|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลล้มละลายกลาง ยืนยันผู้บริหารแผนทีพีไอไม่มีอำนาจในการสั่งปลด "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ผู้บริหารลูกหนี้ พ้นจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) "สมคิด" ลั่น ไม่กระทบการแก้ไขแผนฟื้นฟูฯทีพีไอ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนบอร์ดทีพีไอบางคนแทนที่จะโละทิ้งทั้งหมด หลังดึงพันธมิตรใหม่เข้าร่วมทุน มั่นใจเจ้าหนี้ต่างประเทศเข้าใจ
วานนี้ (2 พ.ย.) นายวิญญู พิชัย ผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง ได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีที่บริษัท เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส จำกัด (EPL) อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน)(TPI) ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลล้มละลายกลางที่ให้นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ พ้นจากทุกตำแหน่งในทีพีไอ และไม่ให้ผู้บริหารลูกหนี้ออกคำสั่งแก่พนักงาน รวมทั้งใช้ทรัพย์สินต่างๆในทีพีไอ
โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ยืนตามคำตัดสินของศาลล้มละลายกลาง เพราะตามมาตรา 90/1 พ.ร.บ. ล้มละลาย ให้นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ยังมีสถานะเป็นผู้บริหารลูกหนี้ และดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อไปได้ แต่ถูกจำกัดอำนาจในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของทีพีไอ หลังศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการ ตามมาตรา 90/25 และ 90/59 ดังนั้น ผู้บริหารแผนฯ ไม่มีอำนาจออกคำสั่งให้สถานะของนายประชัยสิ้นสุดลงได้
ซึ่งผู้บริหารลูกหนี้ยังคงมีอำนาจในการตรวจสอบการบริหารงานของคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู ซึ่งเมื่อการฟื้นฟูกิจการทีพีไอสิ้นสุดลงโดยการยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ มาตรา 90/74 ระบุว่า "ให้ผู้บริหารลูกหนี้กลับมามีอำนาจจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ต่อไปได้" แสดงว่าคำสั่งฟื้นฟูกิจการไม่ได้ทำให้สถานะของนายประชัย ซึ่งเป็นผู้บริหารลูกหนี้สิ้นสุดลงแต่อย่างใด เพียงแต่พักการใช้อำนาจในการบริหารกิจการและทรัพย์สินเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลมีคำสั่งแต่งตั้งผู้บริหารแผนแล้ว ให้อำนาจหน้าที่ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ตกแก่ผู้บริหารแผนฯ โดยมีอำนาจที่จะออกคำสั่งไม่ให้นายประชัยออกคำสั่งใดๆ แก่พนักงาน หรือติดต่อภายในพื้นที่ รวมทั้งใช้สินทรัพย์ต่างๆของทีพีไอ หรือต้องดำเนินการคืนทรัพย์สินที่ครอบครองอยู่ตามที่ผู้บริหารแผนมีอำนาจสั่งการ รวมถึงกุญแจสำนักงาน บัตรผ่านเข้าออก อุปกรณ์สำนักงาน พาหนะ รวมถึงกระดาษหัวจดหมายและตราประทับของบริษัท เป็นต้น
แหล่งข่าวจากคณะผู้บริหารแผนฯทีพีไอกล่าวว่า ตามข้อเสนอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอที่เจ้าหนี้ได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนการแก้ไขแผนฯเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการกำหนดในหลักการว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ในทีพีไอ ก็จะต้องมีการปลดคณะกรรมการเดิม เพื่อแต่งตั้งกรรมการใหม่เข้าไปดูแลแทน แต่เมื่อศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่าไม่สามารถที่จะปลดนายประชัย ออกจากการเป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอได้ ดังนั้น ผู้บริหารแผนฯก็อาจไม่ปลดนายประชัยพ้นจากตำแหน่ง แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบางคนแทน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อแผนฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งความกังวลของเจ้าหนี้ต่างชาติที่ไม่ต้องการให้นายประชัยเข้านั่งเป็นกรรมการบริษัท เพราะถือว่าการแก้ไขแผนฟื้นฟูฯได้ผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ศาลล้มละลายกลางเลื่อนนัดฟังคำสั่งศาลในการเห็นชอบการแก้ไขแผนฟื้นฟูฯทีพีไอฉบับกระทรวงการคลัง เป็นวันที่ 10 พ.ย. 2547 ว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อแผนฟื้นฟูฯ ที่เจ้าหนี้เห็นชอบไปก่อนหน้านี้ และมั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดจะจบโดยเร็ว
ส่วนกรณีที่ศาลฎีกาพิพากษาให้ยืนตามคำตัดสินของศาลล้มละลายกลางให้นายประชัยยังดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ต่อไปได้ แต่อำนาจในการบริหารจัดการบริษัทจะต้องถูกควบคุมไว้ชั่วคราวตามมาตรา 90/25 และ 90/59 นั้น มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของทีพีไอเช่นกัน "คงไม่มีอะไรหรอก มั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" นายสมคิดกล่าว
ศาลรธน.ชี้ขาดทีพีไอ 4 พ.ย.
ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดแถลงด้วยวาจาและลงมติกรณีคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 198 กรณี พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/17 ซึ่งมีข้อความบัญญัติว่า "...แต่ในกรณีที่ลูกหนี้เสนอผู้ทำแผนด้วยให้ผู้ทำแผนที่ลูกหนี้เสนอเป็นผู้ทำแผนเว้นแต่จะมีมติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนหนี้ทั้งหมดของเจ้าหนี้ซึ่งได้ออกเสียงลงคะแนนในมตินั้นกำหนดให้บุคคลอื่นเป็นผู้ทำแผน...." ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 และมาตรา 50 ประกอบมาตรา 29 หรือไม่
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงทั้งในรูปเอกสารและมาชี้แจงด้วยตนเองประกอบด้วย นายไกรสร บารมี-อวยชัย อธิบดีกรมบังคับคดีมาในฐานะตัวแทนของกระทรวงยุติธรรม, พล.อ.มงคล อัมพรพิศิฏฐ์ ประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูทีพีไอ และนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ
วานนี้ ราคาหุ้น TPI เปิดตลาดที่ 7.15 บาท มีแรงซื้อขายเข้ามาตลอดทั้งวัน จนช่วงใกล้ปิดตลาด มีแรงซื้อเข้ามาดันปิดตลาดที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 10 สตางค์ เปลี่ยนแปลง 1.40% มูลค่าการซื้อขายรวม 74.64 ล้านบาท
|
|
|
|
|