เขาตัดสินใจหยุดการเรียนในระดับปริญญาเอก ที่กำลังศึกษาอยู่ ที่มหาวิทยาลัย
Standford สหรัฐอเมริกา ทั้ง ที่เหลือเวลาเรียนอีกเพียงแค่ 2 ปีลงชั่วคราว
เพื่อแสวงหาประสบการณ์จริงแทนห้องเรียน
ด้วยวัยเพียง 25 ปี ฉัตรชัยกลาย มาเป็นหุ้นส่วนเว็บไซต์ catcha.com เพื่อก่อตั้งบริษัทแคทชา
ไทยแลนด์ ในการทำเว็บไซต์ search engine ในชื่อ Catcha.co.th เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเครือข่ายระดับภูมิภาคเอเชีย
"ถ้าผมเรียนจนจบดอกเตอร์ไปอีก 2 ปี ผมคงจะต้องเสียดายโอกาส ที่เข้ามา เป็นประสบการณ์
ที่ไม่มีในห้องเรียน ที่สำคัญผมไม่รู้ว่าอีก 2 ปีข้างหน้า ผมจะมีโอกาสอย่างนี้อีกหรือเปล่า"
ฉัตรชัย เกิด ที่จังหวัดอุดรธานี ครอบครัวประกอบธุรกิจ เริ่มการศึกษาในจังหวัดบ้านเกิด
จากนั้น เข้ามาเรียนต่อ ที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล ช่วงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
สอบชิงทุนรัฐบาล มาเรียนต่อไฮสคูล ที่ The Hill School, Pennsylvania เป็นนักเรียนดีเด่นในโรงเรียน
มาเริ่มชีวิตนักศึกษาในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon สหรัฐอเมริกา
ได้ปริญญามา 2 ใบ จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน คือ วิศวกรรมไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ (เกียรตินิยมเหรียญทอง)
และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (เกียรตินิยมเหรียญทอง) จากนั้น ได้ทุนไปต่อปริญญาโท
วิศวกรรม ภาควิชาไฟฟ้า มหาวิทยาลัย Stanford และ กำลังศึกษาปริญญาเอกสาขา
และมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ว่าไปแล้ว สภาพแวดล้อมรอบตัว มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้ การสร้างเว็บไซต์
siampage. com เกิดมาจากการที่ใช้เพจเจอร์ทาง อินเทอร์เน็ตเป็นประจำ พอดีกับได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ
จึงเริ่มทำเว็บไซต์ siampage.com ซึ่งเป็นเว็บ ที่ใช้สำหรับ ส่งข้อความในเพจเจอร์
ไว้สำหรับติดต่อ กับครอบครัว ที่อยู่ในเมืองไทย แต่ปรากฏว่า มีคนเข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก
มีโฆษณาเริ่มมาลง
ฉัตรชัยเล่าว่า การอยู่ในมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ถิ่นกำเนิดของซิลิคอน วัลเลย์
มีอิทธิพลต่อตัวนักศึกษา ที่นี่ไม่น้อย ที่กลายเป็นนักธุรกิจโด่งดังในโลกดอทคอม
ก็ล้วนแต่เป็นอดีตนักศึกษา ที่เรียนมาครึ่งทาง มีไอเดีย ไปขอเงินจาก venture
capital ลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัว และประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของ
yahoo.com เอ็กไซต์
ฉัตรชัย เจอกับแพทริก โกรฟ ประธานกรรมการบริหาร catcha.com วัย 25 ปี ผ่านทางไอซีคิว
และหลังจากได้คุยกันไม่กี่ครั้ง ฉัตรชัยก็ตัดสินใจทิ้งชีวิตการเรียนลงชั่วคราว
เพื่อมาเป็นหุ้นส่วนใน catcha.com
ฉัตรชัยบอกว่า การตัดสินใจของเขา ไม่ได้เกิดมาจากการสุ่มเสี่ยงเหมือนกับการโยนเหรียญ
เลือกหัวหรือก้อย แต่ เปรียบเหมือนกับการโยนลูกเต๋าทางได้ย่อมมีมากกว่าสอง
catcha.com เป็นเว็บไซต์ ที่เพิ่งได้รับอนุมัติจากตลาดหุ้นสิงคโปร์มาได้ไม่นาน
เกิดจากการรวมตัวระหว่าง web search engine ใน 3 ประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย
และอินโดนีเซีย ผู้ก่อตั้งล้วนแต่ คนรุ่นใหม่ วัยไม่เกิน 25 ปีทั้งสิ้น เป้าหมายของพวกเขาเหล่านี้
ก็คือ การสร้างเว็บไซต์ระดับภูมิภาค มีสำนักงานอยู่ทั้งในไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย
อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย เป้าหมายของ พวกเขาคือ การเป็น web
search en-gine ระดับภูมิภาคเอเชีย
"จุดแข็งของเราอยู่ ที่การเข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละประเทศด้วยเทคโนโลยี
ภาษาท้องถิ่นของแต่ละประเทศ"
การสร้างตัวเองให้เป็นเว็บไซต์ทางด้าน search engine ระดับภูมิภาค เอเชีย
ทำให้ catcha.com ต้องเข้าถึงการใช้งานอย่างจริงจัง เพราะแต่ละประเทศจะมีวัฒนธรรม
และความต้อง การที่แตกต่างกันไป การเข้ามาตั้งสำนัก งานในประเทศต่างๆ ในแถบเอเชีย
ซึ่งนอกเหนือจากไทยแล้ว catcha.com มีสำนักงานในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย
ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย และการให้อิสระในการบริหารงานของกรรมการผู้จัดการเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับ
ที่นี่
catcha.com ซื้อเทคโนโลยีใน การค้นหาข้อมูลตัวเดียวกับ ที่ lycos. com และ
infoseek.com ใช้เป็นส่วน หนึ่ง ที่พวกเขาพยายามสร้างมาตรฐานในสหรัฐอเมริกา
แต่สิ่งที่ฉัตรชัย และกรรมการผู้จัดการคนอื่นๆ ต้องทำมาก กว่านั้น ก็คือ
การสร้างเนื้อหาข้อมูล ภายใน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีคนเข้าเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง
"เว็บไซต์ search engine ไม่เหมือนกับพวกอีเมล เขาเปลี่ยนไปใช้เว็บอื่นได้ตลอด
สิ่งที่ผมต้องทำ คือ สร้างบริการต่างๆ เพื่อดึงดูดให้คนมาใช้เว็บไซต์ของเราอย่างต่อเนื่อง"
ปัจจุบัน catcha.com มีเว็บ ไซต์ ที่ link อยู่ทั่วโลกมากกว่า 10 ล้าน เว็บไซต์
ในจำนวนนี้เป็นของไทย 5,000 เว็บ ในสิงคโปร์ 70,000 เว็บไซต์
ความมุ่งหวังในเรื่องรายได้ของ catcha.co.th ไม่ต่างจากเว็บไซต์อื่นๆ นั่นก็คือ
รายได้จากโฆษณา จากนั้น จึงเป็นเรื่องของ e-commerce และ mobile commerce
ที่จะตามมา เมื่อมีความพร้อมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องของกฎหมาย และระบบการชำระเงิน
ฉัตรชัยไม่ใช่คนเดียวในธุรกิจดอทคอม ที่กำลังร้อนแรง แต่เขาเป็นอีกคนหนึ่ง
ที่กำลังสร้างความท้าทายในโลกของอินเทอร์เน็ต
