ายเงินเดือนและโบนัสเป็นจำนวนมากให้กับพนักงานที่มีปริญญาหรือนามสกุลดี ๆ ค่อนข้างมาก ถึงแม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีผลงานที่ค่อนข้างน้อยภาวะของการให้ค่าตอบแทนเกินจริงก่อให้เกิดความแตกแยกต่อองค์กร ต่อทีมงาน มีความขัดแย้งระหว่างคนทำงานได้จริงกับคนทำงานแบบฉาบฉวย”

หากจะมีคำถามว่า วงจรอุบาทว์หรือค่านิยมอันนี้ในปัจจุบันได้หมดสิ้นไปหรือได้เจือจางลงหรือไม่หลังจากได้รับบทเรียนที่ขื่นขมที่สุดของกรุงรัตนโกสินทร์ นายทายาทให้ความเห็นว่า ยังอีกนาน เว้นแต่ภาวะการตกต่ำทางเศรษฐกิจจะเกิดต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 5 ปี ค่านิยมของบ้านเราในเรื่องนี้อาจลดน้อยลงไปได้บ้าง

จากการดำเนินการสำรวจในครั้งนี้ ยังพบด้วยว่า ทักษะความสามารถของนักบริหารงานบุคคลที่กลุ่มตัวอย่างเห็นว่ามีความสำคัญที่สุดได้แก่ การคิดอย่างมีกลยุทธ์ และการจัดการกับความเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ทักษะความสามารถทั้งสองด้านนี้ เป็นสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าพัฒนาให้เกิดขึ้นได้ยากที่สุดเช่นกัน

บริษัทที่บุคคลทั่วไปเห็นว่าเป็นองค์กรชั้นนำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

1. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

2. บริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด

3. บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

4. บริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

5. กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์

6. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

7. บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

8. บริษัท เทเลคอมเอเชีย จำกัด

9. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด

10. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

บริษัทที่บุคคลทั่วไปเห็นว่าสามารถฝ่าฝันวิกฤตทางเศรษฐกิจได้ดีที่สุดในประเทศไทย

1. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

2. บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

3. กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์

4. บริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด

5. บริษัท เทเลคอมเอเชีย จำกัด

6. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด

7. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

8. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

9. บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

10. บริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us