|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นักลงทุนแห่ฟังโรดโชว์ อสมท กว่า 1,000 คน "มิ่งขวัญ" ยันแผนขายหุ้นไม่เปลี่ยน แม้สถานการณ์ใต้กระทบตลาดหุ้น เชื่อคลี่คลายในทางที่ดี มั่นใจหุ้นอสมทฮอต หลังพบคอลเซ็นเตอร์ตอบข้อมูลนักลงทุนไม่ทัน มั่นใจไม่ถูก กสช.ยึดคลื่น เพราะมีรายการสาระกว่า 80% ด้านที่ปรึกษาเผยช่วงราคา 17-22 บาท กำหนดตอนดัชนี 650 จุด หากหลุด 600 ต้องประเมินใหม่ และหาก สถาบันบุ๊กบิวด์ต่ำกว่า 17 บาทขึ้นอยู่กับคลังว่าจะขายหุ้นหรือไม่
วานนี้ (28 ต.ค.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลการขายหุ้นต่อนักลงทุน ปรากฏว่ามีนักลงทุนเข้าร่วมฟังกว่า 1,000 คน
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่กระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นว่า เชื่อว่าน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และหากไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่มีการเลื่อนการขายหุ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจากการทดสอบการ ตอบรับของนักลงทุนที่ผ่านมาค่อนข้างดีมาก มีการโทร.เข้ามาสอบถามที่คอลเซ็นเตอร์ของบริษัทเฉลี่ย 800 รายต่อวัน เทียบกับหุ้นไอพีโอทั่วไปที่มีการโทร.เข้าสอบถามเฉลี่ยเพียง 300 รายต่อวัน รวมทั้งนักลงทุนที่สนใจเข้ามาฟังการโรดโชว์ในครั้งนี้มีจำนวนมาก ทำให้มั่นใจว่าหุ้น อสมท ได้รับความสนใจจากนักลงทุน
ส่วนการจัดสรรหุ้นให้แก่รายย่อยผ่านทางสาขาของธนาคารกรุงไทยนั้น ยืนยันว่าจะเกิดความเป็นธรรมต่อผู้จองซื้อ เพราะจะคีย์ข้อมูลของผู้จองแต่ละคนในทันที ไม่เก็บไว้คีย์ทีหลัง และมีการดูแลความพร้อมของระบบ
สำหรับผลกระทบหลังจากการมี กสช.นั้นนายมิ่งขวัญกล่าวว่า มั่นใจว่า อสมท จะสามารถแข่งขันกับเอกชนได้ และจะเป็นคลื่นสุดท้ายที่ถูกยึดคลื่นคืน เนื่องจากหลักเกณฑ์ของการจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ คือการพิจารณาประโยชน์ที่จะเกิดต่อประเทศชาติเป็นหลัก โดยในส่วนของ อสมท มีการผลิตรายการทั้งในส่วนของวิทยุและโทรทัศน์ที่เป็นสาระประมาณ 80%
นอกจากนั้น อสมท ยังคงสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะไม่กระทบต่อการแข่งขันกับภาคเอกชน เพราะการแปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนทำให้ถูกปลดพันธนาการในเรื่องของการตัดสินใจในการทำธุรกิจและดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นอิสระ ประกอบกับในอนาคตมีแนวโน้มว่าระบบโทรทัศน์และวิทยุจะเปลี่ยน มาใชระบบดิจิตอล จากปัจจุบันใช้ระบบอนาล็อก ซึ่ง 1 คลื่นสามารถแตกได้เป็นหลายคลื่น ดังนั้น ในอนาคตปัญหาจะกลับกันคือมีจำนวนคลื่นมากแต่ขาดผู้ที่จะเข้ามาบริหารคลื่น
แผนการลงทุนภายใน 5 ปีข้างหน้าจะใช้เงินประมาณ 7,000 ล้านบาท ลงทุนในโครงการใหญ่ๆ อย่างเช่น MCOT TV, ศูนย์ข่าวระดับนานาชาติ ดิจิตอล ทีวี และการขยายเน็ตวิร์กทั่วประเทศ
นายมิ่งขวัญกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา อสมท ต้องนำส่งรายได้ให้กระทรวงการคลัง 60% ของกำไรสุทธิ ซึ่งหลังจากเข้าตลท.จะเสียภาษีเพียง 25% ซึ่งน้อยกว่าที่เคยนำส่งให้กระทรวงการคลัง ดังนั้นนักลงทุนไม่ตองเป็นห่วง โดย อสมท มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ส่วนราคา ขายหุ้นที่กำหนดที่ 17-22 บาท นั้นถือว่าไม่แพงหากเทียบกับบริษัทอื่นๆในตลาดฯ เพราะอสมท มีถึง 6 ธุรกิจ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ สำนักข่าวไทย ยูบีซี ช่อง3 และพาโนรามา ในขณะที่บางบริษัทมีธุรกิจอย่างเดียว ยังตั้งราคาขายสูงถึง 15 บาทได้
นายบุญชัย ศรีปรัชญาอนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ภัทร ที่ปรึกษาทางการเงินเปิดเผยว่า การกำหนดช่วงราคาจองหุ้น อสมท ที่ระดับ 17-22 บาท นั้นกำหนดในช่วงที่ดัชนีอยู่ที่ระดับ 650 จุด ซึ่งการที่ดัชนีปรับตัวลดลงในขณะนี้ถือว่ายังไม่มีผลทำให้แผนการขายหุ้น อสมท เปลี่ยนแปลงไป โดยจะยังคงกำหนดวันจองซื้อขายนักลงทุนรายย่อยวันที่ 4 พ.ย. นี้
อย่างไรก็ตาม หากดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงจนต่ำกว่า 600 จุด จะมีการพิจารณาถึงแผนการขายหุ้นใหม่อีกครั้ง ส่วนการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบันหากมีการเสนอราคามาที่ระดับต่ำกว่าช่วงราคาที่กำหนดไว้ 17-22 บาท ต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ และคณะกรรมการระดมทุนว่าจะขายหุ้นหรือไม่
"เรื่องความรุนแรงทางภาคใต้เราต้องจับตามอง อย่างใกล้ชิด แต่ในขณะนี้ยังยืนยันว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเชื่อว่ารัฐบาลจะดูแลปัญหาได้" นายบุญชัย กล่าว
ทั้งนี้ หุ้นในส่วนของกรีนชู จะจัดสรรไม่เกิน 18 ล้านหุ้น โดยจะมีการตัดสินใจจัดสรรอย่างไร ในเช้าวันที่ 8 พ.ย. ก่อนที่จะมีการสุ่มผู้ได้รับจองหุ้น พร้อมทั้งจะมีการประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการด้วย
วันนี้ อสมททำการโรดโชว์ให้นักลงทุนในประเทศ และจะเดินทางไปให้ข้อมูลนักลงทุนที่ฮ่องกง และสิงค์โปร์ ในวันที่ 4-5 พ.ย. ซึ่งการขายหุ้นให้แก่นักลงทุนต่างชาติจะขายเฉพาะนักลงทุนยุโรปและเอเชีย โดยจะไม่มีการขายหุ้นโดยตรงให้แก่นักลงทุน ในสหรัฐอเมริกา
|
|
|
|
|