บีโอไอ.โชว์รูปแบบส่งเสริมลงทุนใหม่ จัดระบบข้อมูลเฉพาะรายจังหวัดเผยแพร่ในเว็บไซต์สู่เป้าหมายนักลงทุนทั่วโลก
เผยในเบื้องต้นนำร่องก่อน 18 จังหวัดในเขต 3 วางเป้าหมายปี 46 ทำครบทั้ง 76 จังหวัด
ชี้ผลตอบรับเกินคาดมีนักลงทุนเข้าชมแล้วเกือบ 7 พันราย ด้านนักลงทุนภูมิภาคติงข้อมูลที่เผยแพร่ยังล่าช้าต่อการใช้ตัดสินใจลงทุนได้จริง
น.ส.วรุบล สุขเกษม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนภูมิภาค สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
(บีโอไอ.) เปิดเผย ผู้จัดการรายวัน ถึงโครงการระบบฐานข้อมูลสารานุกรมด้านการลงทุนภูมิภาคระยะที่
2 ว่า บีโอไอ.ได้จัดทำข้อมูลทั่วไปรายจังหวัด เผยแพร่ในเว็บไซต์ www.investmentthailand.
com เผยแพร่ให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่มีเป้าหมายลงทุนในประเทศไทย ใช้เป็นฐานข้อมูลตัดสินใจด้านการลงทุน
การทำเว็บไซต์ดังกล่าวได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่มีข้อมูลเฉพาะส่วนของแต่ละหน่วยงานอยู่แล้ว
นำมาจัดเป็นหมวดหมู่รวมไว้ อาทิ ข้อมูลโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ
โครงสร้างอุตสาหกรรม ข้อมูลบริการและการท่องเที่ยว ข้อมูลพื้นฐานทางสังคม ฯลฯ
น.ส.วรุบลกล่าวว่า เป้าหมายหลักเพื่อต้องการอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
สามารถใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนในจังหวัดเป้าหมายได้ ขณะเดียวกันเป็นการประชาสัมพันธ์จังหวัดต่างๆที่ล้วนมีศักยภาพที่แตกต่างกันให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วทุกมุมโลก
โดยไร้ข้อจำกัดด้านเวลา
ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศที่สนใจลงทุนในประเทศไทย ประสบปัญหาในการเข้าถึงข้อมูล
เพราะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งค่าโทรศัพท์ และต้องเดินทางมาถึงประเทศไทย
เพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูล อีกทั้งข้อมูลแต่ละด้านอยู่กระจัดกระจาย นักลงทุนจึงไม่สะดวกนักต่อการรวบรวมข้อมูลให้ครอบคลุมทุกด้านที่ต้องการ
ผอ.กองส่งเสริมการลงทุนภูมิภาคกล่าวต่อว่า กระแสตอบรับจากเว็บไซต์ดังกล่าว หลังจากเปิดตัวมาตั้งแต่
8 พฤศจิกายน 2544 พบว่าประสบผลสำเร็จน่าพอใจ จนถึงขณะนี้มีผู้เข้าเยี่ยมชมแล้วถึง
257,316 ครั้ง เฉลี่ยการเข้าชมวันละ 1,837 ครั้ง ทั้งนี้หากคิดเป็นจำนวนผู้เข้าชมมีจำนวนถึง
6,623 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 47 รายต่อวัน โดยวันพุธมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุด และเวลา
11.00-11.59น. เป็นช่วงเวลาที่นิยมเข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในแต่ละวัน
เป้าหมายที่บีโอไอ.กำหนดไว้ จะดำเนินการจัดระบบข้อมูลให้ครบ 76 จังหวัดทั่วประเทศ
แต่ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณในระยะเริ่มต้นจึงสามารถดำเนินการได้เพียง 18 จังหวัด
เน้นพื้นที่ส่งเสริมการลงทุนเขต 3 ก่อน ประกอบด้วยชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่
ลำพูน ลำปาง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มุกดาหาร สงขลา
ตรัง ปัตตานี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช
ส่วนจังหวัดที่เหลือ บีโอไอ.อยู่ระหว่างดำเนินการประสานงานเพื่อจัดทำฐานข้อมูลเพิ่มเติม
โดยภายในปี 2545 นี้ จะดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลรายจังหวัดเพิ่มขึ้น 12 จังหวัด
และจะครบทั้ง 76 จังหวัดภายในปี 2546
ด้านนายสุรพล ทวีแสงสกุลไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงการจัดทำเว็บไซต์ส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ.ว่า
เป็นวิธีการที่ดี เพราะที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดการรวบรวมข้อมูลที่ใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เผยแพร่ในระยะแรก จากการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ดังกล่าว
พบว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ทันสมัยเท่าที่ควร ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลพื้นฐานระหว่างปี 2542-2543
คงไม่สามารถใช้ประดยชน์ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะถ้าจะตัดสินใจลงทุนจะต้องใช้ข้อมูลในเชิงลึกมากกว่านี้
ซึ่งนักลงทุนอาจต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางมาสืบค้นข้อมูลเองได้
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่นกล่าวต่อว่า การจัดทำข้อมูลของบีโอไอ.เชื่อว่าในอนาคตจะมีการปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัยมากขึ้น
เพราะในช่วงเริ่มต้นอาจประสบปัญหาการประสานและรวบรวมข้อมูล งานด้านข้อมูลดังกล่าว
บีโอไอ.ควรให้ความสำคัญและต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบฐานข้อมูลที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ใช้ประกอบตัดสินใจการลงทุนได้อย่างแท้จริง