|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
Q-CON ตั้งบริษัทย่อย "คิว-คอน อีสเทอร์น" มูลค่าลงทุนกว่า 800 ล้านบาท คาดสามารถเริ่มผลิตสินค้าป้อนตลาดได้ภายในไตรมาส 3 ปี48 รองรับแผนการผลิตป้อนตลาด 9-10 ล้านตารางเมตร ดันยอดขายปีหน้า พุ่ง 2-2.2 พันล้านบาท
นายพยนต์ ศักดิ์เดชยนต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) (Q-CON) เปิดเผยว่า มติที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2547 ของบริษัท เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547ว่าได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อย จำนวน 1 บริษัท นั้น ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยบริษัทดังกล่าวชื่อ บริษัท คิว-คอน อีสเทอร์น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547 ทะเบียนเลขที่ 0147354700659 มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท แบ่งเป็น 10 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท ทุนชำระแล้ว 75 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้นในบริษัทย่อยในสัดส่วน 99.99%
สำหรับผู้ถือหุ้นประกอบด้วย บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 9,999,993 หุ้น นายอนันต์ อัศวโภคิน 1 หุ้น นายพงส์ สารสิน 1 หุ้น นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ 1 หุ้น นายจุมพล มีสุข 1 หุ้น นายชัยรัตน์ธรรมพีร 1 หุ้น นายพยนต์ ศักดิ์เดชยนต์ 1 หุ้น นายอดิศักดิ์อธิราษฎร์กูล 1 หุ้น รวม 10 ล้านหุ้น
ขณะที่รายชื่อคณะกรรมการบริษัท มีดังนี้ นายอนันต์ อัศวโภคิน นายพงส์ สารสิน นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ นายจุมพล มีสุข นายชัยรัตน์ ธรรมพีร นายพยนต์ ศักดิ์เดชยนต์ และนายอดิศักดิ์ อธิราษฎร์กุล
โดยการดำเนินธุรกิจของบริษัท คิว-คอน อีสเทอร์น จำกัด จะดำเนินกิจการผลิต และจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ส่วนวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อให้บริษัทย่อยเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตอิฐมวลเบา บริษัทย่อยแผ่นผนัง และแผ่นพื้นคอนกรีตมวลเบา และคานทับหลังมวลเบาโรงงานแห่งที่ 4 ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงสุด 3 ล้านตารางเมตรต่อปี ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง โดยมีงบประมาณการก่อ สร้างโรงงานแห่งที่ 4 เป็นเงินจำนวนไม่เกิน 800 ล้านบาท แยกเป็นค่าที่ดินประมาณ 100 ล้านบาท ค่าก่อสร้างอาคารโรงงานประมาณ 150 ล้านบาท และค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับโรงงานแห่งที่ 4 ประมาณ 550 ล้านบาท
สำหรับวัตถุประสงค์การก่อตั้งบริษัทก็เพื่อที่จะขยายฐานการผลิตรองรับความต้องการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ส่วนแหล่งเงินทุนใช้จากเงินทุนหมุนเวียน หรือเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน โดยผลประโยชน์ที่คาดว่า จะได้รับคือขยายการดำเนินธุรกิจซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา แผ่นผนังและแผ่น พื้นคอนกรีตมวลเบา และคานทับหลังมวลเบา เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทฯ รักษาฐานลูก ค้ารายเก่า และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ เนื่องจากจะส่งผลให้กำลังการผลิตผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา แผ่นผนังและแผ่นพื้นคอนกรีตมวลเบา และคานทับหลังมวลเบาเพิ่มสูงขึ้น สามารถรองรับความต้อง การผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เสริมสร้างความสามารถในการสร้างรายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และผลประโยชน์จากเงินปันผล ในกรณีที่บริษัทย่อยมีการดำเนินงานที่มีผลกำไรและสามารถจ่ายเงินปันผลได้
นายกิตติ สุนทรมโนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ จำกัด(มหาชน) (Q-CON) กล่าวว่า การก่อตั้งบริษัท คิว-คอน อีสเทอร์น ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 4 ที่จังหวัดระยอง เป็นไปตามแผนงาน ของบริษัทที่ต้องการขยายกำลังการ ผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งคาดว่าในปีหน้า บริษัทจะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตรวมประมาณ 9-10 ล้านตารางเมตร ส่งผลให้ยอดขายรวมในปี 2548 มีสัดส่วนประมาณ 2-2.2 พันล้านบาท ซึ่งโรงงานแห่งที่ 4 จะมีกำลังการผลิต 3 ล้านตารางเมตร โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 3
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ ได้ออกบทวิเคราะห์ถึงปัจจัยพื้นฐาน Q-con โดยระบุว่า จากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสที่ 3 ผนวกกับการใช้กำลังการผลิตของโรงงานที่ 2 ที่สูงขึ้นเป็น 70% จะทำ ให้รายได้ของ Q-CON มียอดขาย ขั้นต่ำในไตรมาสที่ 3 ที่ 231,252 ล้านบาทเปรียบเทียบกับยอดขายที่ 243 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ส่วนในไตรมาสที่ 4 คาดว่าบริษัท จะสามารถใช้กำลังการผลิตจากโรงงานที่ 2 ได้ 100% น่าจะช่วยสร้างการเติบโตให้สูงขึ้นได้ต่อเนื่อง
บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ คาดรายได้ของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มขึ้นสูงถึง 47% ขณะที่กำไรสุทธิจะเพิ่ม ขึ้น 41% และจากการขยายกำลังการ ผลิตของโรงงานที่ 3 ที่จะเริ่มดำเนิน การผลิตในไตรมาส 1 ปีหน้า และโรงงานที่ 4 ในไตรมาสที่ 3 ปีหน้าจะทำให้รายได้และกำไรสุทธิของ Q-CON เติบโตได้กว่าเท่าตัว นอก จากนั้น Q-CON ยังได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนของภาครัฐฯ เช่น การสร้างโรงแรมที่สนามบินหนองงูเห่า ก็ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Q-CON ด้วย
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า จากการที่ Q-CON มีแผนการขยายกำลังการผลิตจาก 3 ล้านตร.ม./ปี เป็น 12 ล้านตร.ม./ปี โดยโรงงานที่สองเริ่มผลิตในสิ้นไตรมาสที่สอง ส่วนโรงงานที่สามและที่สี่จะทยอยเปิดในไตรมาสแรกปี 2548 และ ไตรมาสสามปี 2548 ตามลำดับ แม้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว แต่เนื่องจากคุณลักษณะเด่นของคอนกรีตมวลเบาทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดมาก และความต้องการยังสูงกว่ากำลังการผลิต
ดังนั้น แนวโน้มในปี 2547 และปี 2548 คาดหมายว่าเติบโตสูง และโดดเด่น โดยเราคาดหมายว่า ในปี 2547 ยอดขายจะเท่ากับ 1,156 ล้านบาท ขยายตัว 58% มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 394 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.99 บาท ขยายตัว 52% และในปี 2548 ยอดขายจะเท่ากับ 2,022 ล้านบาท ขยายตัว 75% มีกำไรเท่ากับ 622 ล้าน บาท กำไรต่อหุ้น 1.56 บาท ขยายตัว 58%
|
|
|
|
|