จากกฎวิทยาศาสตร์สู่ความสำเร็จทางธุรกิจ
Richard Koch เป็นทั้งผู้ประกอบการ ที่ปรึกษาธุรกิจ และนักเขียน เขาเชื่อว่า
มีบทเรียนธุรกิจสำคัญๆ มากมายที่เราควรจะเรียนรู้ จากมุมมองของฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์
ทฤษฎีวิวัฒนาการ และเศรษฐศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ความเชื่อของเขา Koch ได้อ่านและค้นคว้าเรื่องกฎวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและรูปแบบต่างๆ
ที่พบในกฎธรรมชาติเหล่านั้นอย่างหนัก และนั่นก็คือการเริ่มภารกิจในการแปรเปลี่ยนกฎวิทยาศาสตร์ต่างๆ
ให้กลายเป็นแนวคิดที่มีคุณค่าและความหมาย ที่สามารถนำไปใช้ในโลกของธุรกิจ
เราสามารถนำกฎธรรมชาติมาใช้กับธุรกิจได้ Koch เขียนไว้อย่างชัดเจนในหนังสือของเขา
The Natural Laws of Business เพราะกฎธรรมชาติเหล่านี้กล่าวถึงธรรมชาติกับชีวิต
และธุรกิจก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ผู้ประพันธ์หวังผลอะไรจากการพิสูจน์ความเชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์กับธุรกิจ
Koch เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า "ถ้าเรายอมรับความเป็นจริงของโลก ซึ่งอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
เราก็สามารถที่จะเข้าใจกฎต่างๆ ที่เป็นตัวกำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกิจได้ดีขึ้น"
แค่เพียงเข้าใจและเคารพกฎธรรมชาติเพียงไม่กี่อย่าง และนำมันมาใช้ประโยชน์
เราก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิผลของธุรกิจของเราได้อย่างมหาศาล
จากทฤษฎีวิวัฒนาการถึง quantum mechanics
Koch แบ่งหนังสือออกเป็น 4 ตอนและแต่ละตอนแบ่งเป็นบทต่างๆ ในตอนแรก เขากล่าวถึงกฎต่างๆ
ทางชีววิทยา โดยเน้นที่งานของนักวิทยาศาสตร์อย่าง Charles Darwin และ Gregor
Mendel ในแต่ละบท Koch จะกล่าวถึงกฎและหลักการต่างๆ ที่ค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์แต่ละคน
แล้วจบบทด้วยการอธิบายว่า จะนำกฎธรรมชาติต่างๆ เหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจได้อย่างไร
ด้วยการหยิบยกทฤษฎีต่างๆ ของบรรดานักคิดผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นขึ้นมาประกอบ
Koch อธิบายว่า ไม่ว่าจะเป็นรางวัลชีวิตในระยะยาว ทฤษฎีวิวัฒนาการ หรือความสำเร็จธุรกิจ
คุณจะสามารถไขว่คว้าได้มาสำเร็จ ก็โดยผ่านการร่วมมือกับคนอื่นๆ หาใช่ได้มาเพราะคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวในระยะสั้นไม่
เพื่อสนับสนุนข้อเท็จจริงดังกล่าว Koch ชี้ให้เห็นว่า บริษัทมากมายประสบความสำเร็จเพราะการร่วมมือกัน
ซึ่งทำให้ลูกค้า พนักงาน และคู่ค้าของบริษัทรู้สึกประทับใจ ตัวอย่างของบริษัทที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยความร่วมแรงร่วมใจตามที่
Koch ยกมาคือ CNN, Federal Express, Levi Strauss และ Hewlett-Packard ในตอนที่
2 ของหนังสือ กฎการเคลื่อนไหวและแรงโน้มถ่วงของ Newton ถูกหยิบยกขึ้นมาอธิบายภายใต้บริบทของการแข่งขันและ
'แรงดึงดูด' ภายในบริษัท จากนั้นก็ถึงคราวที่ Koch จะหยิบยกทฤษฎีสัมพัทธภาพอันโด่งดังของ
Einstein มากล่าวถึง และวิธีนำทฤษฎีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจและการแข่งขัน
เขาจบตอนที่ 2 อย่างสมบูรณ์ด้วยการอธิบายทฤษฎี quantum mechanics ของ Neil
Bohr และนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ และการยอมรับความเป็นจริงของการแข่งขันของบริษัท
เพื่อแสดงให้เห็นว่า ทฤษฎีการส่งเสริมซึ่งกันและกันของ Bohr กล่าวคือ วิธีคิดที่สนับสนุนการรวมกันมากกว่าการเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
สะท้อนให้เห็นในโลกของบริษัทได้อย่างไร Koch อ้างถึงความร่วมมือกันทางด้านการตลาดระหว่าง
McDonald's, Disney และ Coca-Cola แทนที่จะต่างคนต่างทำตลาดอย่างบริษัทที่เป็นเอกเทศ
แต่ทั้ง 3 บริษัทกลับร่วมมือกันทางด้านตลาดและการส่งเสริมการขายสินค้าทุกครั้งที่มีโอกาส
Koch สรุปว่า บริษัทควรจะหาหนทางทลายกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างกัน เพื่อที่จะได้สามารถประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
ทฤษฎีไร้ระเบียบ ความซับซ้อน และโอกาส
ในตอนที่ 3 ของหนังสือ Koch กล่าวถึงความไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนแน่นอนของทฤษฎีไร้ระเบียบ
ว่าสามารถนำไปอธิบายความซับซ้อนของธุรกิจได้ นอกจากนี้ยังประยุกต์ทฤษฎีอันเกี่ยวกับดุลยภาพที่ไม่สม่ำเสมอ
และกฎของการขาดระเบียบ มาใช้อธิบายลักษณะของเศรษฐกิจใหม่ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจ
และหลุมพรางของความสำเร็จ
ในตอนที่ 4 Koch สรุปความสำคัญของการนำกฎวิทยาศาสตร์มาปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจ
โดยกล่าวว่า กฎวิทยาศาสตร์ได้เปิดเผย "ขุมทรัพย์ลี้ลับซึ่งยังไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อนให้แก่ผู้ประกอบการ"
The Natural Laws of Business เป็นหนังสือที่พาคุณไปสำรวจทฤษฎีวิทยาศาสตร์
และยังเป็นแผนที่นำทางไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจที่น่าคิด ด้วยสำนวนการประพันธ์ที่เรียบรื่นชวนอ่าน