Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 พฤศจิกายน 2547
บางจากQ3กำไร1.2พันล้านรับอานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บางจากปิโตรเลียม

   
search resources

บางจากปิโตรเลียม, บมจ.
Energy




บางจากฯ โชว์งบไตรมาส 3 กำไรพุ่งกว่า 1,200 ล้านบาท จากค่าการกลั่นในไตรมาสนี้ที่ต่ำกว่าปกติ และการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากการสต๊อกน้ำมันถึง 1,414 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีเพียง 229 ล้านบาท และดอกเบี้ยจ่ายลดลง

นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP) ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3 ปี 2547 (งบรวม) สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 47 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 1,209.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.01 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนบริษัทมีกำไรสุทธิ 2,497.70 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.69 บาท

ขณะที่บริษัทมีรายได้รวม 20,816 ล้านบาท มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) บวก 1,542 ล้านบาท มีดอกเบี้ยจ่ายสุทธิ (หักลบดอกเบี้ยรับ) 180 ล้านบาท มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 183 ล้านบาท

โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าการกลั่น (ไม่รวมผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน) อยู่ที่ระดับ 1.26 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 0.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากในช่วงเดือนสิงหาคม 2547 ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันดิบทาปีส ที่บริษัทฯ ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต 40% ของน้ำมันดิบที่ใช้ทั้งหมด ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบของบริษัทฯ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้ ราคาผลิตภัณฑ์ก็ปรับตัวขึ้นไม่สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ค่าการกลั่นในไตรมาส 3 อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ แต่จากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นก็ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรจาก สต๊อกน้ำมัน 1,414 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 46 ที่มีกำไรจากการสต๊อกน้ำมันจำนวน 229 ล้านบาท

สำหรับไตรมาส 3 ปี 47 บริษัทฯ ได้เพิ่มปริมาณการกลั่นขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 89 KBD เท่ากับเป้าหมายที่วางไว้ โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 10 KBD ทั้งนี้ จากการที่บริษัทฯได้มีการหยุดซ่อมแซมอุปกรณ์ ในหน่วย Catalytic Reforming Unit เป็นเวลาประมาณ 8 วัน มิได้ส่งผลกระทบต่อการใช้กำลังกลั่นแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทฯได้นำน้ำมันคงคลัง มาจำหน่ายและเพิ่มปริมาณการกลั่นในช่วงหลังจากดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์สำรองแล้วเสร็จเพื่อชดเชยปริมาณการกลั่นที่ลดลง

อนึ่ง เพื่อแก้ไขปัญหาค่าการกลั่นอยู่ในระดับต่ำจากการใช้น้ำมันดิบทาปีสที่ราคายังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้เร่งดำเนินการลดสัดส่วนการใช้น้ำมันดิบทาปีสลง โดยจัดหาน้ำมันดิบจากแหล่งอื่นที่มีคุณภาพใกล้เคียงแต่ราคาต่ำกว่ามาทดแทน ซึ่งจะส่งผลทำให้ค่าการกลั่นในไตรมาสที่ 4 ปรับตัวดีขึ้น

นอกจากนี้ในไตรมาสนี้ บริษัทฯมีค่าการตลาด (ไม่รวมน้ำมันเครื่องบิน)อยู่ที่ระดับ 37 สตางค์ต่อลิตร ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 31 สตางค์ต่อลิตร ทั้งนี้ เป็นผลมาจากในช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นช่วง Low Season และยังได้รับผลกระทบจากสูตรราคาขายน้ำมันเครื่องบินจำนวน 109 ล้านบาท เนื่องจากสูตรราคาขายน้ำมันเครื่องบินที่บริษัทขายให้กับลูกค้า จะใช้ราคาน้ำมันเครื่องบินเฉลี่ยเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ต้นทุนขายที่ธุรกิจการตลาด ซื้อจากธุรกิจโรงกลั่นเป็นราคาน้ำมันเครื่องบินในเดือนส่งมอบนั้นๆ ส่งผลให้ในช่วงที่ราคาน้ำมันเครื่องบินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การจำหน่ายน้ำมันเครื่องบินให้มีผลขาดทุน แต่ในทางกลับกันหากเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันเครื่องบินมีแนวโน้มลดลง การจำหน่ายน้ำมันเครื่องบินก็จะมีกำไรมากเช่นกัน

อีกทั้ง บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ 358 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 42 ล้านบาท ผลจากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากปริมาณการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดอกเบี้ยจ่าย 183 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 94 ล้านบาท เป็นผลจากการ Refinance หุ้นกู้เดิมส่วนใหญ่ด้วยเงินทุนใหม่ที่ได้จากการปรับโครงสร้างการเงิน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us